ร้านอาหารมุสลิม ที่ผนวกอาหารอินเดีย อาหรับ และไทย ไว้ในบรรยากาศสไตล์โมร็อคโค
เมื่อนึกอยากกินอาหารสไตล์แขกๆ คงไม่มีที่ไหนที่รวมเอาทุกกลิ่นอายภารตะผสมอาหรับและมุสลิมเอาไว้ได้ครบเครื่องเท่ากับที่ ‘ฌาบีบี เฮ้าส์’ หรือในชื่อเดิมว่า ฌาบีบี – โรตีชา ที่เหมาทุกความอร่อยภายใต้กลิ่นนม เนย และเครื่องเทศ จากแดนอาหรับ ภารตะ และภาคใต้ของไทยไว้ในครัวเดียว
ฌาบีบี เฮ้าส์ หรืออีกชื่อที่หลายคนคุ้นเคยก็คือ ฌาบีบี – โรตีชา เปิดให้บริการมานานกว่า 4 ปี ถือเป็นร้านที่ตอบโจทย์ชาวมุสลิมในย่านปทุมวัน ที่หาอาหารฮาลาลแท้ๆ รับประทานได้ค่อนข้างยาก ฌาบีบีจึงได้รับความนิยมท่วมท้นตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ ที่เปิดร้าน ถึงขั้นเคยเปิดบริการ 24 ชั่วโมงมาแล้ว เพื่อเป็นที่พึ่งมื้อดึกให้กับชาวมุสลิมที่อยากหาสถานที่แฮงเอาท์นั่งคุยกันแบบยาวๆ พร้อมกับมีของอร่อยไว้กินแก้หิว
ปัจจุบัน แม้จะไม่ได้เปิดบริการทั้งวันทั้งคืนแล้ว แต่ฌาบีบี เฮ้าส์ ก็ได้ทำการขยายสาขาความอร่อยที่เหม่งจ๋ายเพิ่มอีกแห่ง ในบรรยากาศการตกแต่งสไตล์โมร็อกโคที่ช่วยเสริมอรรถรสให้การกินโรตีแกล้มชาให้อร่อยยิ่งขึ้น
ในส่วนของชื่อร้านที่ติดหูและง่ายต่อการจดจำ มาจากคำว่า ฮาบีบี ซึ่งแปลว่า ที่รัก ในภาษาอาหรับ ที่เมื่อนำมาปรับให้เข้ากับเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอย่างชานมเข้มข้นสูตรพิเศษ จึงเกิดเป็นชื่อเฉพาะว่า ‘ฌาบีบี’ ที่หมายถึง ชาอันเป็นที่รัก ที่พลอยทำให้เมนูอื่นๆ กลายเป็นที่ชื่นชอบตามไปด้วย
เมนูระดับแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ลูกค้าผูกปิ่นโตกับฌาบีบี เฮ้าส์ หนีไม่พ้นอาหารจาน ‘แป้ง’ ต่างๆ เพราะที่นี่นวดแป้งผสมเนยสดใหม่ทุกวัน จึงได้คุณภาพของโรตี นาน จาปาตี และภารธา ที่หอมนุ่มชุ่มเนย ชนิดที่แค่เคี้ยวกินเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว ยิ่งได้กินคู่กับแกงต่างๆ เป็นมื้อคาว หรือราดนมน้ำตาลเป็นขนมหวาน ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความอร่อยที่ทำให้ต้องบอกต่อโดยทั่วกัน
สำหรับความแตกต่างของแป้งแต่ละแบบนั้น แยกได้คร่าวๆ ออกเป็น ‘นาน’ ซึ่งก็คือ แป้งอบในเตา ใช้ความร้อนทำให้เนื้อแป้งระอุ สุกแบบไร้น้ำมัน ส่วน ‘จาปาตี’ เป็นแป้งย่าง ที่ก็จะได้เนื้อแป้งนุ่ม เบา หอมน่าทาน แต่จะไม่ได้หนานุ่มชุ่มเนยเหมือนกับ ‘โรตี’ และ ‘ภารธา’ ซึ่งเป็นแป้งผสมเนยทอดในน้ำมันร้อนๆ จึงได้เทกส์เจอร์กรอบนอกนุ่มใน เสริมความอร่อยให้อาหารคาวหวานได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะภารธาของที่นี่ ที่นอกจากราชาภารธา ซึ่งเป็นเนื้อแป้งหนานุ่มสูตรดั้งเดิมแล้ว ยังมีภารธาอีก 3 สี ที่สร้างกิมมิคให้เป็นที่จดจำ โดยภารธาสีดำทำมาจากส่วนผสมของชาร์โคล ภารธาสีเขียวมีให้เลือกทั้งส่วนผสมของใบเตยและชาเขียว ส่วนภารธาสีฟ้าได้จากสีสันของดอกอัญชัน ที่ไม่ว่าจะเป็นภารธาสีไหน สั่งมากินกับอะไรก็อร่อย
