เชียงใหม่สโลว์ไลฟ์ กรุงเทพฯ เร่งรีบวุ่นวาย คือจินตนาการเกี่ยวกับสองเมืองนี้ของใครหลายคน
แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่?
common พยายามหาคำตอบผ่านการสนทนากับคนสองกลุ่ม
กลุ่มแรก เคยใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ก่อนย้ายขึ้นไปเชียงใหม่
กลุ่มที่สอง เคยอยู่เชียงใหม่ก่อนพาตัวเองไปผจญภัยในเมืองหลวง
โดยหัวข้อที่เราพูดคุยกันวนเวียนใน 3 ประเด็นใหญ่ที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิต นั่นคือชีวิตในแต่ละวัน การพักผ่อน และความสุข
เพื่อหาคำตอบว่า ระยะทาง 687 กิโลเมตรระหว่างกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ นอกจากจะส่งผลต่อสภาพดินฟ้าอากาศและภูมิประเทศแล้ว
จะมีผลต่อวิถีชีวิตของเรามากน้อยแค่ไหน?
BKK-CNX
จากกรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่
อ.ดร. วิทยา พานิชล้อเจริญ
อาจารย์ คณะการสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : มากกว่า 40 ปี | เชียงใหม่ : 5 ปี
“มันไม่มีใครบ้าเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบผมหรอก อยู่ๆ อายุ 50 แล้วเปลี่ยนที่ทำงานไปอีกจังหวัดหนึ่งซึ่งไกลมาก ไม่มีเพื่อน ไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเลย ตอนที่ผมตัดสินใจเปลี่ยนรู้สึกว่าต้องท้าทายตัวเอง ออกจากคอมฟอร์ทโซนบ้าง”
ชีวิตในแต่ละวัน
สมัยตอนทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ใช้รถขนส่งสาธารณะ แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งได้ตัดสินใจซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานไปเลย ใกล้กว่าตอนนี้ที่มาอยู่เชียงใหม่อีก ถ้าให้เปรียบเทียบคนกรุงเทพฯ จะมีสกิลการเดินมากกว่าคนเชียงใหม่เหมือนเป็นวัฒนธรรมที่ต้องเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งคนเชียงใหม่จะไม่มีทักษะตรงนั้นเพราะระยะทางใกล้ๆ ก็ต้องขี่รถจักรยานยนต์แล้ว การเดินทางแต่ละวันที่เชียงใหม่จะใช้บริการ Grab หรือไม่ก็จะใช้เดินไปยังสถานที่ต่างๆ
เวลาพักผ่อน
เวลาพักผ่อนคือการหาอาหารที่เป็นตัวแทนรสชาติของกรุงเทพฯ ตามหาอาหารที่เป็นความเคยชิน เพราะอาจารย์เองก็ไม่ได้ไปวิ่งออกกำลังกาย และเชียงใหม่ก็ไม่ได้มีการจัดคอนเสิร์ตแบบในกรุงเทพฯ
ความสุข
จากกรุงเทพฯ ที่อยู่กับครอบครัว อยู่กับบ้านมาตั้งแต่เด็กๆ เข้าบ้านไปก็เจอพ่อ แม่ ความสุขของการมาอยู่เชียงใหม่ก็คือการได้มาอยู่กับตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งที่กรุงเทพฯ ให้ไม่ได้เหมือนกับการมีพื้นที่ให้ตัวเองมากขึ้น
เบส-อนิรุทร์ เอื้อวิทยา
ฟรีแล๊นซ์
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 3 ปีครึ่ง | เชียงใหม่ : 13 ปี
การใช้ชีวิตในแต่ละวัน
การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหมือนปกติคนทั่วไป แต่ต้องจัดตารางงานไม่ให้คิวชนกันเพราะบางทีรับงาน 3 – 4 งานพร้อมกัน ก็ต้องมาดูว่าแต่ละงานใช้เวลานานขนาดไหน บางครั้งก็ต้องเอางานออกไปทำนอกสถานที่ด้วย แตกต่างจากกรุงเทพฯ ตรงที่ว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ จะเช่าคอนโดอยู่หลังออฟฟิศ สามารถเดินไปทำงานได้เลย แต่พอมาอยู่เชียงใหม่เป็นฟรีแล๊นซ์ก็มีอิสระในการใช้เวลามากขึ้น สามารถเลือกเวลาทำงานได้ เลือกสถานที่ทำงานได้ การที่อยู่เชียงใหม่ทำให้ได้เจอคนรู้จักง่ายขึ้น และอีกอย่างคือการเป็นฟรีแล๊นซ์ที่ไม่มีเงินเดือนมารับประกันในทุกเดือนทำให้ทุกวันต้องออกไปแลกเปลี่ยนความเคลื่อนไหวของคนในหลายๆ แวดวงเพื่อนำไปต่อยอดกับงานเขียน
เวลาพักผ่อน
จริงๆ เชียงใหม่ก็ไม่ต่างจากกรุงเทพหรอกแค่ไม่มีห้างอย่างไอคอนสยาม แต่เชียงใหม่มีแหล่งผลิตสินค้าที่ส่งไปไอคอนสยาม เวลาเครียดไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่เป็นการมานั่งคุยกับเพื่อน พี่ น้องมากกว่า แค่ได้มานั่งคุยกันก็เรียกว่าการพักผ่อนแล้ว การแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ตอนไม่มีข้าวกิน ไม่มีที่นอน ก็มาเจอกัน เกื้อหนุนกันและกันให้ผ่านไปได้
ความสุข
การที่ออกมาเป็นฟรีแล๊นซ์ที่เชียงใหม่เหมือนเป็นสถานการณ์บังคับที่ทำให้ต้องมาทำแบบนี้ แต่การได้เจอเพื่อน และสังคมที่เชียงใหม่ การได้เขียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจนี่แหละคือความสุข
เอิร์ท-มนัสวี บางเพลิง
บาริสต้าร้าน Akha Ama
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 1 ปี | เชียงใหม่ : 5 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ในแต่ละวันคือการตื่นนอนตอน 6 โมงครึ่ง มาทำงานในเวลา 7 โมง ทำจนร้านปิดเวลา 6 โมงครึ่งแล้วก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ซึ่งบางครั้งก็ไปโรงคั่วกาแฟ เพราะมีกาแฟสายพันธุ์กาแฟตัวใหม่มาให้ทดลอง แต่ตอนอยู่กรุงเทพชีวิตส่วนใหญ่คือการเดินทาง ช่วงฝึกงานต้องเดินทางจากสะพานควายไปทองหล่อทุกวัน หลังเลิกงานแทนที่จะมีความสุขแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องโหน BTS ซึ่งมันเหนื่อยมากๆ เสาร์-อาทิตย์ที่ได้พัก ก็จะไม่ออกไปไหน อยากนอนอยู่ห้องเฉยๆ ไม่อยากเจอใคร
เวลาพักผ่อน
การดูภาพยนตร์ หรือ การอ่านหนังสือคือส่วนหนึ่งของการพักผ่อน ถ้าช่วงนี้ก็เป็นการไปโรงคั่วกาแฟ เพราะพึ่งทำโรงคั่วกันใหม่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง หรือบางครั้งก็ไป Woods Bar ร้านเหล้านั่งชิลล์บนชั้นดาดฟ้าชั้น 12 ของโรงแรม Prestige ที่มีบรรยากาศดีๆ มองเห็นดอยสุเทพได้ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในร้านด้วย
ความสุข
การที่ได้ได้ทำในสิ่งที่ชอบสิ่งนั้นนั่นแหละที่เรียกว่าการพักผ่อน นั่นแหละที่เป็นความสุข
โลเคิล-ปิยะ ลาดสา
ที่ปรึกษาการเงินการลงทุนส่วนบุคคล FChFP
