ODB เป็นร้านอาหารเกาหลีในย่านบางรัก
ที่ตั้งอยู่บนชั้นสามของอาคารหนึ่งในซอยสาทร 12 บรรยากาศข้างในอบอุ่น เป็นกันเอง กลิ่นน้ำซุปโอเด้งโชยหอมๆ โชยมาจากหม้อร้อนตรงหน้าบาร์ ที่เบื้องหลังเรียงรายด้วยเครื่องดื่มหลากชนิด
ODB ย่อมาจาก O – Deng – Bar (โอเด้งบาร์) เป็นนิคเนมง่ายๆ ที่เรียกกันมาตั้งแต่ร้านเพิ่งตั้งไข่ จนกลายมาเป็นชื่อร้านอย่างเป็นทางการในที่สุด
ที่นี่เป็นร้านอาหารเกาหลีฉบับโฮมคุกกิ้งของกลุ่มเพื่อนผู้ชื่นชอบทั้งการกินและการทำอาหารที่มารวมตัวกัน มีโอเด้งแน่นหนึบ น้ำซุปกลมกล่อมเป็นตัวชูโรง และมีอาหารเกาหลีเมนูทั้งดั้งเดิม และฟิวชั่นฉบับครอบครัวคนเกาหลีเสิร์ฟด้วย
พวกเขาตั้งใจให้ที่นี่เป็นหมุดหมายของมนุษย์ผู้เหนื่อยล้าจากงานได้มาพักกาย พักใจ ได้กินของอร่อย ที่เหมือนได้รับอ้อมกอดอันอบอุ่นของออมม่า (คุณแม่ ในภาษาเกาหลี) อย่างที่พวกเขาได้สัมผัสมาเสมอ
ซี่โครงหมูตุ๋น
เมนูของแม่ที่อยากให้ลูกได้กินแต่ของดี ๆ
สูตรอาหารของที่ร้านเป็นสูตรของออมม่า ออมม่าเล่าว่าครอบครัวของเธอย้ายถิ่นฐานจากเกาหลีใต้มาลงหลักปักฐานอยู่ที่ประเทศไทย เป็นเวลากว่า 27 ปีมาแล้ว ตั้งแต่นั้นมา ออมม่าก็ทำอาหารให้ลูก ๆ กินมาตลอด เพราะเธออยากให้ลูกๆ ได้กินอาหารฝีมือแม่ ถ้าเป็นกับข้าวที่บ้าน เด็กๆ จะมั่นใจได้ว่าแม่จะสรรหามาแต่วัตถุดิบดีๆ ทำทุกเมนูอย่างพิถีพิถัน อร่อย และใส่ความรักเข้าไปด้วย
อย่างเมนู ซี่โครงหมูตุ๋น (Galbi Jjim) ซึ่งเป็นหนึ่งในจานเด็ดของ ODB ก็เป็นจานที่ออมม่าทำได้อร่อยที่สุด ใครๆ ได้ชิมก็ต่างก็เอ่ยปากชม ออมม่าบอกว่าเธอจะคัดซี่โครงหมูที่ดีที่สุด เพราะอาหารจะอร่อยได้ก็ต้องเริ่มจากวัตถุดิบที่ดี จากนั้นนำซี่โครงไปตุ๋นในน้ำสต๊อกผักทำเองจนเปื่อย ปรุงรสฉบับเกาหลีกลมกล่อมชุ่มเนื้อซี่โครงทีนุ่มละลายในปาก ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งดีต่อใจเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
ในบรรดาเมนูต่างๆ ที่ออมม่าทำนั้น อร่อยจนเลือกไม่ถูกว่าชอบจานไหนมากที่สุด พอใครๆ ต่างก็เอ่ยปากชมว่าฝีมือออมม่าอร่อย ก็เกิดไอเดียที่จะเปิดร้านเพื่อแบ่งปันอาหารอร่อยๆ โดยความตั้งใจแรกคืออยากให้คนอื่นๆ ได้ชิมรสมือของออมม่า อยากให้ผู้มาเยือนได้กินอาหารเกาหลีที่ทั้งอร่อยและใช้แต่ของดีๆ แบบที่ครอบครัวกิน
