©ulture

ในซอยสามเสน 4 ย่านบางลำพู เข้ามาไม่ลึกมากก็จะเจอกับตึกทรงสวยสีเขียวเข้มสบายตาตั้งอยู่มุมถนน ประตูด้านหน้ามีชื่อร้านอักษรภาษาอังกฤษที่ออกแบบอย่างประณีตกำกับไว้ว่า ‘Luan’ 

ใครที่เดินผ่านร้านนี้คงยากที่จะไม่หยุดมอง เพราะประตูไม้สีสวย ดอกเบญจมาศญี่ปุ่นสีชมพูที่เบ่งบาน แสงไฟสลัวๆ ที่ลอดออกมาจากบานกระจกใส เผยให้เห็นขนมปังเรียงรายที่วางอยู่ในถาดนั้นทำให้เชื่อได้ว่าข้างในต้องมีของอร่อยรออยู่ เชื้อเชิญให้เข้าไปชิมเสียเหลือเกิน

ด้วยขนาดกะทัดรัดและร้านที่ตกแต่งสวยทุกมุม คนอาจคิดว่าเป็นคาเฟ่ แต่ที่นี่คือ ‘ร้านอาหารเช้า’ อาหารเช้าแบบตะโกนที่ไม่ได้มีอาหารเช้าเสิร์ฟแค่พอเป็นพิธี แต่เป็นอาหารเช้าในแบบที่คิดมาแล้วหลายตลบกว่าจะออกมาเป็น 7 จานแรกที่โชว์หราอยู่ในเมนู

“Luan อ่านว่า ลอน” 

ทอมมี่ – สิทธิศักดิ์ สาครสินธุ์ ผู้เป็นเจ้าของร้านบอกกับเรา เขาคิดหาชื่อร้านนี้อยู่นาน จนกระทั่งคำว่า ‘Laun’ ผุดขึ้นในหัวตอนที่กำลังอาบน้ำ อันที่จริงแล้วคำนี้ไม่ได้มีความหมายในภาษาอังกฤษแต่อย่างใด ทอมมี่เพียงนำคำว่า Nual มาเขียนกลับหลังเป็น Laun อ่านว่า ลอน 

Nual หรือ นวล มาจากร้านชื่อ ‘บ้านนวล’ ร้านโฮมคุกกิ้งโต๊ะเดียวที่เขาทำร่วมกับพี่สาว อยู่ในบ้านไม้ซอยถัดไปใกล้ๆ นี่เอง ร้านนี้คิวแน่นเอี้ยดตลอดทั้งปีจนลูกค้าพากันโอดครวญว่าจองยาก จองเย็น อยากจะกินฝีมือของ ยุ – ยุวรัตน์ สาครสินธุ์ ผู้เป็นพี่สาวให้ได้สักครั้ง 

เผลอแป๊บเดียวเวลาผ่านไปแล้ว 6 ปี บ้านนวลก็ยังคงได้มีลูกค้ามาเยือนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งไม่เสื่อมคลาย เห็นทีต้องขยับขยาย สองพี่น้องจึงตั้งใจรีโนเวทบ้านไม้หลังเดิมให้กว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น แต่ทำไปทำมาโปรเจ็กต์เริ่มใหญ่จนกลายเป็นร้านใหม่ที่ทอมมี่นิยามให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ‘มินินวล’ 

มินินวล

หลังจากที่ลองคำนวณงบสำหรับรีโนเวทร้านใหม่ พวกเขาก็พบว่างบก้อนนี้สามารถเช่าตึกใหม่ได้ทั้งหลัง ไอเดียการทำร้านใหม่จึงผุดขึ้นมา

“พอเราบอกว่าจะเปิดร้านใหม่ ร้อยเปอร์เซ็นต์คิดว่าเราจะขยายร้าน ตอนนั้นเรายังไม่ชัดเจนกับตัวเองเหมือนกัน แต่สุดท้ายสรุปได้ว่ามันไม่ใช่การขยาย เพราะบ้านนวลคือยุ ยุเป็นคนทำเท่านั้น ส่วนลอนเป็นโจทย์ใหม่”

โจทย์ใหม่ที่ว่าคือเมื่อ ‘บ้านนวล’ มีโต๊ะเดียว เข้าถึงยาก ต้องจองคิวก่อนเสมอ ‘ลอน’ จะตรงกันข้าม เพราะที่นี่จะเปิดประตูต้อนรับให้ทุกคนที่มาเยือนเสมอ ไม่ต้องรอคิวนานข้ามปี แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงจิตวิญญาณของบ้านนวลออกมา ให้คนที่คิดถึงบ้านนวลและคนที่ไม่เคยกินบ้านนวลได้มาชิมฝีมือของยุ