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : ไปๆ มาๆ | เชียงใหม่ : 6 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ความคุ้นชินกับไลฟ์สไลต์ที่ไม่ต้องแข่งขันกันมากเหมือนในกรุงเทพฯ ความไม่ต้องเร่งรีบ ซึ่งตอนที่มาอยู่กรุงเทพฯ ระยะเวลาหนึ่งทำให้รู้สึกว่าไม่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ กรุงเทพฯ เป็นเหมือนสถานที่ทำงาน ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะ ไม่ใช่ที่ที่ตัวเองอยู่แล้วมีความสุข
เวลาพักผ่อน
เชียงใหม่ทุกที่คือที่พักผ่อน ไปอ่านหนังสือตามร้านกาแฟ ส่วนมากก็ชอบไปร้านกาแฟแถวสะเมิง หรือไปวัด
ความสุข
การใช้ชีวิตในเชียงใหม่ 1 วันให้ความรู้สึกทั้งทำงานก็ได้และพักผ่อนไปด้วยกัน
นิ่ม-นิธิพร จันทะวัง
Front of house
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 1 สัปดาห์/ครั้ง | เชียงใหม่ : 4 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
เชียงใหม่สะดวกกว่าเพราะมีรถส่วนตัว แต่กรุงเทพแค่ก้าวออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว เชียงใหม่เติมน้ำมัน 50 บาทใช้ได้เป็นอาทิตย์
เวลาพักผ่อน
ไปร้านกาแฟ ถ่ายรูป
ความสุข
การใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบ เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย
มิกกี้-จิรวัฒน์ วัฒนชัย
บาริสต้า ร้าน Asama Café
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 3 เดือน | เชียงใหม่ : 23 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
เชียงใหม่ก็เป็นบ้านแหละ ถึงแม้จะมีบ้านที่กรุงเทพฯ ด้วยก็ตามแต่ไม่ได้สนิทใจด้วย เชียงใหม่มีรถทุกรถ ไม่ต้องไปพึ่งขนส่งเหมือนขนส่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะ
เวลาพักผ่อน
ชอบไปร้านกาแฟ หาร้านใหม่ๆ ลองกินดูเพราะชอบกิน หรือถ้าเบื่อจริงๆ ก็ดอยสักดอย
ความสุข
การได้ทำกิจกรรมที่เราชอบ ตอนฝึกงานกรุงเทพฯ ไม่มีสถานที่ให้ซ้อมบาส ไม่มีบ้านให้กลับไปเจอพ่อแม่ เชียงใหม่รถไม่ติดเท่า ค่าครองชีพก็ถูกกว่ากรุงเทพฯ
แก๊ม-ปารย์รวี ถนอมศักดิ์ชัย
ทันตแพทย์
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 20 ปี | เชียงใหม่ : 7 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
อยู่เชียงใหม่ไม่มีรถขนส่งสาธารณะต้องใช้รถส่วนตัว แต่ไปไหนมาไหนง่าย สถานที่แต่ละที่ไม่ไกลกัน ไปไหนมาไหนก็ไปกับเพื่อนหรือใช้แกรป
เวลาพักผ่อน
ไปนั่งร้านกาแฟ ไปหาร้านข้าวใหม่ๆ กิน ไปนั่งคาเฟ่ หรือไปฮอด แม่ริม ไปพักผ่อน
ความสุข
เพื่อนและของกินดีมาก แตกต่างจากกรุงเทพที่จะไปไหนต้องเผื่อเวลามากๆ อยู่เชียงใหม่เรียน 8 โมง ออกจากบ้าน 7 โมงครึ่งก็มาเรียนทัน ถ้าจะให้ดีอยากให้ครอบครัวมาอยู่เชียงใหม่
กิ๊บ-พัชรี วังคำคน
Co-Producer HIP EVENT Chiang Mai
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
กรุงเทพฯ : 2 เดือน | เชียงใหม่ : 23 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
กรุงเทพฯ ต้องเผื่อเวลาค่อนข้างมากในการเดินทางไปแต่ละที่ ซึ่งเชียงใหม่สามารถไปได้หลายที่ กรุงเทพฯ 1 วัน ไป1-2 ที่ก็เหนื่อยหมดพลัง แค่ก้าวออกจากหอก็เสียเงินแล้ว เชียงใหม่มีจักรยานยนต์ส่วนตัวสามารถไปได้หลายที่และเสียเงินน้อยกว่า
