โลกรู้จักกับ ‘โทมิเอะ’ ครั้งแรกผ่านภาพถ่ายในงานศพ เธอคือเด็กวัยรุ่นชั้นมัธยมปลายผู้ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด ฆาตกรหั่นร่างของเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วเอาไปทิ้งตามที่ต่างๆ ทั่วเมือง เป็นคดีฆาตกรรมที่ตำรวจยังตามจับคนร้ายไม่ได้ เพราะขาดเบาะแสและหลักฐานที่ใช้ระบุตัวผู้กระทำผิด
ยินดีไหมหากได้รู้จัก: แรกพบและจุดจบแรกของโทมิเอะ
ย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ วันนั้นเธอและเพื่อนๆ ออกไปเรียนวิชาภูมิศาสตร์นอกห้องเรียน บริเวณภูเขาแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งพัก โทมิเอะเดินเข้าไปคุยกับคุณครูสองต่อสอง เธอขู่ว่าหากครูไม่ยอมเลิกกับภรรยา จะแฉให้คนทั้งโรงเรียนรู้ว่าเขาทำเธอท้อง แต่ไม่ทันไร เพื่อนนักเรียนชายซึ่งเป็นแฟนที่กำลังคบหากับโทมิเอะเดินมาได้ยินเข้า จึงกระชากเธอออกไปตบหน้าด้วยความโกรธ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แล้วโทมิเอะก็พลัดตกหน้าผาด้วยอุบัติเหตุ
แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะคุณครูห้ามนักเรียนชายคนนั้นเรียกรถพยาบาล ส่วนเพื่อนๆ ในห้องก็ยินดีปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะทุกคนไม่ชอบขี้หน้าโทมิเอะเป็นทุนเดิม จึงเห็นพ้องต้องกันว่า โทมิเอะสมควรตาย และไม่ควรมีใครต้องเสียอนาคตเพราะคนอย่างเธอ
คุณครูจึงบอกให้นักเรียนชายถอดชุดนักเรียนออก แล้วมาช่วยกันชำแหละร่างของโทมิเอะ ส่วนนักเรียนหญิงให้แยกย้ายกันไปดูต้นทาง วินาทีที่ใบมีดเฉือนผิว โทมิเอะกลับตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด ทุกคนตกใจมากที่เธอยังไม่ตาย แต่ทุกอย่างเลยเถิดมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ
พวกเขาร่วมกันฆ่าเธอแล้วหั่นร่างออกเป็น 42 ชิ้น เท่ากับจำนวนนักเรียนในห้อง เพื่อแบ่งชิ้นส่วนให้ทุกคนเอาไปทิ้งอำพรางศพ
หลังจากคุณครูและเพื่อนร่วมห้องเสแสร้งแกล้งปั้นหน้าเศร้าไปร่วมงานศพของโทมิเอะเป็นพิธี วันรุ่งขึ้นขณะทุกคนกำลังจะเริ่มเรียนวิชาแรกตามปกติ โทมิเอะก็เดินเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาเฉย เธอพูดเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติว่า “ขอโทษที่มาสายค่ะ”
การกลับมาของเธอทำให้คุณครูและอดีตแฟนกลายเป็นคนเสียสติ เพื่อนในห้องหลายคนตัดสินใจลาออกทันที เพื่อนที่ยังอยู่ก็ค่อยๆ เสียสติไปทีละคน ถึงขนาดยอมฆ่าตัวตายเพื่อไม่ต้องรับรู้เรื่องแปลกประหลาดนี้ก็มี
เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งย้ายมาอยู่ต่างเมืองหวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ระหว่างกำลังเดินเล่นอยู่ริมหาด เธอบังเอิญพบห่อบางอย่างถูกคลื่นทะเลซัดเกยฝั่งใกล้โขดหินหน้าปากถ้ำ เธอจำได้ว่าเป็นห่อใส่ชิ้นส่วนของโทมิเอะ ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปดูใกล้ๆ
