ใครวางแผนจะไปเที่ยวมหานครมุมไบ เมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ
นอกจากจะไปเช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ที่มีให้เลือกสัมผัสเสน่ห์ของนครบอมเบย์ในอดีตในหลากหลายแง่มุม
ห้ามพลาดการไปกินอาหารอร่อยในคาเฟ่เก่าแก่ที่มีอยู่หลายแห่งทั่วมุมไบ
เก่าแก่ที่ว่าน่ะเก่าแค่ไหน ?
เก่าแก่ระดับเกินร้อยปี ! โดยคาเฟ่โบราณเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารของชาวปาร์ซี (Parsis) ที่สืบเชื้อสายมาจากชุมชนโซโลแอสเทรียนเปอร์เซียน ซึ่งอพยพมาจากตะวันออกกลางหรืออิหร่านในปัจจุบัน
ชาวปาร์ซีถือว่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอินเดีย หลากหลายตระกูลดังระดับเศรษฐีมักสืบสายมาจากชาวปาร์ซี อาทิ ตระกูลทาทา ตระกูลวาเดีย ตระกูลโกเดร็จ ทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางด้านสังคม ศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนการช่วยเหลือสังคมผ่านมูลนิธิต่างๆ อีกด้วย
นอกเหนือไปจากร้านอาหารปาร์ซีก็ยังมีคาเฟ่กึ่งบาร์และร้านไอศกรีมเก่าแก่ที่รักษาความอร่อยข้ามศตวรรษไว้อย่างเหนียวแน่น
becommon คัดตัวเลือกของร้านอร่อยที่เข้มข้นด้วยตำนานมาฝาก 3 ร้าน ส่วนใครอยากไป Explore ร้านอื่นๆ เพิ่มเติมในมุมไบก็ยังมีตัวเลือกของร้านอาหารอร่อยหลากสไตล์ไว้เสิร์ฟอีกเพียบ
Kyani & Co.
Since 1904
ภาพจำแรกที่ผู้เขียนมีต่อ Kyani & Co. เกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว และภาพนั้น คือ ผ้าปูโต๊ะลายสก็อตสีขาวแดง
เช้านั้นในปี 2015 ผู้เขียนและเพื่อนร่วมชะตากรรมเพิ่งสะลึมสะลือตื่นลืมตาขนสัมภาระลงจากรถทัวร์ หลังจากปุเลงๆ นั่งหลับๆ ตื่นๆ ทรมานอยู่เบาะท้ายสุดตลอดคืนจากรัฐโกอา (Goa) เพื่อมาเจอแสงเช้าในมุมไบ หลังจากยืนงงอยู่ริมทางเท้าแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ มืดแปดด้านว่าอยู่ส่วนไหนของเมือง เราจึงเลือกตั้งหลักที่ร้านอาหารร้านนี้ที่อยู่ใกล้ตา และเหมาะจะหาอะไรรองท้องยามเช้ามากที่สุด
จำไม่ได้ว่าเช้านั้นกินอะไร รู้แค่ว่าเสน่ห์ของคาเฟ่แบบโบราณที่ใช้พัดลมเพดานในการปรับความเย็น เสาหลายต้นกลางร้านกรุด้วยกระจกเงาสะท้อนมุมมองแปลกตา และผ้าปูโต๊ะลายสก็อตสีน่ารักทับด้วยแผ่นกระจกใสที่สอดเมนูอาหารไว้พร้อมสรรพ สร้างความประทับใจจำจนต้องจดชื่อร้านไว้ในสมุดบันทึกว่า Kyani & Co. ก่อนจะมาค้นพบในภายหลังว่า นี่คือร้านอาหารเก่าแก่ที่อยู่คู่มุมไบมานานเกินร้อยปี
สิบปีผ่านไป ผู้เขียนกลับไปเยือน Kyani & Co. อีกครั้งในช่วงเวลาเกือบเที่ยงวัน บรรยากาศทั้งในร้านและนอกร้านจึงคึกคักจอแจเป็นพิเศษ กลิ่นอายแห่งความเก่าแก่ขรึมขลังยังอบอวลในทุกอณูของร้านดังเดิม เพิ่มเติมคือผ้าปูโต๊ะลายสก็อตขาวแดงอันตรธานไปเสียแล้ว เหลือเพียงเมนูอาหารสอดอยู่ใต้พื้นกระจกของแต่ละโต๊ะตามเอกลักษณ์เดิม