เวลาพักผ่อน
เบื่อๆ อยากเจอคนก็ไปเดินตลาดไปอีเว้นท์ ไปห้าง ถ้าอยากพักเงียบๆ ก็ไปเดินป่า ไปน้ำตกใกล้ๆ
ความสุข
เป็นความสบายใจมากกว่า ถึงแม้จะทำงานประจำแต่สามารถหาอย่างอื่นที่เราอยากทำได้ อยู่กรุงเทพฯ แค่กลับถึงที่พักเสาร์-อาทิตย์ก็อยากนอน อยากอยู่แค่ห้อง
CNX-BKK
จากเชียงใหม่ ไปกรุงเทพฯ
ดร.วิโรจน์ สุทธิสีมา
อาจารย์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 18 ปี | กรุงเทพฯ : 19 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ชีวิตในเชียงใหม่จะใช้เวลาการเดินทางน้อยกว่า เพราะเป็นเหมือนชุมชนเล็กๆ อยู่ใกล้กัน เชียงใหม่มีอัตราส่วนพื้นที่ต่อคนน้อยกว่า ทำให้มีพื้นที่มากกว่าจึงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเท่ากับการอยู่กรุงเทพฯ การย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ต้องปรับตัวเยอะมาก เพราะเวลาของเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ไม่เท่ากัน เชียงใหม่จะช้ากว่า 1 ขั้น บางครั้งมีความสุขกับการนั่งมองภูเขาแล้วถอนหายใจทิ้งไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าช่วงเวลานั้นยาวนาน แตกต่างจากกรุงเทพฯ ที่แปบเดียวก็หมดวันแล้ว ไม่มีเวลาให้นั่งมองภูเขา ไม่มีภูเขาให้มองด้วย
เวลาพักผ่อน
การหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ถามว่ากรุงเทพฯ มีความทุกข์ไหมมันมีความทุกข์มากกว่าเชียงใหม่ เวลาพักผ่อนกับการทำกิจกรรมต่างๆ ของเชียงใหม่จะเป็นเนื้อเดียวกันแตกต่างจากการใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ ที่เมื่อมีเวลาพักผ่อนจะโหยหากันมาก แต่ก็สามารถเปรียบเทียบได้กับภาพยนตร์เรื่อง The Shawshank masRedemtion (1994) ที่ตัวละครโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต แล้วต้องอยู่ด้วยความทุกข์เขาจึงหาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ทำให้มีความสุข อย่างการสะสมหินแล้วนำมาขัดถูเป็นตัวหมากฮ๊อต หมากรุก เพราะฉะนั้นคนกรุงเทพฯ จะอินมากเมื่อพูดถึงความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถหาได้ เช่น ได้กินขนมปังยี่ห้อที่อยากกินมากๆ หรือภาพยนตร์ที่ชอบมากๆ เข้าโรงภาพยนตร์ ถ้าถามว่าอยู่กรุงเทพฯ เวลาพักผ่อนคืออะไรคำตอบก็คือการนอน แปลว่าต้องการพื้นที่ส่วนตัวในห้องและใช้เวลาตรงนั้นให้คุ้มค่า
ความสุข
คนกรุงเทพฯ จะบอกคนต่างจังหวัดว่ายิ่งเดินทางน้อยเท่าไหร่ความสุขของคุณก็จะยิ่งมากขึ้น ความทุกข์หนึ่งของคนกรุงเทพฯ คือการต้องย้ายตัวเองไปที่ทำงาน ต้องเบียดกับคนเยอะๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนยอมใช้เงินเพื่อซื้อเวลาให้ไปถึงที่หมายได้เร็วที่สุด
หมง-ณัฐชนน โกสีย์ไกรนิรมล
Content Writer Uppercuz Creative
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 4 ปี | กรุงเทพฯ : 20 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