สิ่งที่เธอเห็นคือความผิดธรรมชาติของมนุษย์ เพราะก้อนเนื้อนั้นมีอวัยวะส่วนต่างๆ งอกออกมาใหม่ ราวกับว่าโทมิเอะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซ่อมแซมและรักษาตัวเองได้
จุนจิ อิโต้: ผู้ให้กำเนิดนางมารร้ายกับความงามระดับปลิดชีพ
เรื่องราวของโทมิเอะ เริ่มต้นจากมังงะความยาวเพียง 30 หน้า โดยฝีมือของ จุนจิ อิโต้ (Junji Ito) นักเขียนมังงะสยองขวัญ ซึ่งตอนนั้นเขายังทำงานเป็นช่างทันตกรรม แต่ด้วยความมุ่งมั่นอยากคว้า Kazuo Umezu Award ให้ได้ เพราะเป็นรางวัลที่ตัดสินโดย อุเมะซุ คะซุโอะ (Umezu Kazuo) ปรมาจารย์ผู้บุกเบิกเขียนมังงะสยองขวัญคนโปรดของเขา
จุนจิจึงแบ่งเวลาว่างระหว่างทำงานมาเขียนมังงะจนเสร็จแบบเฉียดฉิว แล้วความพยายามของจุนจิก็ประสบผลสำเร็จ มังงะเรื่องโทมิเอะได้รับรางวัลชมเชย เปิดทางให้เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักเขียนมังงะอย่างเต็มตัว โทมิเอะจึงเป็นผลงานแรกที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสารสำหรับเด็กผู้หญิง Gakkan Halloween ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1987 จนถึงปี 2000 กลายเป็นตัวละครเอกสร้างชื่อให้จุนจิเป็นที่รู้จักในหมู่นักอ่านมังงะสยองขวัญทั่วโลก
โทมิเอะเกิดจากประสบการณ์สมัยมัธยมต้นของจุนจิ เขาจดจำความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นหลังสูญเสียเพื่อนในห้องไปอย่างกะทันหันเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ดี จึงนำความรู้สึกนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจในช่วงเริ่มต้นเรื่องโทมิเอะ โดยเปลี่ยนเป็นตัวละครเด็กผู้หญิงแทน
ไม่มีใครรู้ประวัติที่แน่ชัดของโทมิเอะ จุนจิเองก็ไม่เคยเปิดเผยถึงเรื่องนี้ เขาอาจตั้งใจทิ้งไว้เป็นปริศนา รู้แต่ว่าจุนจิสร้างโทมิเอะให้เป็นภาพแทน femme fatale หรือนางมารแพศยาผู้ใช้เสน่ห์ยั่วยวนชายให้หลงใหล ภายใต้ความงามเบื้องหน้าจึงแฝงเร้นไว้ซึ่งความลึกลับน่าค้นหา กว่าหนุ่มผู้อับโชคจะรู้ตัวว่าโทมิเอะคือหญิงอันตรายก็สายเสียแล้ว ทุกชีวิตที่เธอเข้าไปพัวพันด้วย มักจะต้องพบกับหายนะและความพินาศย่อยยับจนไม่เหลือชิ้นดี เป็นความสวยระดับสังหารยิ่งกว่าความเลวร้ายใดๆ
บ่อยครั้งที่จุนจิได้รับจดหมายจากนักอ่านผู้หญิง พวกเธอบอกทำนองเดียวกันว่า ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้หญิงแบบโทมิเอะ ในมุมมองของจุนจิ เขาคิดว่าเหตุผลที่คนชื่นชอบตัวละครนี้ เพราะโทมิเอะมีสิ่งที่หาได้ยากในชีวิตจริง นั่นคืออิสระที่จะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจกฎเกณฑ์หรือกรอบสังคมใดๆ โทมิเอะมีชีวิตในแบบที่เธอต้องการ ทุกอย่างหมุนรอบตัวเธอเพราะเธอวางตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล แม้เป็นคนเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ และโอหังมากแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเธอย่อมเป็นที่หมายปองของผู้ชายเสมอ