ถ้าเมนูแป้งและแกงมีให้เลือกหลากหลายจนตัดสินใจไม่ถูก แนะนำให้สั่ง ฌาบีบี เมนู เซ็ต มาลอง จ่ายแค่ 250 บาท ก็ได้เต็มอิ่มกับเมนูอร่อยครบชุด ไล่มาตั้งแต่สลัดแขก พร้อมด้วยแตงโมปลาแห้ง อาหารโบราณของไทย ที่เสริมรสชาติอาหารมุสลิมได้อย่างเข้ากัน จานหลักเลือกได้ว่าจะรับเป็นข้าว ภารธา จาปาตี หรือจะเปลี่ยนเป็นนานก็ยังได้ พร้อมกับเลือกแกงได้ 2 ชนิด และเลือกได้ว่าอยากจะกินคู่ไก่ทอดหรือเนื้อทอด ตบท้ายด้วยชาร้อนหรือเย็นได้อีก 1 แก้ว สั่งแค่เซตเดียวจบหนึ่งอิ่มกำลังดี
ความเด็ดในรสเข้มข้นของชานมต้นตำรับอย่าง ฌาบีบี ได้รับการขนานนามจากขาประจำของทางร้านว่า ชาตาตั้ง เพราะมีดีกรีคาเฟอีนเข้มข้น ซึ่งได้จากการต้มชาผสมนมสดใหม่ทุกวัน และแทนที่จะใส่น้ำแข็งตอนเสิร์ฟ ทางร้านเลือกที่จะใช้ชาแช่แข็งแทน ทำให้ฌาบีบีเย็นทุกแก้วได้รสเข้มข้นแบบไม่มีอย่างอื่นปน ว่ากันว่าถ้าได้กินฌาบีบี 1 แก้ว ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็จะตาตั้งไปเลยทั้งคืน
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่เหมือนร้านอื่น เพราะเป็นสูตรดั้งเดิมของทางร้านที่สืบทอดกันมาแบบรุ่นสู่รุ่นนานกว่า 80 ปี ก็คือ มะตะบะไส้หวาน ที่ใส่เครื่องเครามาอย่างแน่น ทั้งกล้วยหอม ลูกพลับแห้ง ลูกเกด ฟักเชื่อม และขนุน ราดด้วยนมข้นหวาน สารเพิ่มความอร่อยที่ขาดไม่ได้ในการกินโรตีมะตะบะเป็นของหวาน ที่ยิ่งทำให้ทุกส่วนผสมเข้ากันแบบเคี้ยวกรุบได้รสหวานละมุน
อีกตัวเลือกอย่าง ขนมจีนภารธาน้ำยาปู เป็นลูกผสมของอาหารขึ้นชื่อในแถบภาคใต้ของไทยอย่างขนมจีนน้ำยาปู ที่ทางร้านเสิร์ฟภารธาเพิ่มเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเสริมความอร่อย ที่เข้ากันกับน้ำยาปูได้เป็นอย่างดี ได้เคี้ยวเนื้อปูเป็นก้อนๆ กับน้ำยาหอมกะทิเข้มข้น และเนื้อแป้งกรอบนอกชุ่มเนยข้างใน มาลองได้ที่นี่ที่เดียว
ยังมีอีกหลากหลายเมนูน่าสนใจ ที่ทางร้านคัดสรรเอาอาหารสูตรดั้งเดิมของหลายแห่งมาเสิร์ฟให้ครบสำรับฮาลาล เช่น เนื้อทอดน้ำปลา แกงกุรุหม่าไก่ สะเต๊ะไก่-เนื้อ แม้กระทั่งพิซซ่าหน้าฮาลาลก็ยังมีให้เลือกอิ่มกันแบบจุใจในร้านเดียว
- ฌาบีบี เฮ้าส์ สาขาสวนหลวงสแควร์ ซอยจุฬาฯ 12 โทร 099-359-5979 เปิดบริการวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เวลา 11.00 – 02.00 น. (วันศุกร์และวันเสาร์ ปิดตี 3)
- ฌาบีบี เฮ้าส์ สาขาเหม่งจ๋าย ประชาอุทิศ 23 โทร 082-926-6535 เปิดบริการวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เวลา 11.00 – 21.00 น. (วันศุกร์และวันเสาร์ ปิด 4 ทุ่ม)