ซึ่งตอนนั้นเอง ทอมมี่มีตึกสวยในใจเขาอยู่แล้ว

 “ตึกมันหล่อ ตึกมันเท่”

เป็นความคิดแรกที่ผุดมาในหัวของเขาเมื่อได้มาเห็นตึกเก่าอายุราว 60 ปีแห่งนี้ แม้ตอนนั้นข้างในจะยังระเกะระกะ แต่แปลนตึกที่เก่าที่คลาสสิกทำให้เขาจินตนาการเห็นร้านอาหารเช้าที่สมบูรณ์แบบได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น

ทำเลริมถนนทำให้ตัวตึกยิ่งสะดุดตา มองเห็นได้ง่าย อีกทั้งตรอกนี้ยังคึกคัก มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินขวักไขว่ริมทางตลอดทั้งเส้น บ่ายวันนั้นขณะที่เรากำลังนั่งคุยกัน ก็มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสายและส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แถมโต๊ะริม ในมุมลึกที่สุดในร้านที่ไม่คิดว่าจะมีใครเลือกกลับเป็นโต๊ะที่ได้รับความนิยมที่สุดเสียด้วย

ห้องโถงขนาดกะทัดรัดทาสีเขียวเข้มสบายตา ซึ่งเป็นสีโปรดของทอมมี่ เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มทำให้รู้สึกสงบ อาบด้วยไฟสีส้มอุ่น ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวที่บ้าน ในฐานะกราฟิกดีไซเนอร์เก่า ทอมมี่ลงแรงเองตั้งแต่เลือกกระเบื้องปูพื้นไปจนถึงเลือกดอกไม้ที่ประดับอยู่บนเคาน์เตอร์ ซึ่งงานทั้งหมดนั้นเริ่มไปพร้อมๆ กับการคิดเมนูอาหาร ซึ่งเป็นงานช้างของโปรเจ็กต์นี้

‘อาหารเช้าก็ต้องเป็นอาหารฝรั่ง’ แรกเริ่มเขาเชื่อแบบนั้น

“พี่สาวเป็นคนวางไดเร็กชันอาหารทั้งหมด เราทำเทสติ้งเมนูออกมา 10 อย่าง มีพวกแพนเค้ก เบรกฟาสต์ ทาโก้ เราคิดว่าเราเข้าใจอาหารฝรั่ง เราสั่งหนังสืออาหารฝรั่งมาดูเยอะมาก แต่สุดท้ายไม่ได้ใช้สักเล่ม เพราะเราเบรกทั้งหมด แล้วมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราเข้าใจมันจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเราทำอาหารฝรั่ง ลูกค้าที่เคยรู้ว่าเรามาจากไหนมากิน มันก็ไม่เรียล เราเองก็ตอบเขาไม่ได้ว่าเราเป็นใคร”

“ตอนนั้นเพื่อนที่เคยทานบ้านนวลถามเราว่าที่นี่จะมีอาหารจากบ้านนวลไหม เราเลยปิ๊งขึ้นมาว่าเราจะทิ้งตัวเองทำไม อย่างนั้นฉันก็เป็นตัวฉันแล้วกัน แต่ในขณะเดียวกันมันก็ต้องไม่ใช่บ้านนวลแบบเดิม โจทย์ใหม่เลยเป็นมินินวล”

“เราเลยเลือกอาหารของบ้านนวลที่พอจะไปได้กับที่นี่ แล้วสุดท้ายเมนูมันก็พรั่งพรูออกมา เรามีหมูก้อนทอด มีซอสสปาเก็ตตีมันกุ้ง เราชอบเบรกฟาสต์แบบโอลด์ทาวน์ เราก็เอามาใส่ในเมนู เราว่าเรามาถูกทางแล้ว” ทอมมี่เล่า

โอลด์ทาวน์เบรกฟาสต์ เป็นจากแรกที่ถูกยกมาเสิร์ฟพร้อมกับ กาแฟน้ำส้ม แสนสดชื่นในแก้วทรงสวย ที่มีเนื้อส้มให้เคี้ยวไม่เบื่อ ในจานมีแฮม เบคอนย่างกรอบๆ  ไส้กรอก และไข่ดาวสีสวย เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังชิ้นพอดีคำในจานใบเล็กข้างๆ จานนี้เป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ ชุดเริ่มต้นสไตล์ที่ทอมมี่ชอบ 