กอดฉันหน่อย: ความใคร่และอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ความงาม คือคุณสมบัติข้อเดียวที่ทำให้โทมิเอะยืนอยู่บนตำแหน่งที่เหนือกว่าทุกคน แค่ได้เห็นใบหน้าอันมีเอกลักษณ์ ตาเฉี่ยวคม ไฝที่หางตาข้างซ้าย ผมยาวสีดำขลับ ย่อมถูกครอบงำด้วยความรู้สึกสองขั้วตรงข้ามกัน คือ ความใคร่สำหรับเพศชาย ส่วนเพศหญิงเป็นความรู้สึกเกลียดชังและอิจฉาในความสวยไร้ที่ติ เพราะโทมิเอะเป็นที่หมายปองของผู้ชายที่พวกเธอแอบหลงรักหรือกำลังเป็นแฟนกันอยู่
เมื่อโทมิเอะเอ่ยปากหว่านล้อมให้ผู้ชายสักคนหันมาสนใจ ต่อให้มีแฟนหรือคู่ครองอยู่ก่อนหน้า เขาก็พร้อมหลงเธออย่างหัวปักหัวปำ เสน่ห์ของโทมิเอะดึงดูดให้ผู้ชายยอมตกเป็นทาสรับใช้และเชื่อฟังคำของเธออย่างง่ายดาย ถ้าสั่งให้ไปฆ่าใครสักคนก็ย่อมทำได้
ผู้ชายทุกคนที่ข้องเกี่ยวกับโทมิเอะเชิงชู้สาวจะถูกกระตุ้นให้รู้สึกต้องการครอบครองเธออย่างรุนแรง ถึงขนาดอยากฆ่าเพื่อไม่ให้โทมิเอะตกไปเป็นของชายคนอื่น เช่นเดียวกับผู้ชายที่โทมิเอะเข้าไปเกี่ยวดองด้วยมักพบจุดจบเป็นความตาย
โทมิเอะใช้ความสวยเป็นอำนาจบังคับให้ผู้ชายทำในสิ่งที่เธอต้องการ เธอปลุกปั่นจิตรกรให้ใช้เธอเป็นแบบวาดภาพ แต่เธอกลับเยาะเย้ยผลงานนั้นว่า วาดสวยได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเธอด้วยซ้ำ ความสวยของเธอยังเป็นเหตุให้พี่น้องผู้ชายสี่คนห้ำหั่นกันเพื่อแย่งชิงเธอคนเดียว
‘กอดฉันหน่อย’ โทมิเอะหว่านเสน่ห์และเป็นฝ่ายร้องขอให้ผู้ชายสนใจในตัวเธอทุกครั้งที่มีโอกาส แม้ตัวเองจะอยู่ในสภาพดูไม่ได้แค่ไหน
ประเด็นนี้ มินามิ โนบุนะกะ (Minami Nobunaga) นักวิจารณ์มังงะให้ความเห็นว่า ความงามและการปลุกเร้าอารมณ์ของโทมิเอะ เช่น เป็นฝ่ายเข้าไปกอดจูบถึงเนื้อถึงตัวก่อน ทำให้ผู้ชายไม่อาจระงับใจหรือความรู้สึกลุ่มหลงทางเพศได้
เพราะโทมิเอะเป็นตัวละครที่มีลักษณะ Hypersexuality หรืออาการใคร่ไม่รู้อิ่ม หมกมุ่นในกาม เธอเสพติดความต้องการทางเพศฉับพลันสุดโต่ง ซึ่งเกิดขึ้นได้ในทุกเพศ หากเกิดในเพศหญิงจะเรียกว่า Nymphomania (ส่วนเพศชายเรียกว่า Satyriasis)
โทมิเอะทำให้ทุกคนคลั่งไคล้เธออย่างถึงที่สุด แล้วเธอจะเป็นฝ่ายบอกเลิกหรือขอตีตัวออกหาก ด้วยความโกรธแค้นและไม่อยากปล่อยให้โทมิเอะหลุดมือไป สุดท้ายบรรดาผู้ชายเหล่านั้นจะลงมือฆ่า เธออย่างเลือดเย็น แต่ไม่ว่าจะถูกฆ่าสักกี่ครั้ง โทมิเอะจะฟื้นคืนชีพกลับมาได้เสมอ
ความพึงพอใจที่ตนได้ตายโดยการถูกฆ่า เพื่อเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนแรงขับสัญชาตญาณแห่งชีวิตหรืออีรอส (Eros) และสัญชาตญาณแห่งความตายหรือทานาทอส (Thanatos)