Kyani & Co. เป็นร้านกาแฟแบบอิหร่านของครอบครัวชาวปาร์ซี ซึ่งก็คือกลุ่มคนอิหร่านที่อพยพเข้ามาอยู่ในอินเดีย ผ่านทางชายฝั่งของรัฐคุชราต (Gujarat) ในช่วงที่อาณาจักรเปอร์เซียถูกรุกราน และเมื่อมาตั้งถิ่นฐานในอินเดีย ชาวปาร์ซีก็เริ่มประกอบอาชีพด้วยการเปิดร้านกาแฟรูปแบบคล้ายๆ กันที่ทยอยเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ และหนาแน่นที่สุดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยกระจายอยู่ในเกือบทุกหัวมุมถนนในเมืองมุมไบ ปูเน่ และไฮเดอราบาด
กล่าวกันว่าในสมัยก่อนมุมไบมีร้านกาแฟแบบอิหร่านมากถึง 500 กว่าแห่ง แต่ปัจจุบันหลงเหลือประมาณ 20 แห่งเท่านั้น น่ายินดีที่ทุกแห่งยังคงได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่ถวิลหาบรรยากาศคาเฟ่แบบโอลดี้และอาหารรสชาติดั้งเดิม ซึ่งหากินที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ
สำหรับ Kyani & Co เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1904 โดย Mr. Khodram Marezaban ช่วงแรกขายกาแฟสไตล์อิหร่าน ของว่าง และเบเกอรี่ โดยมีเมนูขายดีตลอดกาลที่ใครมาก็ต้องสั่งกินอย่าง Bun Maska ขนมปังเนื้อนุ่มผ่ากลางแล้วทาเนยเยิ้มๆ (Maska แปลว่า เนย) นิยมทานคู่กับชานมร้อน กับอีกเมนูคลาสสิค คือ Kheema Pav แกงแกะสับหอมกลิ่นเครื่องเทศนานาชนิด กินกับเปา (Pav) หรือขนมปังเนื้อนุ่มอร่อยเข้ากัน
Kyani & Co.
- Instagram : kyaniandco_official
- ที่ตั้ง : Jermahal Estate, 657 Jss Rd, Tak Wadi, Lohar Chawl, Mumbai
- โทร : +912222011492
- เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 7.00 – 20.30 น.
Leopold Cafe & Bar
Since 1871
ใครไปเยือนมุมไบ แน่นอนว่าต้องแวะไปเช็กอินที่ Gateway of India อนุสาวรีย์ซุ้มประตูโค้งแบบเดียวกับประตูชัยในยุโรปที่ตั้งตระหง่านหันหน้าสู่ทะเลอาหรับมาตั้งแต่ปี 1924
ไม่ไกลจากประตูสู่อินเดีย แนะนำให้เดินลัดเลาะไปยังถนน Colaba Causeway เพื่อเช็กอินหนึ่งในคาเฟ่เก่าแก่ประจำมุมไบอย่าง Leopold Cafe & Bar ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสมนต์ขลังที่นี่สักครั้งในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยอ่านหนังสือ Shantaram เขียนโดย Gregory David Roberts ที่ใช้ Leopold Cafe & Bar เป็นฉากหลัง หรือคนที่สนใจประวัติศาสตร์การเมืองอินเดียที่อยากมาเห็นร่องรอยกระสุนที่อยู่บนผนังและกระจกของร้านจากการตกเป็นเป้าหมายในเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 โดยผู้ก่อการร้ายบุกเข้ายึดคาเฟ่แห่งนี้เอาไว้หนึ่งวัน ก่อนเหตุการณ์จะคลี่คลายและร้านเปิดให้บริการได้ตามปกติในอีกไม่กี่วันให้หลัง
Leopold Cafe & Bar ก่อตั้งโดยชาวอิหร่านที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในบอมเบย์ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 โดยตั้งชื่อร้านตามชื่อของกษัตริย์เลโอโปลด์แห่งเบลเยียม แรกเริ่มเดิมที เลโอโปลด์ไม่ได้เป็นคาเฟ่ แต่เป็นร้านขายส่งน้ำมันสำหรับประกอบอาหาร ก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ร้านของชำ และร้านยา โดยใช้ชื่อว่า Leopold Cafe & Stores