การเดินทางไปทำงานแต่ละวันคือการนั่ง MRT ไป เลือกที่จะจ่ายเงินมากขึ้นในการเดินทางเพื่อที่จะได้มีเวลาในการทำงานมากขึ้น เข้าใจคำว่าใช้เงินซื้อเวลามากขึ้นก็ตอนมาอยู่กรุงเทพฯ นี่แหละ เพราะบางอย่างก็ไม่ควรทำเองซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสบางอย่างไป
เวลาพักผ่อน
ส่วนใหญ่เป็นการไปเดินเล่นจตุจักรไปดูปลากัด ไปดูต้นไม้ ถ้ามีเวลาว่างมากหน่อยก็ออกไปถ่ายรูป รับงานถ่ายรูปเพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง สะสมผลงานว่าสามารถทำอันนี้ได้ดี หรือการดูสารคดีเพื่อดูแนวทางการเล่าเรื่องว่าเขาทำยังไง บางทีก็พาแฟนไปเที่ยว
ความสุข
ตอนเช้าจะเขียนสิ่งที่ต้องทำก่อนว่ามีงานอะไรบ้าง แต่ละงานต้องส่งเวลาไหน ถ้าสามารถจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ก็ถือว่าเป็นความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่ง ความสุขไม่จำเป็นต้องชิ้นใหญ่ บางครั้งการออกไปทำงานก็ออกเช้าขึ้นแล้วพกกล้องฟิล์มไปด้วย เพื่อที่จะถ่ายรูประหว่างทางของการไปทำงาน หาความสุขจากสิ่งรอบๆ ตัว
เกมส์กด-อุดมศักดิ์ ทองอินทร์
เอเจนซี่โฆษณา
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 4 ปี | กรุงเทพฯ : 1 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
การเดินทางของกรุงเทพฯ และเชียงใหม่แตกต่างกันมาก 10 นาทีของเชียงใหม่ไปได้ 4-5 กิโลเมตร แต่กรุงเทพฯ ไปได้แค่ 2 กิโลเมตร ข้อดีของที่ทำงานใกล้หอพักคือใช้เวลาเดินทางแค่ 15 นาทีถ้ารถไม่ติด ชีวิตแต่ละวันก็คือตื่น ไปทำงาน กลับหอ นอน
เวลาพักผ่อน
ไปชลบุรีใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง ไม่ค่อยเที่ยวในกรุงเทพฯ เท่าไหร่ ถ้าไปห้างในกรุงเทพฯ ก็ไปห้างที่ไกลๆ หน่อย เพราะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ จะให้ไปเยาวราชหรออย่าหวังเลย
ความสุข
ส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนังสามารถเข้าถึงได้มากกว่าเชียงใหม่ เพราะบางเรื่องก็เข้าแค่ที่กรุงเทพฯ
เม-ชาคริยา ดอนปิ่นไพร
ทันตแพทย์
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 6 ปี | กรุงเทพฯ : 1 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
การเดินทางในแต่ละวันใช้เวลามากกว่าเชียงใหม่ เหมือนการใช้เงินเพื่อซื้อเวลา ราคาอาหารก็แพงกว่า ส่วนมากก็กินข้าวในโรงอาหารคณะ แต่กรุงเทพฯ ก็ทำให้ตัวเองเป็นคนเร่งรีบขึ้น ซึ่งตอนแรกก็เหนื่อยที่จะต้องปรับตัวแต่ตอนนี้ชินแล้ว
เวลาพักผ่อน
เวลาว่างก็นอนอยู่หอเฉยๆ เพราะเมื่อจะไปแต่ละที่แล้วการเดินทางลำบากเลยไม่ไปดีกว่า ซึ่งต่างจากเชียงใหม่ที่ชอบไปนั่งตามร้านกาแฟ
ความสุข
การอยู่กรุงเทพฯ ความสุขคือการได้อยู่ใกล้บ้าน เพราะบ้านอยู่แค่นครปฐม การกลับบ้านเหมือนการได้ชาร์ตแบตร่างกายอย่างหนึ่ง
บิวล์-พิมลพรรณ ทองอินต๊ะ
บรรณาธิการ Editor
