‘ทิพย์รส’ เรื่องราวร้านไอศกรีมไทยรุ่นอากง ที่ครองใจคนย่านเตาปูนมากว่า 50 ปี

life

ในซอยเล็กๆ ย่านเตาปูน มีร้านไอศกรีมเก่าแก่ชื่อดัง

ร้านนี้ชื่อ ‘ทิพย์รส’ เปิดขายไอศกรีมโฮมเมดมาตั้งแต่ พ.ศ.2513

บ่ายคล้อย ฟ้าครึ้ม เราเดินทางมาถึงย่านเตาปูนเก่าแก่ และเดินเข้ามาในซอยเล็กๆ เพื่อตามหาร้านดังกล่าว พลันหันไปทางซ้ายก็พบรอยยิ้มอบอุ่นหน้าประตูที่เชื้อเชิญเราเข้าไปข้างใน

ทิพย์รส ไอศกรีม ไอติม

ระหว่างที่ละเลียดไอศกรีมคำแรกอยู่ในร้าน นาฬิกาแขวนเรือนไม้โบราณตีเวลาบ่ายสามโมงตรง มองไปรอบๆ เห็นโคมเต็งลั้งสีแดงแบบจีนห้อยรับลมอยู่บนเพดาน และภาพขาว-ดำของร้านไอศกรีมทิพย์รสเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นแรกแขวนเรียงรายบนผนัง

แม้รูปลักษณ์ของร้านจะปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น แต่บรรยากาศต่างๆ แสดงให้เห็นว่าผู้สืบทอดตั้งใจเก็บทุกความทรงจำและความฝันของ ‘อากง’ ไว้เสมอ

“โตมากับไอศกรีมทิพย์รส”

หลายคนพิมพ์ประโยคนี้บนเฟซบุ๊กของทางร้าน บางคนถึงกับแนบรูปอาม่าพร้อมเล่าว่าทานมาตั้งแต่สาวๆ จนตอนนี้ลูกหลานซื้อมาให้ทานก็ยังอร่อยไม่เคยเปลี่ยน

ในช่วงเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย สังคมมีคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ปะปนกัน ทิพย์รสทำอย่างไรให้เก่าและใหม่ผสมกลมกลืน

อะไรคือ ‘แก่นสำคัญ’ ที่ทำให้ร้านนี้อยู่เหนือกาลเวลา ขณะที่ปัจจุบันมีกระแสเข้ามามากมายในวงการขนมหวาน

บางทีการจะหาคำตอบนี้ เราอาจต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น…

เกือบ 50 ปีที่แล้ว ในช่วงก่อน พ.ศ.2513 เล็กน้อย คุณปลา-เสาวลักษณ์ โสภณธนวัฒน์ ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าว่า อากงของเธอชื่นชอบไอศกรีมมาก และทดลองทำด้วยตัวเองจนพบสูตรที่ใช่

เธอบอกว่า สูตรไอศกรีมของอากงคือความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม้แต่คนในครอบครัว เพราะทุกครั้งที่ทำไอศกรีม อากงจะเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูอยู่ในนั้นเพียงลำพัง

อากงทำได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ แต่ทุกคนรู้ว่าอากงรักไอศกรีม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้อากงเริ่มเปิดร้านขายไอศกรีมเล็กๆ ย่านเตาปูน

จากคำบอกเล่าของคนในครอบครัว คุณปลาบอกว่า ช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ไอศกรีมที่ร้านจะใส่ถุงแกงแล้วรัดยาง และบางครั้งคนติดใจถึงขนาดหอบกล่องหอบลังมาขนกลับไปทานที่บ้าน

จนกระทั่งทุกวันนี้ทิพย์รสมีหน้าร้านใหม่พร้อมบริการจัดส่งเสร็จสรรพ และยังคงกลิ่นอายอดีตไว้ในเมนูระดับตำนานทั้ง 5 เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