แม้จะมีเครื่องดื่มดีๆ มีพื้นที่น่ารักๆ ให้นั่งคุย แต่ทอมมี่ไม่อยากให้คนจดจำเขาในฐานะคาเฟ่ เพราะที่นี่ตั้งใจนำเสนออาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง

“ถ้าเราทำร้านกาแฟอีกไม่นานคนอาจจะฮอปไปที่อื่น แต่พอเป็นร้านอาหารคนจะจำเราได้ เลยบอกทุกครั้งว่าร้านเราไม่ใช่ร้านกาแฟ เราไม่ได้มีเครื่องทำกาแฟที่เป็นมาสเตอร์ ที่โดดเด่นที่สุดของร้านเราเรียงตามลำดับคืออาหาร ขนม และเครื่องดื่ม เราอยากเห็นคนมานั่งกินข้าวเช้า ข้าวกลางวันที่นี่”

จานต่อมาคือ สปาเกตตีซอสมันกุ้ง เส้นเหนียวหนึบ โรยด้วยไข่กุ้งกรุบๆ ม้วนเส้นขึ้นมาท็อปด้วยกุ้งเนื้อเด้ง ฉ่ำซอสมันกุ้งอบอวลไปทั่วทั้งปาก ซอสมันกุ้งสูตรนี้เป็นสูตรเด็ดของยุที่ส่งต่อให้กับลอน เพียงแต่พอมาอยู่ในจานนี้ มันจะไม่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวยักษ์อย่างที่ลูกค้าบ้านนวลรีเควสต์เหมือนแต่ก่อน แต่วัตถุดิบทุกอย่างจะง่ายต่อการปรุงในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ภายในครัวหลังบ้านที่เป็นระบบ ระเบียบมากขึ้นกว่า เรียกได้ว่า ‘ลอน’ ถือเป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องได้ลองทำร้านอาหารที่มีโต๊ะมากกว่าหนึ่งโต๊ะ 

ข้าวหมูก้อนทอดและไข่ดาวสูตรบ้านนวลที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในนาม ‘ไทยแฮมเบิร์ก’ เป็นอีกจานที่ทอมมี่แนะนำ เพราะหมูก้อนทอดสูตรของพี่สาวนั้นเป็นอีกจานที่ขึ้นชื่อของบ้านนวล นอกจากนี้ยังมีข้าวไข่เจียว เมนูยอดนิยมตลอดกาล สปาเกตตี้พริกแห้งเบคอน และจานสุดท้ายคือ ข้าวไก่อบ ที่เฟ้นหาสูตรกันอยู่นานจนมาจบที่สไตล์นครศรีธรรมราช ที่มีรสของซอสมะเขือเทศเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นรสชาติเรียบง่ายที่ชวนให้นึกถึงวัยเด็ก

ก่อนจะมาเป็น ‘ลอน’

ก่อนจะมาเป็นหัวเรือใหญ่ของลอน ทอมมี่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนิตยสารแฟชั่นตั้งแต่เรียนจบ จากนั้นเขาตัดสินใจไปสมัครเป็น visual merchandising ในแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ ลองทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ตอนนั้นยุผู้เป็นพี่สาวยังเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เมื่อถึงจุดอิ่มตัว ทั้งคู่ก็ชวนกันมาทำร้านอาหาร โดยเริ่มจากทำอาหารส่งเดลิเวอรีตามแนวรถไฟฟ้าชื่อว่า ‘ครัวนกยูง’ จนกลายเป็น ‘บ้านนวล’ ที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีย่างเข้าปีที่ 6 

“เราทำอาหารเป็นทั้งคู่ พ่อเราเป็นตำรวจ ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ก็จะหิ้วทั้งสองคนไปตลาดตลอด แม่กับย่าเป็นคนสอนทำอาหาร วันไหนไม่ไปเรียนก็จะไปตลาดกับแม่ แม่ก็เป็นคนมหาชัย บางวันก็จะนั่งรถไฟไปซื้ออาหารทะเลที่มหาชัยกลับมาทำอาหารให้พ่อ ยุเป็นลูกสาวก็ต้องทำให้พ่อด้วย เพราะกว่าพ่อจะเลิกเวรก็ดึก ตอนนั้นพ่อสอนแค่ว่าแค่เอาตัวรอด แค่ทอดไข่ได้ก็รอดแล้ว มันก็ได้ผลตอนเราไปเรียนเชียงใหม่ ตอนอยู่หอ ซื้อผักมาผัด ก็กินได้แล้ว”