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 5 ปี | กรุงเทพฯ : 1 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ทำงานอยู่ที่สยามสแควร์ เข้างาน 9 โมง ตื่น 7 โมง 8 โมงออกเดินทางการเดิงทางก็จะนั่งวินไปสถานีรถไฟใต้ดิน ขึ้น MRT แล้วต่อ BTS ไปสยาม ใช้ชีวิตพนักงานออฟฟิศตามปกติ เลิกงานก็เดินทางกลับ กว่าจะถึงห้องจริงๆ บางทีถ้าแวะไปหาอะไรกิน ก็ประมาณทุ่มกว่าถึงสองทุ่ม วนลูปไปอย่างนี้ทุกๆ วัน ระยะทางมันไม่ไกล การเดินทางด้วยรถไฟมันก็เร็วมากรวมกัน 20 นาทีเอง แต่ที่มันนานเพราะคนเยอะ รอคิว บรรยากาศของการใช้ชีวิตในเชียงใหม่มันสบายๆ ชิวกว่า เมืองมันกว้างพอให้คนมีพื้นที่ของตัวเอง ในขณะที่กรุงเทพฯ คนมันเยอะ เลยต้องแบ่งๆ กันใช้พื้นที่ของเมืองในทุกๆ มุม ระยะทางในกรุงเทพฯ จริงๆ มันไม่ได้ไกลกันมาก แต่ใช้เวลาในการเดินไปถึงนานมาก อยากเร็วก็ต้องเดิน
เวลาพักผ่อน
ถ้าว่างไม่มาก ว่างไม่ทั้งวันก็คงพักผ่อนอยู่ห้อง ถ้ามีเวลาว่างแบบเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ก็อาจจะออกไปข้างนอกไปหาอะไรทำ ไปที่ที่อยากไป เพราะคิดว่าตัวเองรู้จักกรุงเทพน้อยมาก อาจจะเคยรู้เคยเห็นแค่ในบางมุม
การมาอยู่ สิ่งที่หนึ่งที่กรุงเทพฯ ทำให้รู้สึกสบายใจ คือวันๆ หนึ่งเจอคนเยอะแยะมากมาย แต่เหมือนอยู่กับตัวเองตลอดเวลาเลย ทำให้เรารู้สีกถึงการ Concentrate กับตัวเองบ่อยกว่าเวลาอยู่อื่นๆ มันแปลกดีตรงนี้ สิ่งที่เราโหยหากลับเป็นการกลับมาอยู่กับตัวเอง อยู่เฉยๆ ในห้อง ไม่รู้จะนิยามคำว่าเรียบง่ายยังไง ในเมื่อกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่วุ่นวาย แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบตรงที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีกว่าเชียงใหม่ ชีวิตในกรุงเทพฯ สอนให้เรารู้ซึ้งถึงความเรียบง่ายมากกว่า คือแค่ทุกอย่างมันธรรมดา เรียบง่ายก็ดีมากแล้ว ในเมืองวุ่นวายแบบนี้ อยู่กรุงเทพฯ จะคิดถึงความชิวๆ สบายๆ ของเชียงใหม่มาก แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่ก็คงเหงาๆ คิดถึงอะไรๆ ศิวิไลซ์ที่มีในกรุงเทพฯ
ความสุข
จริงๆ มันไม่ยากเลย เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีทุกอย่างที่ควรมี แต่ข้อจำกัดมันเยอะมากมันก็เลยแปลกดี ที่แบบวันไหนเดินทาง MRT คนน้อย ก็มีความสุขแล้ว หรือแบบวันนี้อยากกินชานมไข่มุกร้านนี้แล้วคิวไม่ยาวก็ดีใจแล้ว มันเหมือนมันทุกข์ง่ายแต่มันก็สุขง่ายเหมือนกัน
การหาความสุขในกรุงเทพฯ คือการที่ตัวเองมีเวลาได้ทำสิ่งที่อยากทำ อ่านหนังสือ ดูหนังอยู่ห้อง หรือได้ไปที่ที่อยากไป เช่น ร้านหนังสืออิสระเล็กๆ ไกลๆ ร้านคาเฟ่แมว ไปดูงานศิลปะ ไปงานอีเวนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้น และอีกอย่างคือการตามหาร้านอาหารที่ถูกใจ ถูกปากไปเรื่อยๆ มันทำให้เรารู้ว่าเราทำงานเหนื่อยๆ มาเพื่อกินของอร่อยๆ
โครเอเชีย-จิรเมธ วงศ์ใหญ่
Creative EFM94 เอไทม์มีเดีย บริษัท GMM GRAMMY จำกัด มหาชน
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 4 ปี | กรุงเทพฯ : 1 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