ทิพย์รส ไอศกรีม ไอติม

เอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่น คือ เนื้อไอศกรีมเข้มข้น ละมุนลิ้น จากวัตถุดิบคุณภาพที่ไม่เคยลดปริมาณลงแม้ต้นทุนจะสูงขึ้น ผลิตโดยไม่ปรุงแต่งหรือเปลี่ยนแปลงรสชาติของดั้งเดิม มีเครื่องเคียงที่คัดสรรเอง และใส่ใจผู้บริโภคโดยการไม่ใส่สารเคมีหรือสารกันเสียแม้แต่น้อย จึงไม่น่าแปลกใจที่ทิพย์รสน่ารักน่าเอ็นดูมาจนถึงทุกวันนี้

ว่ายทวนกระแสหลัก แต่ก็ต้องตามทันโลก

ศักราชหนึ่งผ่านไปไวยิ่งกว่าความเร็วแสง ในโลกยุคดิจิทัลที่ผู้คนมักตื่นตากับความแปลกใหม่ ร้านรวงต่างต้องดิ้นรนค้นหาวิธีเอาตัวรอด บ้างเพิ่มเมนูใหม่ล้นผนังจนไม่รู้จะเรียกว่าร้านอะไรกันแน่ ทว่าร้านทิพย์รสกลับหนักแน่นในจุดยืนว่าเราจะต้องเป็นร้านไอศกรีมเท่านั้น

แม้รสชาติจะอร่อยล้ำ ทำสดใหม่ ใส่ใจทุกขั้นตอนแค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็น

เรียงจากด้านซ้ายมือ คือ คุณก้อง คุณปลา (ทายาทร้านทิพย์รส) และคุณปุ่น 3 ใน 7 หุ้นส่วนร้านทิพย์รส

ด้วยความตั้งใจที่จะรักษามรดกล้ำค่านี้ต่อไปอย่างยั่งยืน คุณปลาซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วสำหรับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เธอจึงชวนเพื่อนๆ อีก 6 คนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาช่วยกันพลิกโฉมทิพย์รสเสียใหม่ ตั้งใจออกแบบร้านและเพิ่มเมนูที่สร้างสรรค์มากขึ้น แต่ยังคงคุณภาพไอศกรีมอย่างครบถ้วน

ความเชื่อมั่นในรสชาติดั้งเดิมที่ส่งต่อกันมา ทำให้เป้าหมายสูงสุดของเธอไม่ใช่ ‘การเปลี่ยน’ สิ่งที่ดีมากอยู่แล้ว

แต่เป็น ‘การพัฒนา’ ให้ดีมากขึ้น และเข้าถึงคนในวงกว้าง

ทิพย์รส พ.ศ.๒๕๖๒ ผสมอดีตกับอนาคตในรสชาติเดิมของความทรงจำ

กระแสจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้เสน่ห์ของขนมและอาหารไทยโบราณเลือนลงไปทุกวัน

หลายเมนู บางคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยทานมาก่อน หรือบางเมนู อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่ แทนการเลือกหันหลังให้วันเวลา ทิพย์รสได้ฉกฉวยโอกาสเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างยุคสมัย ผสมผสานความชอบระหว่างคนรุ่นเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน จนได้ข้อสรุปว่า ทิพย์รสใน พ.ศ.นี้ ‘ต้องมีเมนูใหม่’

ทิพย์รส ไอศกรีม ไอติม

ไอศกรีมจัดวางบนจานหรูหราแบบโมเดิร์น กับองค์ประกอบที่มากมายหลายเนื้อสัมผัส แต่เมื่อลองทานกลับทำให้หวนนึกถึงอาหารโบราณดั้งเดิม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ถูกออกแบบมาแล้วอย่างแยบยล

‘สืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรม’ นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ทิพย์รสรุ่นที่ 3 ตั้งใจ โดยออกแบบให้รสชาติอดีตและปัจจุบันซ้อนทับกันอย่างแนบเนียน

และที่สำคัญกว่านั้น คือการรักษารสชาติไอศกรีมที่อยู่ในความทรงจำไว้ให้เหมือนเดิม