©ulture

“มัทฉะคือชาเขียว แต่ชาเขียวไม่ใช่มัทฉะ”

สำหรับคนที่เป็น ‘มัทฉะ เลิฟเวอร์’ คงรู้ข้อเท็จจริงนี้ดีอยู่แล้ว แต่อีกหลายคนน่าจะถึงกับเหวอ เพราะคิดมาตลอดว่าชาเขียวกับมัทฉะคือสิ่งเดียวกัน

“ชาเขียวคือ ชาใบอบแห้ง ที่เมื่อเอาไปชงกับนมก็กลายเป็นเมนูชาเขียวเย็นที่หลายคนคุ้นเคย ส่วนมัทฉะเกิดจากการเอาใบชาเขียวชนิดที่เรียกว่า เทนฉะ ไปบด เพราะฉะนั้นเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม เราจึงได้กินผงชาเขียวเข้าไปเลย” ต๊อบ – นารถรำภา รัตนารมย์ เจ้าของมัทฉะคาเฟ่ ‘บ้านออพอ’ เริ่มต้นบอกเล่าถึงความต่างระหว่างมัทฉะกับชาเขียว

baanorpor
ต๊อบ – นารถรำภา รัตนารมย์
เจ้าของมัทฉะคาเฟ่ ‘บ้านออพอ’

“เหมือนกับเวลาดื่มกาแฟ เราไม่ได้กินเมล็ดกาแฟเข้าไป แต่สำหรับมัทฉะ เราได้กินใบของมันเข้าไปเลย ดังนั้น คาเฟอีนในมัทฉะจึงเยอะกว่ากาแฟ และเป็นคาเฟอีนคนละแบบกัน บางคนที่แพ้คาเฟอีนของกาแฟจึงเปลี่ยนมาดื่มมัทฉะแทน” เธอขยายความให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะกำลังหมุนข้อมือคนผงชาเขียวด้วยก้านไม้ไผ่อย่างใจเย็น ณ พื้นที่ด้านหลังบาร์ขนาดกะทัดรัดในห้องนั่งเล่นหน้าบ้านที่แปลงร่างเป็นโฮมคาเฟ่นาน 6 ชั่วโมงต่อวัน

baanorpor

baanorpor

ต๊อบแบ่งพื้นที่ส่วนหน้าบ้านให้กลายเป็นโฮมคาเฟ่ในช่วงต้นปี 2567 เพื่อสานต่อแพสชั่นของตัวเอง หลังจากที่เคยเปิดคาเฟ่ไอศกรีม Me & Icecream เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วในทำเลทองย่านสยามสแควร์ แต่เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการเลี้ยงดูลูกชาย ต๊อบจึงหยุดทุกอย่างเพื่อเป็นคุณแม่เต็มเวลา 

และในปีนี้ เมื่อบทบาทคุณแม่เริ่มอยู่ตัวในวัยที่ลูกชายก้าวสู่ชั้นมัธยม ต๊อบจึงใช้เวลาว่างหลังจากส่งลูกเข้าเรียนมาจับก้านไม้ไผ่ตีผสมผงมัทฉะปรุงเครื่องดื่มเสิร์ฟตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง ก่อนจะไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียน

baanorpor
บรรยากาศร่มรื่นในโซนเอาท์ดอร์

“ร้านนี้ลงทุนต่ำมาก เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็เป็นของเดิมที่มีอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับร้านไอศกรีมแห่งแรกที่ลงทุนไปเยอะ เพราะด้วยวัยในตอนนั้นอยากประสบความสำเร็จ อยากจะเป็นนักธุรกิจ พอได้ลองทำจึงรู้ว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้อยากเป็นนักธุรกิจหรอก อยากเป็นแค่แม่บ้าน เลยเลือกเปิดบ้านเป็นคาเฟ่แค่วันละ 6 ชั่วโมง เพื่อที่จะรักษาความเป็นแม่ได้เหมือนเดิม เช้าส่งลูก เย็นรับลูก กลางวันหาอะไรที่ชอบทำเพื่อที่จะมีรายได้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน”

baanorpor
นั่งๆ นอนๆ เอกเขนกได้บนโซฟาตัวเขื่องในโซนห้องนั่งเล่น

‘อะไรที่ชอบ’ สำหรับต๊อบก็คือ มัทฉะ ที่เจ้าตัวสั่งสมความหลงใหลในรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมัทฉะมานาน เมื่อเกิดไอเดียที่จะเปิดโฮมคาเฟ่จึงลงทุนศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับมัทฉะเพิ่มเติม และตั้งใจคัดสรรมัทฉะเกรดพิธีส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นตัวเลือกที่หลากหลายใน ‘บ้านออพอ’

“เราเลือกมัทฉะในโทนที่ตัวเองชอบ และโทนที่ทานง่าย ใครชิมก็ต้องถูกใจ หลักๆ จะมีมัทฉะให้เลือกประมาณ 10 ชนิด เช่น โทน Nutty Smoky โทนที่คล้ายสาหร่าย โทน Floral หอมเหมือนดอกไม้ และบางตัวก็จะมีความ Fruity ออกมาด้วย”

baanorpor

เมื่อไล่สายตาดูในเมนูประจำร้านก็จะพบรายชื่อมัทฉะพร้อมกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นกำกับอยู่ โดยแบ่งเป็นฝั่งมัทฉะลาเต้ ที่มีตัวเลือกของมัทฉะอย่าง Okumidori มัทฉะโทนสาหร่ายที่ค่อนข้าง Strong แต่ก็ซ่อนความ Nutty ในแบบอูมามิ, Akari ที่รสชาตินุ่มๆ ออกไปทาง Smoky หอมหวาน, Hana หอมกลิ่นดอกไม้สดชื่นสมชื่อ หรือถ้าเป็นมือใหม่ ไม่ใช่สายมัทฉะ Fuku น่าจะตอบโจทย์ที่สุดด้วยรสชาติแบบ Smoky Nutty ที่ดื่มง่าย

ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำกับมัทฉะเพียวๆ ไม่มีอย่างอื่นปน สามารถเลือกได้ว่าจะดื่มแบบ Usucha (ร้อน) หรือ Clear (เย็น) โดยมีมัทฉะให้เลือก 4 ตัว ได้แก่ Uji Hikari, Kanayamidori, Okumidori และ Hoshino ที่ให้รสชาติในโทนผลไม้ นม สาหร่าย และถั่วคั่ว ตามลำดับ

baanorpor
Coconut Matcha (ราคา 140 บาท)

“มัทฉะแต่ละโทนก็จะเหมาะกับส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป เช่น  Coconut Matcha ก็ต้องเลือกมัทฉะโทน Nutty Smoky ที่เข้ากันกับน้ำมะพร้าวสด ทำให้ขณะดื่มยังสัมผัสได้ถึงรสชาติหอมหวานตามธรรมชาติของน้ำมะพร้าวไปพร้อมๆ กับได้ลิ้มรสชาติของมัทฉะหอมเข้มข้น”

baanorpor
Hoshino (ราคา 160 บาท)

“หรืออย่างเมนูขายดีประจำร้านอย่าง Hoshino ก็ดื่มง่าย ให้รสชาติในโทน Smoky ที่ชัดมาก ยิ่งใช้กรรมวิธีชงแบบ Cold Wrisk หรือการชงมัทฉะด้วยนมแทนน้ำเปล่า ยิ่งทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและนัวยิ่งขึ้น สัมผัสได้ถึง Body ชัดเจน” ต๊อบเล่าให้ฟังอย่างออกรส ยิ่งวันไหนมีนักดื่มสายมัทฉะแวะมาที่ร้าน บทสนทนาเหล่านี้จะได้รับการต่อยอดแบบไม่รู้จบ ถือเป็นอีกหนึ่งความสุขใจของการเปิดพื้นที่ให้คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันได้อิ่มเอมกับรสชาติลึกล้ำที่ซ่อนอยู่ในมัทฉะแต่ละตัว

baanorpor
Matcha Waffle (ราคา 170 บาท)

“ช่วงแรกที่เปิดร้านก็มีเมนูที่ไม่ใช่มัทฉะ เช่น วาฟเฟิลรสธรรมดา ไอศกรีมช็อกโกแลต ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วง ไอศกรีมมะพร้าวเผา ฯลฯ ปรากฏว่าลูกค้าไม่ค่อยสั่ง เลยรู้สึกว่าถ้าอย่างนั้นเราคงต้องเป็นมัทฉะคาเฟ่เต็มตัวแล้วล่ะ” เจ้าของร้านเกริ่นถึงที่มาของการที่เมนูขนมอย่าง Matcha Waffle มีไอศกรีมให้เลือกทานเพียง 2 รส โดยวาฟเฟิลมัทฉะจะเสิร์ฟพร้อมซอสมัทฉะแยกใส่ถ้วยมาให้ แล้วเลือกจับคู่ว่าจะเข้มครบสูตรไปกับไอศกรีมดาร์กมัทฉะ หรือตัดรสชาติให้ซอฟท์ลงด้วยความหวานซ่อนเปรี้ยวสดชื่นของไอศกรีมยูสุ ที่เข้ากับมัทฉะอย่างลงตัว

baanorpor

baanorpor
Very Match (ราคา 170 บาท)

ปิดท้ายด้วยเมนูขนมขายดีขึ้นแท่นพระเอกของร้านอย่าง Very Match เสิร์ฟไอศกรีมดาร์กมัทฉะลูกโต โรยทั้งผงมัทฉะและราดซอสมัทฉะสุดฉ่ำ ตัดรสชาติความเข้มข้นด้วยสารพันท็อปปิ้งเรียงรายมาเต็มชาม มีทั้งถั่วแดงกวน โมจิเนื้อนุ่มเหนียวที่ต๊อบกวนแป้งและปั้นเองทุกเช้า มัทฉะนามะหวานนวลหนึบหนับ ซ่อนเทกส์เจอร์เคี้ยวกรุบของบิสกิตไว้ก้นถ้วย รวมทุกรสชาติและรสสัมผัสไว้ครบครัน

baanorpor

“สนุกดีนะ จากคนที่อยู่เฉยๆ มานาน รอแค่เวลาไปรับลูกจนแทบจะเนือยนิ่งไปแล้ว ตอนนี้ได้กลับมาทำงานที่เอื้อกับไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองเป็น ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้อยู่กับบ้าน มีเวลาภาวนานั่งสมาธิระหว่างวัน ทุกอย่างลงตัว” ต๊อบยิ้ม พลางตอบคำถามถึงความรู้สึกที่ได้เปิดคาเฟ่เสิร์ฟของอร่อยให้ผู้คนได้ชิมในเขตรั้วร่มรื่นรอบบ้านของตัวเอง

baanorpor

บ้านออพอ

25/16 หมู่บ้านอิ่มอัมพร 2 ซอยราชพฤกษ์ 9 ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

โทร : 081 833 3849

เปิดบริการ : เวลา 9.00 – 15.00 น. ปิดวันจันทร์

Facebook : Baan Orpor

Instagram : baanorpor