การเดินทางมาอยู่กรุงเทพฯ ต้องวางแผนกว่าเชียงใหม่มาก การเดินทางส่วนใหญ่ก็เป็นขนส่งมวลชนที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น ต้องนั่ง MRT แล้วต่อวินมอเตอร์ไซด์ซึ่งต้องเผื่อเวลาเยอะมาก ใช้เวลาเดินทางในแต่ละวันอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
เวลาพักผ่อน
เลือกได้ก็จะไม่ไปอยากอยู่หอมากกว่าเพราะออกไปแต่ละครั้งมีทั้งค่าเดินทางค่ากิน อยู่หอหาอะไรดู อ่านหนังสือ ซึ่งถ้าอยู่เชียงใหม่ก็จะออกไปที่อื่นๆ
ความสุข
โอกาสของกรุงเทพฯ ในด้านการทำงานมากกว่า มีหลากหลายงานให้เลือกทำ
ปาย-เจตปรียา หึกขุนทด
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 4 ปี | กรุงเทพฯ : 18 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ตอนอยู่เชียงใหม่มหาวิทยาลัยกับหอใกล้กันใช้เวลาน้อยกว่ากรุงเทพฯ อยู่เชียงใหม่ใช้เวลาเตรียมตัวก่อนออกหอแค่ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทำงาน 8 โมงเช้าแต่ต้องตื่นตี 4 ครึ่งเนื่องจากอาชีพที่ทำต้องใช้ภาพลักษณ์จึงต้องมาแต่งหน้าทำผม 1 ชั่วโมง ออกช้า 5 นาทีเท่ากับรถติด รู้สึกว่าต้องเผื่อเวลา 4 ชั่วโมงเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ จากบ้านไปที่ทำงานไม่สามารถเดินทางด้วยขนส่งมวลชนต่อเดียวได้ และตี 5 รถไฟฟ้าก็ยังไม่เปิด หนทางเดียวคือแท๊กซี่ซึ่งมีราคาประมาณ 350 บาท
เวลาพักผ่อน
ไม่ค่อยได้ออกไปไหนอยู่บ้านอ่านหนังสือ ถ้าเป็นเชียงใหม่ก็จะหาที่เที่ยวกับเพื่อนไปดอย กรุงเทพฯ ก็มีแค่ห้างไปดูหนัง
ความสุข
ครอบครัวเป็นคนกรุงเทพฯ มาทำงานกรุงเทพฯ แต่ได้เจอน้อยพอๆ กับตอนอยู่เชียงใหม่เลย แต่ก็ได้กินข้าวบ้านบ่อยขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่าเครื่องบินเหมือนตอนอยู่เชียงใหม่
หม่อน-ศิวัช ตริตรอง
ช่างภาพ
ระยะเวลาการใช้ชีวิต
เชียงใหม่ : 23 ปี | กรุงเทพฯ : 2 ปี
ชีวิตในแต่ละวัน
ตื่น 7 โมงเช้า ทำงานถึง 3-4โมง หลังเลิกงานก็นั่งเล่นอยู่ออฟฟิศ ชีวิตเหมือนแบ่งเป็น 2 พาร์ท ตอนทำงานแบบหนึ่งถ้าเข้าไปในเมืองก็อีกแบบหนึ่ง กรุงเทพฯ ถ้าอยู่ในเมืองก็ใช้ขนส่งสาธารณะได้ แต่เสียค่าใช้จ่ายแพง แต่บ้านใกล้ที่ทำงานสามารถเดินไปได้แต่ถ้าจะเข้าไปในเมืองก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ถ้านั่งรถเมล์ก็แค่ 20 บาทแต่ใช้เวลานาน กรุงเทพฯ ต้องเผื่อเวลาเยอะ
เวลาพักผ่อน
เชียงใหม่ก็แฮงค์เอ้าท์แต่ถ้ากรุงเทพฯ ก็อยู่บ้านนอนไม่อยากออกไปไหน บ้านไกลเมืองด้วยเลยไม่อยากออกไปไหน หรือไม่ก็ไปนั่งร้านกาแฟหรือห้าง ส่วนเที่ยวกลางคืนก็ไม่ได้ไปเพราะเดินทางมันลำบาก
ความสุข
คนเยอะได้เจอคนหลากหลายเป็นเมืองหลวงก็มีอะไรเยอะกว่า มากกว่าเชียงใหม่
เชียงใหม่สโลว์ไลฟ์ กรุงเทพฯ เร่งรีบวุ่นวาย หวังว่าถึงบรรทัดนี้หลายคนคงจะได้คำตอบ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือจินตนาการ.
*สนับสนุนการเดินทางโดยสายการบินไทยแอร์เอเชียบินตรงสู่เชียงใหม่ทุกวัน ตรวจสอบเที่ยวบินและจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ www.airasia.com