life

อาหารหมาแมวที่มีวางขาย ชนิดที่ตาลายจนเลือกไม่ถูก ก็กลายเป็นปัญหาได้เหมือนกัน

เพราะพอมีเยอะเราก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี 

หลายคนจึงเลือกยี่ห้อที่คุ้นเคยไว้ก่อน โดยไม่เคยดูเลยว่าส่วนประกอบที่แต่ละยี่ห้อใส่มาให้นั้น เหมาะสมกับสุนัขหรือแมวของเราหรือไม่

วันนี้หมอจึงอยากจะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ ว่าอาหารที่ดีของหมาแมวนั้นควรจะเป็นยังไง และมีวิธีเลือกแบบไหน หรือถ้าไม่มีกำลังซื้ออาหารสำเร็จรูป ควรจะให้อาหารอะไร ที่ทั้งง่ายและดีต่อหมาแมว

เข้าใจธรรมชาติการกินของหมาแมว  

(Photo : https://www.meowmix.com/)

อันดับแรกหมออยากให้เข้าใจก่อนว่า ทั้งสุนัขและแมวเป็นสัตว์ที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืช หรือที่เรียกว่า Omnivore หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าสุนัขเป็นสัตว์กินพืช 

ตรงนี้สำคัญอย่างไร ? 

เมื่อเขาเป็นสัตว์ที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืช นั่นหมายความว่าเวลาเราเลือกอาหาร ควรต้องให้มีครบทั้งผักและเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เพียงพอ 

สำหรับสุนัข โดยปกติต้องได้รับสารอาหารครบ 3 กลุ่ม คือ ไขมันไม่น้อยกว่า 15% กากใยไม่น้อยกว่า 10% และโปรตีนไม่น้อยกว่า 17% 

ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าปริมาณโปรตีน คือแหล่งที่มาของโปรตีนว่ามาจากวัตถุดิบอะไร 

อย่างที่บอกตอนต้นว่า สุนัขก็ต้องกินเนื้อสัตว์ ฉะนั้นโปรตีนที่ดีก็ควรมาจากสัตว์ เช่น อกไก่ เนื้อแกะ เนื้อแพะ เป็นต้น

บางยี่ห้อ โปรตีนปริมาณสูงจริง แต่ทำมาจากมันสำปะหลังหรือถั่วลิสง นั่นเท่ากับว่าสุนัขจะไม่ได้กินเนื้อสัตว์เลย อันนี้ก็ถือว่าไม่ดีต่อร่างกายเขา

ส่วนแมว มีความแตกต่างจากสุนัขเล็กน้อย โดยทั่วไปแมวต้องได้รับสารอาหารที่สำคัญคือ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต 

แต่ต้องการโปรตีนและไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานสูงกว่าสุนัข ส่วนพลังงานจากแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต ต้องการบ้างเล็กน้อย 

ฉะนั้น ส่วนผสมที่ต้องดูเป็นอันดับแรกคือ ที่มาของโปรตีน ควรจะเป็นเนื้อไก่ แกะ หรือ ปลา เนื่องจากมีทั้งกรดไขมันและกรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างครบถ้วน 

(Photo : australiapetindustry.com)

แต่ไม่ใช่ว่า หมอบอกให้เน้นโปรตีน ก็จะไปหาอาหารโปรตีนสูงมาให้กินอย่างเดียวเลย 

เพราะการให้โปรตีนมากไป ร่างกายดูดซึมไม่หมด ก็จะไปตกค้างในกระเพาะปัสสาวะทำให้เป็นนิ่วตามมาได้ และอาหารโปรตีนสูง ความเค็มมักจะสูงไปด้วย สุดท้ายโรคไตอาจมาเยือน

หมาแมวไม่ยอมกินอาหารสำเร็จรูป หรือใครที่ไม่มีกำลังซื้อ จะทำยังไงดี 

พอเรารู้แล้วว่าอาหารที่ดีสำหรับสุนัขหรือแมวต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง 

การเลือกอาหารให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

สุนัขต้องการโปรตีน ไขมัน และกากใย ฉะนั้นอาหาร 1 มื้อ ก็ควรมีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก หรือไข่ด้วยก็ได้