เลโอโปลด์คาเฟ่เคยเป็นสถานที่แฮงเอาท์ขวัญใจนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการมาอิ่มเอมกับบรรยากาศของคาเฟ่เก่าแก่ที่เสิร์ฟอาหารหลากหลายสัญชาติ และเครื่องดื่มที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการ แต่หลังเกิดเหตุก่อการร้าย ชาวอินเดียก็เริ่มนิยมมาที่เลโอโปลด์มากขึ้น เพื่อรำลึกถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อต้านการก่อการร้าย
ปัจจุบัน ทุกตารางนิ้วในเลโอโปลด์คาเฟ่แทบไม่เคยว่างเว้นจากการมาเยือนของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาติ ฟุตบาทหน้าร้านเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ต่างก็มารอคิวเพื่อที่จะได้เข้าไปสัมผัสเสน่ห์ของคาเฟ่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโคลาบา
สำหรับอาหารของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายละลานตาจนมิอาจแนะนำเมนูใดเป็นพิเศษ อาหารคาวมีตั้งแต่สแน็คสไตล์อินเดียและตะวันตก มีสลัด เบอร์เกอร์ พาสต้า พิซซ่า ไปจนถึงแป้งนาน แกงถั่ว ไก่ทันดูร์ ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาจากสารพัดถิ่นอย่างแท้จริง
ขนมและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกจนตาลาย ทั้งน้ำผลไม้ มิลค์เชค ชา กาแฟ ค็อกเทล เบียร์ ส่วนคนชอบกินขนมหวานไม่ต้องคิดอะไรมาก ลองเลือกขนมหน้าตาที่ถูกใจจากตู้โชว์หน้าร้านมาชิมสักชิ้น รับรองว่าหวานอร่อยเข้มข้นโดนใจแน่นอน อาทิ เค้กช็อกโกแลตลาวาโปะไอศกรีมที่เราสุ่มเลือกมาชิมจานนี้ที่อร่อยเกินมาตรฐานร้านเบเกอรี่ในอินเดียหลายร้าน น่าจะถูกปากคนไทยแน่นอน
Leopold Cafe & Bar
- Instagram : leopoldcafemumbai
- ที่ตั้ง : Colaba Causeway, near Colaba, Mumbai
- โทร : +918585828201
- เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 7.30 – 00.30 น.
Taj Ice Cream
Since 1887
เมื่อได้ยินชื่อ ตลาดโจร (Chor Bazaar) หลายคนอาจนึกหวาดระแวง ไม่กล้าย่างกรายไปเยือน ในขณะที่อีกหลายคนที่หลงใหลของเก่าน่าจะโปรดปราน เพราะตลาดแห่งนี้เป็นตลาดขายของเก่าที่ใหญ่ที่สุดในมุมไบ โดยมีคำกล่าวเปรียบเปรยให้เห็นภาพว่า ถ้าใครทำของหายที่มุมไบ สามารถไปหาเจอที่ตลาดโจร
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฟากความรู้สึกไหนที่มีต่อตลาดโจร เราก็ยังอยากให้คุณไปเยือนที่นี่ เพราะมี Hidden Gem อายุเก่าแก่เกือบ 140 ปีรอให้ไปสัมผัสเสน่ห์แบบลับๆ ที่ซ่อนอยู่
พิกัดลับที่เราหมายถึงไม่ใช่ร้านขายของเก่าหายาก แต่เป็น Taj Ice Cream ร้านไอศกรีมขนาดเล็กเพียง 1 คูหา ทว่ามีคิวเสิร์ฟไอศกรีมโฮมเมดที่มีลิสต์ยาวเป็นหางว่าวตลอดวัน
อะไรคือเคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมในถ้วยกระดาษที่หากพิจารณาแค่หน้าตาก็ไม่ต่างจากไอศกรีมเจ้าอื่น จนกว่าจะได้ลิ้มลองเท่านั้นถึงจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่าง ไล่มาตั้งแต่ตัวเลือกของผลไม้ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบที่ทั้งหลากหลายและมีความเป็นผลไม้เฉพาะถิ่นอินเดียใต้ ไม่ว่าจะเป็น Chickoo (ละมุด) , Sitaphal (Custard Apple หรือน้อยหน่า), Alphonso Mango (มะม่วงสายพันธุ์อินเดีย) ที่มีขายในบางฤดูกาลเท่านั้น
ตำนานความอร่อยของ Taj Ice Cream เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1887 เมื่อ Valiji Jalalji พ่อค้าจากเมือง Mandvi ในรัฐคุชราต เดินทางล่องเรือมาขึ้นฝั่งยังเมืองท่าบอมเบย์ (ชื่อเรียกมุมไบในสมัยนั้น) และตั้งรกรากในตลาด Bhendi Bazaar พร้อมกับคิดทำมาหากินด้วยการคัดสรรผลไม้สดตามฤดูกาล นำมาผสมเข้ากับนมวัวที่ผ่านการต้มในอุณหภูมิสูงที่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อย นำส่วนผสมของนมวัว เนื้อและน้ำผลไม้ลงปั่นในถังไม้ที่บรรจุน้ำแข็งไว้โดยรอบ กรรมวิธีสำคัญคือ ต้องปั่นโดยใช้แรงมนุษย์นาน 2-3 ชั่วโมง จึงจะได้ผลลัพธ์เป็นไอศกรีมเนื้อเข้มข้น วางจำหน่ายเพื่อคลายร้อนแก่ชาวบอมเบย์
ไอศกรีมสูตรแรกที่ Valiji ทำขาย คือ Mix Fruit ทำจากสับปะรด เกรปฟรุต และละมุดนำมาปั่นให้เข้ากับนมและอินทผลัมในหม้อดินเผา ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ภาชนะทองแดงในปัจจุบัน แต่ยังคงเอกลักษณ์ของการปั่นไอศกรีมด้วยมือในถังไม้บรรจุน้ำแข็งเช่นเดิม
ความอร่อยของไอศกรีมปั่นมือ Taj Ice Cream เป็นที่เลื่องลือปากต่อปากในมุมไบ ทำให้ร้านเล็กๆ ของ ‘ไอศกรีมวาลา’ (พ่อค้าไอศกรีม) ได้ต้อนรับทั้งดาราบอลลีวูด คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่แวะเวียนมาชิมความอร่อยสดชื่นของไอศกรีมผลไม้จากรุ่นสู่รุ่น โดยปัจจุบัน Taj Ice Cream อยู่ภายใต้การดูแลของผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 5 และ 6 ที่ยังคงใส่ใจในวัตถุดิบและกระบวนการทำไอศกรีมแบบดั้งเดิมเอาไว้ไม่ผิดเพี้ยน
“ชื่อร้าน Taj Ice Cream มาจากชื่อของ Tajuddin ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของปู่ของผม เขาเคยดั้นด้นเดินทางมาจากรัฐคุชราตเพื่อมากินไอศกรีมของปู่ ท่านจึงนำชื่อของลูกค้าที่มีความรักในตัวแบรนด์มากขนาดนี้มาตั้งเป็นชื่อร้าน เพื่อเป็นการให้เกียรติและเป็นมงคลกับตัวร้านเอง” Aamir Hatim รุ่นหกแห่งตระกูลพ่อค้าไอศกรีมเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อร้านที่ติดหู จำง่าย และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทัจมาฮาล
Aamir เข้ามารับช่วงดูแลกิจการตั้งแต่ปี 2016 โดยเริ่มต้นออกแบบโลโก้ร้านเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์แข็งแรงยิ่งขึ้น รวมถึงพาไอศกรีมสูตรคุณปู่เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์ม Delivery พร้อมทั้งแนะนำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านทาง Social Media ซึ่งนอกเหนือไปจากการสร้างแบรนด์และทำการตลาด Aamir ย้ำว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรนอกเหนือไปจากนี้
