“ร้านอาหารฝรั่งในเมืองไทยที่พอรับประทานได้มีหลายร้าน แต่ที่ถูกใจทุกคนคงจะเป็นอาหารฝรั่งที่บ้านน้องนาย (คุณเกษสุดา) เพราะเวลาชวนพวกเราทีไร ไม่เคยมีใครปฏิเสธ มีแต่จะขอไปรับประทานด้วย คงเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้น้องนายต้องเปิดร้าน Patio (ร้านอาหารร่วมสมัยไทย-ฝรั่ง) ที่เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และอิเซตัน”
ครั้งหนึ่ง คุณภัทรา ศิลาอ่อน ผู้ก่อตั้ง S&P แบรนด์ร้านอาหารและเบเกอรี่ที่คนไทยคุ้นเคยมานานกว่า 50 ปี เคยบอกเล่าถึงเสน่ห์ปลายจวักของ คุณเกษสุดา ไรวา ไว้เช่นนั้นในคำนำของหนังสือ Party at Home เมนูคู่งานเลี้ยง ตำราสอนทำอาหารนานาชาติสูตรรสมือคุณเกษสุดาที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวนเมื่อ พ.ศ. 2545 ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า อาหารฝรั่งตำรับโฮมคุกกิ้งฝีมือ ‘คุณแม่นาย’ แห่งบ้านไรวานั้นไม่เป็นสองรองใคร
ผ่านเวลามาอีก 20 ปี ตำนานความอร่อยสูตรคุณแม่นายถูกนำมาบอกเล่าอีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่ ผ่านการคิดและดำเนินงานโดย นาม – ปรมา ไรวา ลูกสาวคนสุดท้องของคุณแม่นาย ที่รับผิดชอบดูแล SNP HQ Cake Studio ในเครือ S&P ที่เพิ่งย้ายไลน์ผลิตเค้กมาอยู่ที่ออฟฟิศเก่าของ Vanilla Industry ซึ่งเมื่อปรมาเห็นสเปซทั้งหมด เธอจึงมองเห็นโอกาสที่มากกว่าการเป็นเพียงสตูดิโอทำเค้ก
“ตอนแรกพื้นที่ตรงนี้เป็นออฟฟิศของร้านอาหารวานิลลา แล้วนามก็เพิ่งย้ายมาทำโปรดักชั่นไลน์ของเค้กสตูดิโอตรงนี้ และเห็นว่าที่ว่างตรงกลางเหมาะเจาะที่จะทำเป็นร้านอาหาร ซึ่งก็ต่อยอดมาจากสถานการณ์ช่วงที่โควิด 19 แพร่ระบาด ช่วงเวลานั้นคุณแม่ผู้ซึ่งชอบจัดเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านเป็นประจำเกิดความรู้สึกคิดถึงเพื่อนๆ ที่ไม่สามารถมารวมตัวพบปะกันได้เหมือนเก่า จึงอบพายส่งไปให้เพื่อนๆ ทาน แล้วจู่ๆ พายของคุณแม่ก็ได้รับการบอกต่อปากต่อปาก จนมีคนสั่งพายไปกินเยอะมาก พวกเราเลยอบพายขายอยู่หลายเดือนเหมือนกันในช่วงโควิด จนเป็นจุดเริ่มต้นว่า หรือเราจะเปิดร้านอาหารดีไหม”
คุณนามเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Nais (นายส์) ร้านอาหารที่เธอตั้งใจนำเมนูอร่อยตำรับรสมือคุณแม่นายมาปรุงแจกจ่ายให้เหล่า Foodies ได้มีความสุขกับรายการอาหารฝรั่งถูกลิ้นคนไทยเหมือนกับที่เธอ สมาชิกในบ้าน และเพื่อนสนิทของครอบครัวได้อิ่มท้องและอิ่มใจมาโดยตลอด
“ร้านนายส์เป็น passion project ของนาม ที่อยากนำอาหารที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เด็กมาแนะนำให้คนอื่นๆ ได้ทาน บางเมนูสืบทอดมาตั้งแต่คุณยาย พอมาถึงรุ่นคุณแม่ซึ่งเป็นคนชอบทำอาหาร และเวลาไปทานอะไรมาก็ชอบเอามาลองทำเองที่บ้าน ประยุกต์ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสูตรอาหารที่คุณแม่ชอบทำเวลาสังสรรค์กับเพื่อนๆ เพราะความสุขของคุณแม่คือการได้ทำอาหารให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ได้ทาน”
ไม่เพียงแต่สูตรอาหารที่แสนจะอบอุ่นแบบโฮมมี่เท่านั้น แต่ละองค์ประกอบภายในร้านนายส์ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวทั้งสิ้น เพราะนอกจากสเปซแห่งนี้จะเคยบรรจุประวัติศาสตร์ของร้าน วานิลลา อินดัสทรี เอาไว้ โต๊ะ เก้าอี้ กรอบรูป และรายละเอียดต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นร้านนายส์ล้วนเป็นจิ๊กซอของร้านอาหารในเครือเอสแอนด์พี ที่ถูกนำมาประกอบร่างใหม่อีกครั้งที่นี่