“ตอนเราจะทำร้านอาหาร เราไม่ได้คิดว่าจะเกาะเทรนด์ที่กำลังฮิต เราไม่อยากให้คนมาเพื่อถ่ายรูปแล้วก็ไป ไม่กลับมาอีก มันไม่ใช่ทางของเรา อย่างอื่นจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่อาหารต้องอร่อย สิ่งนั้นสำคัญที่สุด”
“หลายคนที่มาร้านเรา เขาบอกว่าเหมือนกินข้าวที่บ้าน ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่ามันคือคำชมเชิงบวกหรือลบ อาหารร้านเรามันรสชาติเข้มไปหรือจืดไป แต่หลายคนกลับมาอีกครั้ง เขาพาพ่อแม่มากินด้วย แม้ร้านจะดูวัยรุ่น แต่พ่อแม่กินด้วยได้เพราะรสชาติอาหารไม่จัดมากนัก กินได้ทั้งบ้าน”
“หรือบางคนที่มาแล้วได้กินกิมจิ เขาก็ทักเลยว่าทำกิมจิเองใช่ไหม เพราะเขาไม่เคยกินกิมจิรสชาติแบบนี้มาก่อน สิ่งที่แม่ทำนั้น ชั่ง ตวง วัดยาก เพราะเป็นรสมือของเขา เขาชินกับการทำไปแล้ว เลยไม่มีสูตรตายตัว” ลูกสาวของออมม่าบอกกับเรา
เธอเล่าว่าเธอชอบทำอาหารในวันว่าง เป็นกิจกรรมที่รู้สึกผ่อนคลาย
“เราไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนแรกเข้าใจว่าคนทุกคนชอบทำอาหาร เราก็คุยเรื่องทำอาหารกับเพื่อนถึงรู้ว่าเขาไม่ได้ชอบมานั่งล้างผัก ขี้เกียจเตรียมของ เราเลยเกิดคำถามว่า อ้าว มันไม่ได้สนุกตรงนั้นเหรอ เราชอบหั่นวัตถุดิบ เพราะตอนหั่นมันสนุก แต่เพื่อนเขาบอกว่ามันสนุกแค่ตอนกิน”
“เราโตมากับการเรียนอย่างเดียว ที่บ้านให้ทำอะไรก็ได้แต่ว่าต้องเรียนให้ดี พอได้ทำอาหารเรารู้สึกว่ามันเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียด ช่วยฮีลใจเราในระดับหนึ่ง แล้เราก็ชอบไปตระเวนกินด้วย”
พอตัดสินใจจะเปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อน ๆ ก็อยากให้โอเด้งแบบเกาหลีซึ่งเป็นอาหารสตรีทฟู้ดธรรมดาแต่อร่อยมาเป็นตัวชูโรง และเสริมทัพด้วยอาหารฝีมือออมม่า เพื่อนๆ เฟ้นหาสูตรน้ำซุปโอเด้งด้วยตัวเอง ทดลองทำเองอยู่นาน
นอกจากออมม่าแล้ว เพื่อน ๆ เหล่า ODB ก็มีที่ปรึกษาคนสำคัญอยู่ข้างๆ คือ เชฟเบิร์ด – ทศพร จันทะบุตร ที่ได้กลายมาเป็นเชฟประจำร้าน ODB ในที่สุด
เบิร์ดเป็นเชฟผู้มาช่วยชิม ช่วยคิด และทำให้อาหารหลาย ๆ เมนูจนลงตัวในที่สุด โดยเขาเองไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจีบให้มาเป็นเชฟประจำที่ ODB แล้วความพยายามก็เป็นผล ท้ายที่สุดก็ได้ร่วมงานกับเบิร์ดอย่างเต็มตัว