ทั้งหมดอธิบายได้ด้วยแนวคิดจิตวิทยาของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิตแพทย์ชาวออสเตรีย ผู้วางรากฐานทฤษฎีจิตวิเคราะห์
อีรอสของโทมิเอะ แสดงออกผ่านการสัมผัสและเล้าโลมให้ผู้ชายเข้าใจว่าเธอคือเป้าหมายทางเพศของเขา โทมิเอะเองก็แสวงหาความสุขและความพึงพอใจให้กันตนเองโดยไม่สนใจว่า สิ่งที่ต้องการเป็นเรื่องขัดต่อศีลธรรมหรือไม่ ส่วนทานาทอสของโทมิเอะ คือความรู้สึกอยากทำลายล้างทุกอย่าง เธอจึงแสดงออกเป็นความก้าวร้าวเจ้าอารมณ์ ไร้เหตุผล และขาดการขัดเกลาทางสังคม
อมตะ: โทมิเอะเป็นอมนุษย์ เธอไม่มีวันตายอย่างสมบูรณ์
โทมิเอะคือตัวอะไรกันแน่? เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ แต่ข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้แน่นอนคือ เธอไม่ใช่มนุษย์
2 ปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์ฆ่าหั่นศพนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลาย โทมิเอะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอหว่านล้อมให้ชายหนุ่มที่เธอเจอเลิกกับแฟนสาวที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โทมิเอะโกหกว่า แฟนของเขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหมอ แต่เขายังไม่ปักใจเชื่อ จึงมีเรื่องให้ผิดใจกัน จนเธอบอกเลิก
ไม่นานโทมิเอะกลับมาขอคืนดี แต่กลับถูกผู้ชายฆ่าตาย ในห้องสอบสวน ฝ่ายชายให้ปากคำว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว แค่เห็นหน้าก็รู้สึกอยากฆ่าแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ แต่ยังทำไม่สำเร็จเพราะถูกตำรวจจับได้ก่อน
ระหว่างนั้น หมอชันสูตรพบว่าเลือดของโทมิเอะเข้ากันได้กับร่างกายแฟนสาวของเขา จึงเร่งทำเรื่องขอเปลี่ยนถ่ายไต การผ่าตัดเหมือนผ่านไปด้วยดี แต่ไม่นานท้องของเธอพองขึ้นราวตั้งครรภ์ เธอเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจนหมอต้องตรวจดูอาการอย่างเร่งด่วน
หมอพบว่าไตมีแขนและขางอกออกมา ปลายท่อไตที่ยื่นเข้าไปในกระเพาะอาหารมีตัวคนอยู่ด้วย หมอตัดสินใจผ่าเอาไตนั้นออกทันที แล้วสิ่งที่โผล่พ้นจากท้องหลังลงมีดผ่า ก็คือหัวของโทมิเอะ
ไตประหลาดนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องใต้ดินของโรงพยาบาล หมอตั้งข้อสังเกตว่า โทมิเอะเหมือนกับตัวพลานาเรีย ไม่ว่าจะตัดออกเป็นกี่ส่วน มันจะงอกออกมาเป็นตัวใหม่ได้เสมอ หมอเริ่มสงสัยด้วยว่า ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่าเอาไตออกมาได้สองวัน แต่ร่างกายผู้ป่วยกลับฟื้นตัวเร็ว แผลหายดีแล้ว น่าจะเป็นผลข้างเคียงที่ร่างกายได้รับเซลล์ของโทมิเอะ
ไม่นานโทมิเอะคืนสภาพเป็นหญิงสาวจนหมอรู้สึกตกตะลึงในความสวยของเธอ ส่วนหญิงที่ได้รับเซลล์ของโทมิเอะก็ค่อยๆ กลายเป็นโทมิเอะอีกร่างหนึ่ง เท่ากับว่าเธอได้เกิดใหม่ในร่างคนอื่นแล้วยึดร่างนั้นเป็นของตัวเอง