“แต่ก่อนเราอยากเป็นแม่บ้านทันสมัย รายการวันเสาร์ ช่อง 9 ที่มีพี่ตั๊ก – มยุราเป็นพิธีกร เราชอบดูรายการทำอาหาร สนุกดี มีพร็อพเยอะๆ เราอยากหยิบนู่น หยิบนี่มาทำอาหารเหมือนเขา”

“ทุกปิดเทอม 3 คนพี่น้องก็จะไปเล่นที่บ้านสวนของปู่ แม่นมชื่อแม่นิดก็จะคอยถามตลอดว่าอยากกินอะไร แม่นิดเขาจะใช้เตาถ่านทำอาหาร น้ำพริกกากหมู ข้าวผัดรถไฟสูตรใส่ซอสมะเขือเทศ เราก็ได้มาจากเขานี่แหละ ส่วนคุณย่าจะทำข้าวแช่อร่อย ลูกหลานก็จะถูกเกณฑ์ไปปั้นลูกกะปิ ทำกันทีเป็นวันๆ เราก็ซึมซับการทำอาหารมาจากย่า จากพ่อ จากแม่ เป็นมรดกตกทอดให้เราเอาตัวรอดมาได้จนทุกวันนี้” ทอมมี่เล่าให้เราฟัง

จานสุดท้ายของวันนี้ที่ควันฉุยจากครัวมาตามทางคือ ข้าวหมูตุ๋นไข่ดาว ที่ไข่แดงดาวสีส้มเงาวับเหมือนออกมาจากอนิเมะสักเรื่อง ตอนแรกสีส้มสดที่เห็นชวนให้เข้าใจว่าเป็นไข่เป็ด แต่ทอมมี่บอกว่านี่คือไข่ไก่ แต่ต้องเลือกไข่ที่สดและใหม่ถึงจะได้สีนี้ และกว่าจะทอดออกมาให้สวย กลม ได้รูปอย่างในจานตรงหน้า ก็ฝึกทอดกันมานานจนหมดไข่ไปเป็นแผงๆ จนอาจพูดได้ว่า ‘ไข่ดาว’ เป็นเมนูที่ทำยากที่สุดเลยก็ว่าได้ 

ไฮไลท์ของจานนี้คือหมูตุ๋นข้างๆ ที่ใช้หมูสามชั้นติดมันตุ๋นนานจนเนื้อเปื่อย แต่ชั้นมันเด้งดึ๋ง วาววับ เคี้ยวละลายในปาก รสออกหวานตัดด้วยพริกน้ำส้มสูตรเด็ดของยุ แนมกับเบบี้กวางตุ้งนึ่งที่วางอยู่ข้างๆ เข้ากันยิ่งนัก 

อดีตกราฟิกดีไซเนอร์อย่างทอมมี่เผยว่าอาหารทุกจานต้องออกมาสวย อย่างน้อยๆ ก็ถ่ายรูปแล้วดูน่ากิน เรื่องของรสชาติก็ยกให้เป็นหน้าที่ของยุแต่เพียงผู้เดียวที่จะรังสรรค์สูตรและส่งต่อให้กับทีมครัว ซึ่งไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว และอยากให้ทุกคนตั้งตารอเมนูอื่นๆ ที่กำลังจะคลอดตามออกเรื่อยๆ 

สำหรับทอมมี่ร้านนี้เขาเปรียบ ‘ลอน’ เป็นลูกมืออีกคนที่มาช่วยเขาและพี่สาวทำงาน ถ้าบ้านนวลเป็นงานคราฟต์ ที่ประณีตกับแต่ละจานไปแล้ว ร้านนี้ก็ต้องเป็นร้านที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกคนที่เยือน มาชิมรสมือในความทรงจำของสองพี่น้อง เขาทิ้งท้ายอย่างนั้น 

 

Laun (ลอน)

Instagram : @launsamsen4 

เปิดทุกวัน 8.00 – 16.00 น. และ 17.00-21.00

ที่อยู่ 43 ซ.สามเสน 4 แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200