เบิร์ดเริ่มนับหนึ่งใหม่กับการทำอาหารเกาหลี โดยมีออมม่าให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ ส่วนออมม่าเป็นคนจริงจังพอรู้ว่าต้องส่งต่อสูตรให้กับเชฟคนเก่ง ออมม่าถึงกับลงทุนไปเรียนภาษาไทยให้พูดได้คล่องๆ และถ่ายทอดสูตรอาหารของครอบครัวให้กับเบิร์ด พอเริ่มจับทางได้ คราวนี้เชฟเริ่มสนุก หยิบนู่น ผสมนี่ ครีเอทเมนูใหม่ๆ ที่ผสมผสานทั้งอาหารไทยและตะวันตก ที่เขาถนัดให้เข้ากับอาหารเกาหลีตะวันออกสูตรออมม่าได้อย่างลงตัว
นอกจากโอเด้ง อาหารเกาหลีสูตรดั้งเดิมของครอบครัวแล้ว ความพิเศษของ ODB คือเมนูเกาหลีฟิวชั่นไอเดียของเพื่อนๆ กลุ่ม ODB และเชฟเบิร์ดช่วยกันคิด ซึ่งแต่ละจานไม่เคยได้เห็น ได้กินที่ไหน และอร่อยแบบหาตัวจับได้ยาก
“ผมสนุกที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาเป็นของกิน ที่นี่ให้อิสระเยอะ ให้เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำจริง ผมเลยสนุก คิดอยากทำอะไรก็เอามาผสมกับประสบการณ์ที่เรามี”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้วัตถุดิบเกาหลีทั้งหมด ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้กินอาหารเกาหลีด้วย มาเริ่มใหม่ เรียนรู้ใหม่ทั้งหมดเลย ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ แต่พอทำไปก็พบว่ามันไม่ได้ทิ้งห่างจากแนวเอเชียประเทศอื่นๆ เท่าไหร่นัก เรายังพอจับจุดได้ พอเข้าใจแล้วก็ทำได้เลย” เบิร์ดบอกกับเรา
สาหร่ายแซลมอนครีมชีส เป็นเมนูของว่างที่ชวนเซอร์ไพรส์ เชฟนำแซลมอนไปแช่บีทรูทจนรสชาติกลมกล่อม ท็อปด้วยครีมชีสผสมกับชิคเฮ (เครื่องดื่มดั้งเดิมเกาหลีที่ทำจากข้าว) และวางบนสาหร่ายเกาหลีทอดกรอบ ในหนึ่งคำได้หลากสัมผัส ทั้งเนื้อนุ่มๆ ของแซลมอน ความกรอบของสาหร่าย และครีมชีสหอมมัน ตัดเลี่ยนด้วยเลมอน บีดรูทหั่นฝอย และชิเค น้ำข้าวเกาหลี รสออกหวาน เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญช่วยให้เมนูนี้กลมกล่อม เป็นเมนูฟิวชั่นเกาหลีที่ถ้ามาที่ ODB ต้องห้ามพลาด
ต๊อกบกกีต้มยำ (350 บาท)
“เบิร์ดไม่ชอบอาหารที่เข้าใจง่ายเกินไป แต่ข้อจำกัดคือเราขยายเมนูไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เลยทำเป็นเมนูพิเศษประจำฤดูกาลแทน” ทีมเล่าให้เราฟัง
“อย่างตอนที่ร้านเพิ่งเปิดเดือนแรก เรายังไม่มีขนมหวานเลย แต่ที่ร้านจะใช้แป้งข้าวซึ่งเป็นวัตถุดิบทำต๊อกบกกีอยู่แล้ว เบิร์ดเลยเอาแป้งต๊อกมาปั้นเป็นบัวลอย แบบไทยๆ ลูกค้าที่ได้ชิมก็ตื่นเต้น”
“และที่สำคัญการที่เราขายอาหารเกาหลี เราไม่จำเป็นต้องทำของหวานสไตล์เกาหลี ไม่จำเป็นต้องมีบิงซูก็ได้ ก็เราชอบกินบัวลอย เราก็ขายบัวลอย ขายของอร่อยที่เราชอบกิน”
How was your day ?