“คุณปู่เป็นคนมีวิสัยทัศน์และวางแผนทุกอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี แม้แต่ภาชนะทองแดงที่เอาไว้ปั่นไอศกรีมก็เป็นของเดิมที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นปู่ สิ่งที่เราต้องทำคือการดูแลรักษาอุปกรณ์เหล่านี้เป็นประจำทุกปี เพื่อให้อยู่ในสภาพดี โดยคนงานของเราก็เป็นคนที่ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่รุ่นที่สาม จึงคุ้นเคยกับกระบวนการทำงานและมาตรฐานของเราเป็นอย่างดี ธุรกิจเลยแทบจะดำเนินไปแบบ auto-pilot ก็ว่าได้”
หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ Taj Ice Cream ยึดถือและส่งต่อรุ่นสู่รุ่น คือ การไม่ใส่สารช่วยให้ไอศกรีมคงตัว ไม่ใส่สารกันเสีย และไม่ใส่สีสังเคราะห์ รวมถึงการเลือกซื้อผลไม้สดที่ต้องใช้คนของร้านไปเลือกซื้อด้วยตัวเองเท่านั้น และนมก็ส่งจากเจ้าเดิมเจ้าเดียวที่ไว้ใจได้มาอย่างยาวนาน
“สิ่งแรกที่ผมเรียนรู้จากคุณพ่อ คือ เราไม่ยอมอ่อนข้อเรื่องของคุณภาพ ไอศกรีมทุก Batch จะผ่านการชิมโดยคุณพ่อหรือผม เพื่อให้ได้คุณภาพและคงรสชาติดั้งเดิมเอาไว้” Aamir ย้ำถึงจุดยืนของ Taj Ice Cream
รสชาติดั้งเดิมของ Taj Ice Cream มีให้เลือก 6 รส ปัจจุบันมีมากถึง 15-16 รส แบ่งเป็นไอศกรีมผลไม้สดที่มีให้เลือกอร่อยกว่า 10 รสชาติ อาทิ น้อยหน่า มะม่วง สตรอเบอร์รี่ ลิ้นจี่ และฝรั่งโรยพริกเกลือแบบอินเดีย ! ส่วนอีกหมวดเป็นไอศกรีมผลไม้แห้งและช็อกโกแลต มีให้เลือก 5 รสชาติ อาทิ Malai คล้ายไอศกรีมกะทิของบ้านเรา, Anjeer หรือลูกฟิกอบแห้ง และ Kesar Pistachio พิสตาชิโอผสมกับหญ้าฝรั่น (Saffron) คุณภาพดีนำเข้าจากอิหร่าน
วัตถุดิบคุณภาพคับถ้วยขนาดนี้ ขายแค่ราคาถ้วยละ 80 รูปี หรือประมาณ 40 บาทเท่านั้น ใครไปมุมไบ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
Taj Ice Cream
- Instagram : tajicecream
- ที่ตั้ง : Shop No. 1, SBUT Transit Cluster – D Kharat, Chimna Butcher St, Bohri Mohalla, Mumbai
- โทร : +919820777732
- เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.30 – 23.30 น.
อ้างอิง
- Krystelle Dsouza.Once Madhubala’s Fav, Iconic Mumbai Eatery Crafts Natural Ice Cream in Wooden Barrels.https://bit.ly/4348UmY
- Vidhi Choudhary.The evolution of Kyani and Co.https://bit.ly/4dnCveu
- Yashika Seth.Have A Complete Meal At Kyani And Co With Their Keema Pav And Elaichi Chai.https://bit.ly/3SfxVW5
- Dishoom.Leopold’s cafe.https://bit.ly/4ktgyx8
- Krati Darak.Colaba’s Legendary Leopold Cafe Is A Memoir Of History, Nostalgia & Homely Food!.https://bit.ly/4kxHn3j
