ช่วงนี้ใครไปเดินเล่นย่านสุขุมวิท 26 อาจสะดุดตากับอดีตโกดังเก่าร้างที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นป็อบอัพมิวเซียมที่ถ่ายทอดเรื่องสกูตเตอร์แบรนด์ เวสป้า
ผ่านงานศิลปะและสถาปัตยกรรมสีสดใสสไตล์พาสเทล ภายใต้ชื่องาน HOUSE OF LA DOLCE VITA IN SCOOTER
แม้ที่นี่จะเปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ชั่วคราว แต่ก็มีเรื่องราวและงานดีไซน์ให้สำรวจอยู่ไม่น้อย
ตัวนิทรรศการตั้งใจนำเสนอประวัติของรถสกูตเตอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเรื่องเล่าที่ทำให้การขี่สกูตเตอร์กลายเป็นวัฒนธรรมสุดป็อบไปทั่วโลก
HOUSE OF LA DOLCE VITA IN SCOOTER แตกต่างจากนิทรรศการอื่นตรงที่ทั่วทั้งงานโดดเด่นไปด้วยสีสันสว่างสดใส ไม่ว่าปรายตามองไปทางไหนก็ไม่เห็นสีขาวแทรกตัวอยู่แม้แต่มุมเดียว
สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกในมิวเซียมแห่งนี้คือ ผู้จัดไม่เพียงตั้งใจให้คนยุคใหม่เข้ามาเสพข้อมูลความรู้ แต่อยากให้สัมผัสและเข้าถึงงานศิลปะมากกว่าในพิพิธภัณฑ์ทั่วไป โดยอนุญาตให้จับชิ้นงานและบันทึกภาพได้ตามใจต้องการ
แต่ละห้องภายในงานมีขนาดพื้นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งกว้าง ยาว แคบ ทำให้ผู้คนที่เข้ามาชมงานศิลปะรับรู้ได้ถึงความหลากหลายและเห็นมุมมองภาพถ่ายในมิติที่น่าสนใจมากขึ้น
เมื่อเดินเข้ามาด้านใน เชื่อว่าหลายคนต้องสะดุดตากับห้องจำหน่ายตั๋วเข้าชมนิทรรศการที่มีสีสันแสบซ่าน
ก่อนเข้าสู่ทางเดินที่เล่าประวัติความเป็นมาของเวสป้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จากการเที่ยวชมงานนี้ เราเรียนรู้ว่า ต้นกำเนิดสกูตเตอร์เกิดจากความทะเยอทะยานของชาวอิตาเลียน ผู้อยากจะพัฒนายานพาหนะขับเคลื่อนสองล้อของตนเองในแบบไม่ซ้ำใคร
การออกแบบสกูตเตอร์ในยุคนั้น จึงสะท้อนถึงวัฒนธรรมหลายอย่างของชาวอิตาเลียนในแคว้นทัสคานี
ทั้งอาหาร ดนตรี ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และฉายให้เห็นภาพไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่รักอิสระ ไม่ถูกจำกัดอยู่ในกรอบ โดยใช้สกูตเตอร์เป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวัน
และเมื่อไหร่ที่คิดถึงแคว้นทัสคานี ภาพของแหล่งกำเนิดไวน์ชั้นดีอย่าง Chianti ที่ได้รับความนิยมจากนักดื่มทั่วโลกก็ลอยเข้ามา มุมหนึ่งของนิทรรศการนี้ จึงสร้างสรรค์ออกมาเป็นขวดไวน์หลากสีพาสเทล
ส่วนมุมนี้แสดงให้เห็นถึงอาหารที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของชาวอิตาเลียน คือพาสต้า ซึ่งในแคว้นทัสคานี มีเส้นพาสต้าที่มีชื่อเสียงอยู่ชนิดหนึ่ง คือ PICI เส้นพาสต้าขนาดใหญ่ หนานุ่มเป็นพิเศษ
ในโซนโรงงาน เล่าเรื่องขั้นตอนการผลิตรถสกูตเตอร์เวสป้า ที่นักออกแบบได้ไอเดียจากปัญหาหญิงสาวใส่กระโปรงขี่จักรยาน แล้วมักจะเลอะคราบน้ำมันจากโซ่จักรยาน พวกเขาจึงออกแบบตัวถังรถเวสป้าให้คลุมเครื่องยนต์เอาไว้ เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและไม่เลอะเปรอะเปื้อนอีกต่อไป
เวสป้าถือเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะวัสดุในการผลิตที่เลือกใช้เหล็กมาทำเป็นตัวถัง เนื่องจากเหล็กมีความแข็งแรงทนทานสูง ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับการสร้างเครื่องบิน
ในมุมหนึ่งมีชิ้นส่วนต่างๆ ของเวสป้าถูกถอดออกมาแสดงให้เห็นกันชัดๆ มองแล้วคล้ายกับตัวต่อของเล่น และถูกนำมาจัดแสดงเป็นศิลปะแนวติดตั้ง (installation art)
ส่วนใครอยากรู้ว่า สีสันรถเวสป้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีสีอะไรบ้าง คำตอบอยู่ภายในงาน
หากเดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง จะเห็นโปสเตอร์แสดงงานโฆษณาของเวสป้าในแต่ละยุคแต่สมัย ภาพเหล่านี้ไม่ได้เน้นแค่เรื่องสมรรถนะของตัวรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังแสดงให้เห็นแนวคิดของคนในยุคที่เวสป้ารุ่งเรื่อง ผ่านไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตที่ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเรื่องของกายภาพ สังคม หรือความคิด
ห้องถัดมาเรียกว่า ห้องแอปเปิ้ล เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ทุกคนต้องหยุดเดิน พร้อมหยิบกล้องหรือโทรศัพท์มือถือออกมาบันทึกภาพลูกแอปเปิ้ลสีแดงไซส์ยักษ์
ในขณะที่ห้อง HALL OF FREEDOM เต็มไปด้วยกระจกเงาสะท้อนอยู่ในทุกมุม ทำให้เราเห็นภาพตัวเองในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คล้ายกับการใช้ชีวิตที่หลายครั้งเราอาจมองข้ามความรู้สึกของตัวเองในบางด้าน แต่การได้มายืนอยู่ในห้องนี้ ก็ทำให้เราได้พบมุมใหม่ของตัวเองที่ไม่คาดฝัน
เมื่อเดินชมงานนิทรรศการนี้จนจบครบทุกห้อง นอกจากจะได้ภาพสวยๆ ลงเฟซบุ๊กและไอจี เรายังได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นความรู้เรื่องรถสุดคลาสสิกอย่างเวสป้า
รวมทั้งแรงบันดาลใจจากศิลปะและดีไซน์ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้เติมเชื้อเพลิงใหม่ๆ ให้ชีวิต.
งาน HOUSE OF LA DOLCE VITA IN SCOOTER เปิดให้เข้าได้ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ที่โครงการ WAREHOUSE 26 สุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/houseofldvs