เนื้อสัตว์ที่หาได้ง่ายที่สุดก็คือ อกไก่ ให้เอามาต้มใส่ผัก เช่น ผักกาด ฟักทอง หรือแครอท นอกจากได้ใยอาหาร ยังได้เบต้าแคโรทีน สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายสุนัขได้ด้วย 

(Photo : dogs.lovetoknow.com)

ส่วนแมว เขาต้องการโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ฉะนั้นใครให้กินข้าวกับปลาหรือไก่ ก็ไม่ผิด สามารถให้ต่อไปได้ แต่ดูปริมาณปลาหรือไก่ให้มากกว่าข้าว เพราะแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ ต้องการพลังงานจากโปรตีนมากกว่าคาร์โบไฮเดรต 

นอกจากนี้ ใครสามารถให้แมวกินผักผลไม้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากโปรตีน วิตามินก็เป็นสิ่งสำคัญกับแมว แต่อาจจะยากสักหน่อย เพราะแมวส่วนใหญ่จะเกลียดผัก ฉะนั้น ถ้าฝึกให้กินอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกได้จะดีกว่า   

ข้อควรระวัง ‘ห้ามปรุงรส ห้ามกระดูก ห้ามทอด’ 

สิ่งสำคัญ ที่ต้องระวังทั้งอาหารของหมาและแมว คือ ต้องไม่ปรุงรส 

ใครที่ชอบเหยาะซอสหรือน้ำปลาในอาหารให้หมาแมว ต้องเลิกเลยนะคะ 

เพราะความสามารถในการกรองของไตสุนัขนั้นน้อยกว่าคน 5 เท่า ส่วนแมวยิ่งน้อยกว่าสุนัขไปอีก 

ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะกินแล้วไม่อร่อย ให้กลัวโรคไตดีกว่าค่ะ เพราะบางรายที่อาการหนักมากๆ ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ฉะนั้นเจ้าของควรฝึกเขาตั้งแต่เด็ก ให้กินอาหารรสจืด 

วิธีการฝึก ในกรณีที่ให้เขากินรสจัดมาก่อน จนไม่ยอมกินอาหารจืด คือ ให้วางอาหารไว้ 30 นาที ถ้าไม่กินก็ยกอาหารไปเก็บ สักพักค่อยเอามาวางให้เขาใหม่อีก 30 นาที ถ้าไม่กินอีกก็ยกเก็บเหมือนเดิม ทำแบบนี้ซ้ำๆ พอเขาหิวจนทนไม่ไหวก็จะกินเอง แต่เจ้าของต้องห้ามใจอ่อนเด็ดขาด

(Photo : dress-tl.techinfus.com)

แต่สิ่งที่ไม่ควรเลยก็คือ ซื้อโครงไก่มาต้ม แล้วสับให้สุนัขกิน เพราะกระดูกอาจทำให้ลำไส้เป็นแผลได้

หรือที่หมอเห็นบ่อยๆ ก็คือการซื้อไก่ทอดมาจากตลาด ให้เขากินเลย เพราะง่ายดีและเขาก็ชอบด้วย

ไก่ทอดพวกนั้นมีปริมาณน้ำมันสูงเกินไป แถมเป็นน้ำมันที่สุนัขและแมวดูดซึมไม่ได้ พอสะสมมากๆ ก็จะทำให้เป็นโรคไตได้อีกเช่นกัน

สรุปง่ายๆ สำหรับวิธีเลือกอาหารหมาแมว 

อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติร่างกายเขาเป็นอย่างไร อะไรคือสารอาหารที่จำเป็นต่อเขา 

จากนั้นก็ดูแหล่งที่มาของอาหารว่าเป็นของดีมีคุณภาพไหม 

ของดีในที่นี้ไม่จำเป็นต้องแพง จะเนื้อไก่หรือเนื้อแกะ ล้วนให้สารอาหารไม่ต่างกัน 

ที่สำคัญคือต้องสะอาด อย่าใส่อะไรแปลกปลอมที่จะเป็นอันตรายกับสุนัขและแมว 

ให้เขากินอาหารที่ใกล้เคียงจากธรรมชาติแท้ๆ

เท่านี้ก็เป็นอาหารที่ดีแล้วค่ะ