life

จะป้องกันและรักษาสิวที่เกิดจากการสวมหน้ากากอนามัยอย่างไร ให้ยังคงหน้าใส สู้โรคภัยได้แบบสวยๆ

เมื่อการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยกลายเป็นกิจวัตรประจำนี้ไปแล้ว หลายคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย จึงต้องเผชิญอีกหนึ่งปัญหา นั่นคือ Maskne ศัพท์ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการบัญญัติใน Urban Dictionary ซึ่งหมายถึง สิวที่ขึ้นตามแนวที่หน้ากากอนามัยกดทับบนผิวหน้า นั่นเอง

maskne

Maskne จึงเป็นสิวที่สามารถพบได้ตามบริเวณรอบคาง รอบปาก บนสันจมูก ไปจนถึงบริเวณหน้าผาก (สำหรับผู้ที่สวม Face Shield เป็นประจำ)

แบรนด์สกินแคร์สัญชาติเกาหลีชื่อดังอย่าง Dr.Jart+ และ Peach & Lily ถึงกับออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Maskne Essentials มาเพื่อเป็นตัวช่วยในการรับมือกับปัญหาผิวล่าสุดของมนุษย์ยุคโควิด-19

maskne
Photo: https://us.drjart.com/collections/maskne-essentials?sort=manual&compactView=true

แต่หลายคนเกิดความกังขาว่า หรือนี่จะเป็นแค่แผนการตลาดของอุตสาหกรรมสกินแคร์ ที่แค่คิดศัพท์ใหม่ๆ ด้วยการเอาคำโน้นมาผสมกับคำนี้ ที่เรียกว่า portmanteau ขึ้นมา อย่าง Maskne = Mask + Acne เพื่อหาทาง “ขายของ” แก่ผู้บริโภครึเปล่า

“ไม่ได้มโน แต่เป็นปัญหาใหม่ขนานแท้เลยล่ะ” คำยืนยันจาก Dr.Mona Gohara ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังแห่ง Yale School of Medicine 

เพราะตัวเธอเองก็ประสบปัญหา maskne จากการสวมหน้ากากถึง 3 ชั้นในการปฏิบัติงานแต่ละวัน โดยชั้นในสุดสวมหน้ากาก KN95 ทับด้วยหน้ากากสำหรับผ่าตัด และเฟซชีลด์เป็นปราการด่านนอกสุด

เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นสิวภายใต้หน้ากากกันมากถึง 83%

maskne

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับสิวหน้ากากที่ใครก็ไม่อยากเป็น ส่วนใครที่เป็นแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข โดยต้องมองย้อนกลับไปที่สาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไร

สิวหน้ากากที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คน มีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็กๆ คล้ายผื่นแดงที่เรียกว่า rosacea ซึ่งบางคนก็แทบไม่เคยเป็นสิวแบบนี้มาก่อนในชีวิต เพิ่งพบเจอก็ตอนที่ต้องสวมหน้ากากสู้กับโรคโควิด-19 

จึงมีการสันนิษฐานว่า สิวหน้าเกิดขึ้นจากความอับชื้นและการที่ผิวต้องถูกกดทับอยู่ภายใต้หน้ากากนานวันละหลายชั่วโมงนั่นเอง

maskne

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหากวนใจอย่างสิวภายใต้หน้ากาก ก็ต้องทบทวนพฤติกรรมของตัวเองกันก่อนว่า มีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่ทำให้เกิดปัญหานี้ เช่น

ใส่หน้ากากซ้ำๆ โดยไม่ซักให้สะอาดเสียก่อน?

มักจะขยับหน้ากากให้เข้าที่เข้าทางบ่อยๆ เกินความจำเป็น?

แต่งหน้าหนา แถมยังใส่หน้ากากตลอดเวลา ?

เอามือมาสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ?

เหงื่อเยอะแค่ไหนก็ไม่ยอมถอดหน้ากาก?