จุนจิสร้างโทมิเอะให้เป็นอมตะ แม้ถูกฆ่าตายแต่ขอเพียงมีแค่รอยเลือดคงเหลือสักหยด เธอจะเกิดใหม่ได้อีก เป็นวัฏจักรที่ไม่มีวันดับสูญ สิ่งเดียวที่จะทำลายโทมิเอะได้ คือความร้อนของไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่เธอบอกเอง เพราะโทมิเอะเคยสั่งในผู้ชายนำชิ้นส่วนของเธอไปเผาเพื่อยับยั้งไม่ให้มันงอกเป็นร่างใหม่ แต่ต้องทำอย่างรอบคอบ เผาให้หมดสิ้นอย่าให้หลงเหลือแม้แต่หยดเลือด จึงจะยุติการเกิดใหม่ได้สำเร็จ
ในมังงะตอนสุดท้าย ‘โอมิเอะ ชราภาพ’ จุนจิตั้งใจทำให้โอมิเอะหายตัวไปอย่างลึกลับ เป็นไปได้ว่าตอนนี้เธออาจอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพราะเธอไม่มีวันตายอย่างสมบูรณ์ และหวังว่าสักวัน จุนจิจะพาเธอกลับมาโลดแล่นบนหน้ากระดาษอีกครั้ง
อ้างอิง
- Ben K. An Interview with Master of Horror Manga Junji Ito. https://bit.ly/3hw9VN7
- Fandom. Junji Ito Wiki: Tomie Kawakami. https://bit.ly/3bxFAtQ
- Olivia Sadler. Junji Ito’s Tomie: The Role of the Monster. https://bit.ly/3ons80O
- Junji Ito (2016). Tomie: Complete Deluxe Edition. California : VIZ Signature
- อิโต้ จุนจิ (2555). คลังสยอง เล่ม 1 รวมผลงานเขย่าขวัญของ อิโต้ จุนจิ บทโทมิเอะ (เล่มต้น). สมุทรสาคร : รักพิมพ์
- อิโต้ จุนจิ (2555). คลังสยอง เล่ม 2 รวมผลงานเขย่าขวัญของ อิโต้ จุนจิ บทโทมิเอะ (เล่มจบ). สมุทรสาคร : รักพิมพ์
- กองบรรณาธิการนิตยสาร Nemuki+ (2562). เจาะลึกอิโต้ จุนจิ สู่ก้นบึ้งแห่งความสยอง. สมุทรสาคร : รักพิมพ์
Facts Box
- จุนจิตั้งใจสร้าง ‘โทมิเอะ’ ให้เป็นสาวลึกลับที่ไม่มีใครรู้ที่มาของเธอ แม้แต่ตัวจุนจิเอง โทมิเอะจึงมีเพียงชื่อ ซึ่งประกอบด้วยอักษรคันจิ 2 ตัวเท่านั้น ได้แก่ 富 หมายถึง ความมั่งคั่ง และ 江 หมายถึง ปากน้ำหรือทางน้ำแคบๆ หากอ่านแบบจีนจะพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่ารัก
- ส่วน ‘คาวาคามิ’ (Kawakami) ซึ่งประกอบด้วยอักษรคันจิ 2 ตัวเหมือนกัน ได้แก่ 川 หมายถึง แม่น้ำ และ 上 หมายถึง ผู้มีมีอำนาจเหนือกว่า ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นนามสกุลของโทมิเอะ แต่แท้จริงแล้วเป็นนามสกุลของครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายที่เธอสวยรอยเข้าไปอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
- ‘โทมิเอะ’ เป็นมังงะซีรีส์เรื่องยาว 20 ตอน ตีพิมพ์รวมเล่มฉบับภาษาไทยในชื่อ ‘คลังสยอง รวมผลงานเขย่าขวัญของ อิโต้ จุนจิ’ บทโทมิเอะ (เล่มต้น) และบทโทมิเอะ (เล่มจบ) โดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์ จุนจิชอบตอน ‘จิตรกร’ มากเป็นพิเศษ เขาให้เหตุผลว่า ทั้งเนื้อเรื่องและภาพสมเป็นมังงะสยองขวัญที่สุด