คนเกาหลี หรือแม้แต่คนไทยเอง เราให้ความสำคัญกับการทำงาน ถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า “ขอบคุณที่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก” และในวันที่ทำงานหนัก ยามเย็นที่แสนเหนื่อยล้า จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ซดน้ำซุปโอเด้งร้อนๆ ให้คล่องคอ และจิบเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วชุบชูหัวใจ
หากเข้ามาเยือน ODB จะเห็นได้ว่าอีกส่วนที่ร้านให้ความสำคัญคือ บาร์ ที่มีเครื่องดื่มหลากหลายเรียงรายให้ได้เลือกสรร คละกันทั้งเกาหลี ไทย ตะวันตก โซจู มักกอลลี เบียร์ ไวน์ ที่ยังคงเป็นคู่หูดาวเด่นของที่นี่ เพราะจิบแล้วเข้ากันกับอาหารเกาหลีแทบทุกชนิด นอกนั้นเต็มไปด้วยเครื่องดื่มที่สมาชิกผู้ก่อตั้งร้านเลือกกันมาคนละอย่าง สองอย่างตามชอบ มีค็อกเทลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน นุ่มละมุน และยังมีของแรร์ที่ไม่ค่อยมีที่ไหน อย่างไวน์ราสเบอรร์รี่เกาหลี (บกบุนจา) อีกด้วย
ในมุมหนึ่งของร้านยังชวนให้ทุกคนมาบอกความรู้สึกกันผ่านแก้วโซจูที่วางอยู่ตรงผนังด้านหนึ่ง ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เรื่อง Itaewon Class ที่ให้คนดื่มบอกว่าวันนี้รสชาติของเครื่องดื่มเป็นอย่างไร ถ้าขมวันนี้คงเป็นวันที่มีความสุข แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เหล้าแก้วนี้หวาน นั่นหมายความว่าวันนี้คงเป็นวันที่ขมขื่น
อีกมุมที่มีประโยคอยู่ที่ผนังถามว่า How was your day ? ทางทีมตั้งใจจะมีลูกบอลสีสันต่างๆ ให้ผู้มาเยือนหยิบลงในกล่องแชร์กันว่าวันนี้คุณรู้สึกอย่างไร และเมื่อกล่องเต็มก็จะได้เห็นว่าผู้คนที่มาเยือนที่ร้านนั้นกำลังรู้สึกอย่างไรในแต่ละวัน
นอกจากจะอยากให้อาหารอร่อยๆ ฮีลใจคนที่ได้มาเยือนแล้ว ร้านนี้ยังเป็นศูนย์รวมใจของทุกคนที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา ลองชิมอาหาร คิดเมนู แก้ปัญหาทุกอย่างร่วมกัน ออมม่าเล่าว่าอยากให้เป็นที่ที่ทุกคนสามารถมาทานอาหารเกาหลีและพักผ่อนคลายเครียดไปพร้อมกัน
ออมม่าพยายามเล่าให้เราฟังเป็นภาษาไทยว่า “ร้านอาหารหลายๆ ร้านอาจมองเรื่องเงินสำคัญ เช่น อยากรีบคืนทุนภายในหนึ่งถึงสามปี ก็จะไม่สามารถเพิ่มวัตถุดิบหรือดูแลพนักงานได้อย่างดีพอ แต่แม่คิดว่า ODB ยังมีเวลาอีกเยอะ ไม่ต้องมองว่าจะต้องรวยภายใน 3 ปี เพราะนี่ไม่ใช่โปรเจคต์ชั่วคราวแต่เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราเลยสามารถใส่วัตถุดิบได้เต็มที่ ให้อาหารออกมาอร่อยได้”
“แม่บอกว่ามันคือการวิ่งมาราธอน อยากให้ร้านอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะมันเป็นสถานที่ฮีลใจของพวกเราทุกคน และถ้าทำอาหารด้วยความรู้สึกตั้งใจ คนกินก็จะอร่อยและกลับมาหาเราเอง”
ODB
เปิดทุกวัน 11.00 – 00.00 น.
ที่อยู่ : 101 ซอยศึกษาวิทยา (สาทร 12) ถ.สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทร. 081 675 4951
Facebook : ODB
Instagram : odbbkk