ช่วงนี้ใครที่เดินผ่านไปมาในศาลาแดง ซอย 1
อาจสะดุดตากับบ้านทรงโบราณหลังใหญ่ที่เปิดประตูไว้ต้อนรับแขก พร้อมป้ายชื่อ ‘Baan Dusit Thani’ (บ้านดุสิตธานี) ติดไว้ด้านหน้า
ชวนให้ผู้คนรู้ว่า ที่นี่คือบ้านพักหลังใหม่ของโรงแรมดุสิตธานี และ เบญจรงค์ ห้องอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอยู่คู่โรงแรมแห่งนี้มานานกว่า 50 ปี
common มีโอกาสได้มาเยือนเบญจรงค์โฉมใหม่ที่ยังคงเก็บความทรงจำจากบ้านหลังเก่าไว้อย่างครบถ้วน
พร้อมชิมอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่ผสมผสานความร่วมสมัยใหม่จนทำให้หายคิดถึงกัน
เบญจรงค์ในบ้านหลังใหม่สุดร่วมสมัย
ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่ของเบญจรงค์ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความโบราณ
เพราะสถาปัตยกรรมของตระกูลเก่าแก่ที่เคยชื่อว่า ‘บ้านศาลาแดง’ หลังนี้ มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และทุกมุมของบ้านยังคงถูกอนุรักษ์รายละเอียดแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างปราณีต
พร้อมตกแต่งด้วยงานศิลปะอันทรงคุณค่าหลายชิ้นจากบ้านหลังเก่าที่โรงแรมดุสิตธานี เช่น ลายไทยฝีมือ “ท่านกูฏ” หรือ ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ ปรมาจารย์ช่างศิลป์ไทยบนเสาต้นใหญ่ในห้องอาหารเบญจรงค์ ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นวอลเปเปอร์ ถ้วยชามยุคเก่าลายสวย ตู้ไม้สักสลักลายสุดคลาสสิก และงานศิลปะอีกหลายชิ้น
ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเอนกายได้สบายกว่าเดิม
ที่นี่จึงเป็นมากกว่าห้องอาหาร แต่เปรียบเสมือนบ้านคุณตาคุณยายที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์
เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่เพิ่มเติมความโมเดิร์น
ในบ้านหลังใหม่นี้ ทุกเมนูถูกหยิบยกมาแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ ทั้งของคาวและของหวานจากเชฟทีมเดิม พร้อมเสิร์ฟในหน้าตาโมเดิร์นแบบใหม่ที่ดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น
อย่าง ต้มข่าไก่ หนึ่งในเมนูยอดฮิตของเบญจรงค์ ที่ปรุงเนื้อไก่ด้วยการทำให้สุกในอุณหภูมิต่ำนานกว่า 72 ชั่วโมง เพื่อเก็บรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ให้มากที่สุด และยังทำให้เนื้อไก่มีรสนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง พร้อมแยกน้ำซุปและเสิร์ฟเทรวมให้ตรงหน้า เพื่อให้แขกได้สัมผัสและดื่มด่ำทั้งรูป รส และกลิ่นสมุนไพร
เมนู ปลากระพงสามรส เสิร์ฟทั้งตัวแบบทอดกรอบนอกนุ่มใน เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนปลายังแหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ พร้อมราดด้วยสมุนไพรทอดกรอบ เช่น กระเทียมและใบโหระพา รสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมจากสัปปะรด เป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพจานเด็ดที่ลูกค้าประจำสั่งกันทุกโต๊ะ
ยำปลาดุกฟู เมนูพิเศษที่โดดเด่นทั้งรสชาติที่หลากหลายและเสิร์ฟด้วยหน้าตาร่วมสมัย ด้านล่างเป็นไข่ตุ๋นที่ให้สัมผัสคล้ายมันกุ้งเผา โรยด้วยเนื้อปูชิ้นโต ทานคู่กับยำปลาดุกฟูที่อยู่ด้านบนได้อย่างลงตัว
ตบท้ายด้วย ข้าวเหนียวมะม่วง หนึ่งในของหวานยอดฮิตของเบญจรงค์ ซึ่งมีความพิเศษกว่าข้าวเหนียวมะม่วงทั่วไปตรงที่ใช้ตัวกะทิสดแท้ๆ ทำเป็นเกล็ดหิมะ เมื่อกินกับมะม่วงแล้วให้รสหวาน เย็นฉ่ำ สดชื่น
นอกจากเมนูเดิมที่หลายคนติดใจ ยังมีเมนูใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเสิร์ฟที่นี่โดยเฉพาะ เช่น กุ้งแม่น้ำซ๊อสมะขามเสิร์ฟกับข้าวเม่า และทอดมันกุ้งเสิร์ฟซ๊อสมะขามกับมายองเนส
แม้ว่าเบญจรงค์ในบ้านหลังใหม่จะเต็มไปด้วยความร่วมสมัย
แต่ความเป็นไทยสไตล์เบญจรงค์ยังคงถูกเก็บมาไว้ให้หายคิดถึงกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ.
ห้องอาหารเบญจรงค์
ตั้งอยู่ซอยศาลาแดง ซอย 1 ถนนสีลม
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11:30 – 14:30 น.สำหรับมื้อกลางวัน และ 18:00 – 23:00 น.
เบอร์โทร: 02-200-9009
https://www.facebook.com/pg/baandusithani, https://baandusitthani.com/restaurants/benjarong
แผนที่
