โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเมนูที่คิดถึง เสียงที่คุ้นเคยของคนในครอบครัวเซ็งแซ่แต่กลับชวนให้สุขใจอย่างประหลาด ละอองของความอบอุ่นและครื้นเครงนั้นปกคลุมไปทั่วบ้านที่พวกเรากลับมาพบกันในวัน ‘ตรุษจีน’
‘ตรุษจีน’ หรือวันขึ้นปีใหม่แบบจีน คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ประมาณปลายๆ เดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ปีนี้ชาวจีนทั่วโลกต่างอิ่มใจ เพราะหลังจากฉลองปีใหม่สากลไปเมื่อต้นเดือนยังไม่ทันหมดสนุก ปลายเดือนก็ได้ฉลองกันอีกรอบตามธรรมเนียมของครอบครัวในวันตรุษจีน
ตรุษจีนในวันวาน
ชาวจีนฉลองวันปีใหม่มานาน 3,500 ปีแล้ว ในสมัยราชวงศ์ชาง วันตรุษจีนของพวกเขานั้นแสนเรียบง่าย เพราะมีเพียงการสรรเสริญเทพเจ้าและไหว้บรรพบุรุษ เพื่อขอให้ทำการเกษตรได้อย่างราบรื่น และให้พืชพรรณออกดอกผลตลอดไป
จากนั้นวิธีเฉลิมฉลองของชาวจีนก็เริ่มพัฒนาขึ้นในราชวงศ์ฮั่น เนื่องจากมีการเผาไม้ไผ่ให้แตกจนเกิดเสียงดัง ผู้คนแสวงหาวิธีฉลองตรุษจีนในแบบของตัวเอง จนกระทั่งในสมัยราชวงศ์เว่ยและจินก็เกิดธรรมเนียมใหม่ๆ เช่น การทำความสะอาดบ้านและรับประทานอาหารมื้อใหญ่กับครอบครัว
เมื่อเศรษฐกิจและสังคมเริ่มพัฒนา ทำให้ตรุษจีนเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ การไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และทำเกี๊ยวทานกันในบ้านก็เริ่มกลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวชาวจีนที่ขาดไม่ได้ทุกตรุษจีน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความบันเทิงเข้ามาผสมผสานและเต็มไปด้วยสีสันของมหรสพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชิดสิงโต มังกร หรืองานจัดแสดงโคมสวยงาม ถนนทั่วไปตกแต่งด้วยสีแดงสด ตามตำนานที่ว่าสีแดงนั้นจะช่วยปัดเป่าและไล่สิ่งชั่วร้ายไปได้
สุขสันต์วันกลับบ้าน สุขสันต์วันตรุษจีน
ปัจจุบันเทศกาลตรุษจีนนั้นเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ และกลายมาเป็นวันสำคัญในปฏิทินสากล ในปี 2019 ที่ผ่านมา ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลกว่า 3,000 ล้านเที่ยว และตรุษจีนก็เป็นเทศกาลที่มีคนเดินทางมากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาเทศกาลอื่นๆ
ตรุษจีนนั้นมีกลิ่นอายที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ที่นิวยอร์กผู้คนอาจกำลังเพลิดเพลินกับการชมขบวนโคมไฟที่ไชน่าทาวน์ ที่ประเทศจีนแต่ละครอบครัวอาจช่วยกันทำเกี๊ยวทานด้วยกันอย่างขะมักเขม้น หรือที่สิงคโปร์แต่ละบ้านกำลังประดับป้ายอวยพรที่หน้าบ้านของตัวเอง
สำหรับวันตรุษจีนในไทยแบ่งออกเป็น 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
วันจ่าย เป็นวันที่ถนนเยาวราชจะคลาคล่ำไปด้วยคนไทยเชื้อสายจีนที่พากันออกไปจับจ่ายซื้อของสำหรับเตรียมทำอาหารมื้อใหญ่เพื่อไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ เนื่องจากในช่วงเทศกาลนี้ เหล่าร้านค้าที่เจ้าของกิจการเป็นคนจีนก็จะต้องหยุดขายของเพื่อไปฉลองเช่นเดียวกัน
วันไหว้ ไม่มีกฎตายตัวว่าแต่ละบ้านนั้นต้องไหว้อะไรบ้าง แต่หลักๆ แล้ววันไหว้จะเริ่มตั้งแต่เช้ามืดคือการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเจ้าที่เจ้าทาง จากนั้นในตอนสายจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ตกบ่ายก็ให้ทานสัมภเวสีและจุดประทัดไล่สิ่งชั่วร้าย และหากใครที่อยากเสริมให้ดวงดี ตกดึกบางบ้านก็มีการไหว้เทพเจ้า ‘ไฉ่ซิงเอี้ย’ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
วันสุดท้ายคือ วันเที่ยว ที่แต่ละครอบครัวจะพากันสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ และเดินสายเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือท่องเที่ยว มีธรรมเนียมปฏิบัติเล็กๆ น้อยๆ เช่นห้ามพูดคำหยาบหรือคำอัปมงคล อีกทั้งในวันนี้ยังเป็นวันที่เด็กๆ คงชื่นชอบเป็นพิเศษเพราะจะได้อั่งเปาซองสีแดงจากผู้ใหญ่
ภายใต้ความสนุกสนานที่ชโลมให้ทั้งเมืองดูคึกครื้นและธรรมเนียมปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นในแต่ละปี เราจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ยุคแรกจนวันนี้ สิ่งหนึ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญอยู่เสมอในวันตรุษจีนก็คือ ‘ครอบครัว’ ไม่ว่าจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษหรือไหว้เจ้า ก็ล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขอพรให้คนในครอบครัวมีแต่ความสุข
ตรุษจีนจึงไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาสที่ให้ทุกคนได้กลับบ้านมาพบหน้า เติมกำลังใจให้กันและกัน
แม้เพียงเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่สมาชิกทุกคนในบ้านก็ได้รับแต่ความอิ่มเอมใจไปตลอดทั้งปี
อ้างอิง
- Cindy Tang.Chinese New Year History.https://www.chinahighlights.com/travelguide/festivals/chinese-new-year-history.htm
- CHLOE-ROSE CRABTREE.8 Rituals and Customs To Celebrate Chinese New Year.https://theculturetrip.com/asia/china/articles/10-chinese-new-year-traditions/
- วรุณรัตน์ คัทมาตย์.วิธีไหว้เจ้าเสริมเฮง ‘ตรุษจีน 2563’ จัดครบตั้งแต่เช้ายันดึก!.https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/863225