“ด้วยความที่สเปซเดิมมีความอินดัสเทรียลอยู่แล้ว การตกแต่งก็เลยไม่ยาก โต๊ะเก้าอี้ที่ใช้ก็มาจากร้าน Patio ซึ่งเป็นร้านอาหารที่คุณแม่เริ่มทำมานานแล้ว มีสตอรี่ มีประวัติศาสตร์อยู่ในนั้น กรอบรูปจาก Vanilla ที่พี่จอม (วิสาขา ไรวา) เป็นคนทำจนประสบความสำเร็จเช่นกัน ทุกอย่างในร้านนี้จึงเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์หของครอบครัวเรา” คุณนายเล่าพลางยิ้มให้กับรายละเอียดต่างๆ ภายในร้านที่เธอผูกพันและเห็นมาตั้งแต่เด็ก
ว่ากันด้วยเรื่องของรายการอาหารแห่งความผูกพัน เมนูแรกควรจะต้องประเดิมกันที่ของดีของเด็ดอันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดร้านนายส์ อย่าง Nais Beef Stew Pie สตูเนื้อที่เคี่ยวจนเข้าเนื้อกับเห็ด แครอท มันฝรั่ง และผักนานาชนิดจนเข้าเนื้อเนียนเป็นหนึ่งเดียว ถูกห่มคลุมด้วยแป้งพัฟฟ์สูตรทำเอง เสิร์ฟในพอร์ชั่นที่ทานคนเดียวอิ่ม แต่ถ้าทานหลายคนพร้อมกับสั่งอาหารจานอื่นมาทานคู่ไปด้วยจะยิ่งอร่อย
ตามด้วย BL’s Roast Chicken ไก่อบราดซอสเกรวี่ที่มาพร้อมเรื่องเล่าจากคุณนาม
“บางเมนูที่ครีเอทขึ้นที่ร้านนี้เป็นอาหารที่นามทานตอนเด็กๆ โตขึ้นมาเลยอยากทำในเวอร์ชั่นที่เราชอบและรู้สึกว่าอร่อยในมุมมองของเรา เช่น เมนูอาหารเช้าต่างๆ หรือไก่อบ BL ที่ย่อมาจากคำว่า บุญหลาย ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของนามเองซึ่งทำอาหารให้นามกินเป็นส่วนใหญ่ เพราะคุณแม่เป็นคนสอนเขาทำทุกเมนู อย่างเนื้อไก่อบราดซอสเกรวี่ เคียงด้วยมันอบทั้งเปลือก พี่บุญหลายก็คงรสชาติและเทกส์เจอร์แบบที่คุณแม่ถ่ายทอดเอาไว้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน”
“หรืออย่างเมนูสปาเกตตี้ปู คุณแม่ก็เป็นคนสอนเขาทำ นามก็เอามาบรรจุไว้ในเมนูของร้านในชื่อ Aglio E Olio with Crab and Crispy Garlic เส้นสปาเกตตี้ผัดกับเนื้อปูก้อนโตๆ เวลาจะทานก็คลุกเคล้าให้เข้ากับกระเทียมทอดและมีมะกอกดำไว้ตัดเลี่ยน”
สำหรับเมนู Hash Crisps ของร้านนายส์ ถือเป็น reinvention ของแฮชบราวน์ ซึ่งเป็นของโปรดที่คุณนามคุ้นเคยกับกับการทานในเมนูอาหารเช้ามาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนประจำ จึงนำมาปรับให้เป็นสแน็คที่ทานได้ง่ายขึ้น โรยพาร์เมซานชีส เสิร์ฟคู่ดิปแบบครีม ทานเวลาไหนก็อร่อย
ปิดท้ายด้วย Nais Virgin Coconut Cake เค้กมะพร้าวหน้าตาสุด fluffy ที่สอดไส้มะพร้าวอ่อนละมุนลิ้น ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมของร้านเค้กเอสแอนด์พีอยู่แล้ว ซึ่งคุณนามย้ำว่า “อร่อยมากจนอยากให้ทุกคนได้ลองทาน เป็นเมนูที่คิดค้นมานานมากกว่าจะลอนช์ออกมา”
ความพิเศษยังไม่จบ เพราะแม้แต่เมนูเครื่องดื่มก็เต็มไปด้วยตัวเลือกพิเศษๆ เช่น Hot Chocolate สูตรเข้มข้นตามแบบฉบับคุณนามคุมส่วนผสมเอง ที่ต้องใส่ครีมเยอะๆ ชนิดที่กินถ้วยเดียวอิ่ม และสำหรับใครที่ชอบรสชาติของชาอินเดียหอมเครื่องเทศที่หาทานได้ยาก ที่ร้านนายส์มี Chai Latte พร้อมเสิร์ฟทั้งแบบร้อนและเย็น โดยเป็นชาอินเดียในมิติใหม่ที่ให้รสนวลขึ้น ด้วยส่วนผสมของชาเครื่องเทศที่เข้ากับไวท์ช็อกโกแลตและโอ๊ตมิ้ลค์
อันที่จริง แค่สั่งน้ำเปล่ามาดื่มก็พิเศษสุดๆ แล้ว เพราะคุณนามคัดสรรน้ำดื่มอัดออกซิเจนและคลื่นความถี่แบบพิเศษที่ดื่มแล้วดีต่อใจและกายไว้เสิร์ฟความสดชื่นคู่สำรับอาหารฝรั่งรสชาติถูกปากคนไทยของคุณแม่นาย
Nais
เปิดบริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. และวันพฤหัสบดี – วันเสาร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. ปิดวันจันทร์
ที่อยู่ : สุขุมวิท 26 คลองเตย กรุงเทพฯ
โทร. 081 910 5103
Facebook : Nais
Instagram : nais_table