ถ้าคุณตอบว่า “ใช่” เกิน 3 ข้อ ที่เมื่อบวกกับความเครียดแฝงที่มาพร้อมกับการเผชิญหน้ากับโรคโควิด-19 ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่สิวภายใต้หน้ากากจะมาเยือนใบหน้าของคุณ

maskne

คราวนี้ถ้าอยากจะป้องกันและรักษาสิวหน้ากากให้หายไปจากใบหน้า จะทำอย่างไรได้บ้าง

1. หมั่นรักษาความสะอาดของผิวหน้า มือ และหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ

การหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากจะเป็นสุขอนามัยพื้นฐานที่ช่วยป้องกันคุณให้ห่างไกลจากการรับหรือแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างเห็นผลที่สุดแล้ว ยังเป็นการช่วยไม่ให้เชื้อแบคทีเรียอื่น นอกเหนือจากเชื้อไวรัส มาสัมผัสกับผิว จนก่อให้เกิดสิวอีกด้วย

maskne

นอกจากการซักหน้ากากผ้าทุกวันหลังใช้งาน แพทย์ยังกำชับอีกว่า ให้คิดเสียว่าหน้ากากผ้าก็เหมือนกับชุดชั้นใน ที่ต้องการการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกไม่ต่างกัน 

นอกจากนี้ แนะนำให้พกหน้ากากผ้าสำรองติดตัวเผื่อไว้ด้วย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เปลี่ยนมาใส่หน้ากากสะอาดๆ ได้ทันท่วงที

2. รักษาสิวอย่างถูกวิธี

ถ้าคุณเป็นสิวที่อักเสบรุนแรง แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของเบนซอล เพอร็อกไซด์ 2-5% นวดหน้าเบาๆ สัก 2-3 นาทีก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด

maskne

หรือถ้ารู้สึกแสบผิว แนะนำให้ใช้น้ำมัน tea tree แต้มบริเวณที่เป็นสิวก่อนลงมอยซ์เจอไรเซอร์ตามปกติ

3. ทบทวนกิจวัตรการแต่งหน้าของตนเองเสียใหม่

ไหนๆ ใบหน้าท่อนล่างของสาวๆ ก็ต้องถูกปกปิดภายใต้หน้ากากผ้าเกือบจะทั้งวัน จึงเป็นนิมิตหมายอันดีในการแต่งหน้าให้น้อยลง หนึ่ง เมคอัพจะได้ไม่ต้องเลอะหน้ากากผ้าให้ต้องวุ่นวายตอนซัก

สอง ยิ่งมีเครื่องสำอางอยู่บนผิวมาก ก็ยิ่งอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียสาเหตุหลักของการเกิดสิว

maskne

ดังนั้น ไหนๆ ก็มีแมสก์ปิดอยู่แล้ว ลองเว้นวรรคการลงรองพื้นบ้างบางวัน แต่ห้ามขาดการทากันแดด หากไม่มั่นใจในสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ทางเลือกอย่างกันแดดสีเนื้อสามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยปกปิดรอยดำรอยแดงได้ดีในระดับหนึ่ง

4. เสริมสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ

ถึงจะบอกให้แต่งหน้าน้อยลง แต่ขั้นตอนของการบำรุงผิวนั้นห้ามขาด เพราะสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวมาจากผิวที่ขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง

ทั้งนี้ คนที่มีผิวแพ้ง่ายและมีแนวโน้มที่จะเป็นสิว ควรเลือกใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่ระบุไว้บนฉลากว่า Non-oily หรือ Non-comedogenic เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมนอุดตันได้นั่นเอง

maskne

อีกทางเลือกที่อาจฟังดูย้อนแย้ง นั่นคือ การเลือกใช้น้ำมันเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น grapeseed oil, rosehip oil, olive oil, sweet almond oil และ argan oil เพราะน้ำมันสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้ช่วยปรับสมดุลให้ผิว และไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน

5. หาวิธีบรรเทาผื่นคันและลดการระคายเคือง

ในระหว่างที่คุณกำลังหาทางรักษาสิวภายใต้หน้ากาก ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจต้องการตัวช่วยในการบรรเทาอาการคัน ปวด หรือบวมแดงของสิว ด้วยการใช้ความเย็นประคบบริเวณผิวหน้าเบาๆ

เช่น นำผ้าขนหนูสะอาดห่อน้ำแข็ง แล้วนำมาประคบบริเวณที่บวมแดงสัก 2-3 นาที จากนั้น ทาครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซน 1% หรือเจลว่านหางจระเข้ เพื่อลดอาการบวมแดง

นอกเหนือไปจาก 5 วิธีพิชิตสิวภายใต้หน้ากาก ที่กล่าวมา การบริหารอารมณ์และจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ ล้วนเป็นวิธิปฏิบัติตัวที่ดีที่สุดที่เอาชนะได้ทุกโรค และคุณอาจมองข้ามไป

อ้างอิง