w©rld

เมื่อองค์การนามัยโลกประกาศให้ COVID-19 มีสถานะเป็น ‘Pandemic’ หรือ โรคระบาดระดับร้ายแรงที่สุดที่กำลังเป็นวิกฤติระดับนานาชาติ

ทำให้ประชาชนต้องระแวดระวังและป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสอย่างเร่งด่วน ส่วนทีมแพทย์ นักวิจัย กระทรวงต่างๆ ฯลฯ ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด

common ขอชวนมาหาคำตอบว่า ‘อะไรคือทักษะที่เราจำเป็นต้องมี’ ในวันที่ไวรัสกำลังจะกลืนกินโลกทั้งใบ ผ่านบอร์ดเกม Pandemic ที่ยกวิกฤติโรคระบาดมาไว้บนกระดาน และท้าให้พวกเราช่วยกันหยุดไวรัสให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป 

 

Pandemic (Photo : https://www.zmangames.com/en/games/pandemic)

Pandemic : เกมโรคระบาด

Matt Leacock อดีตนักพัฒนาโซเชียลมีเดียของบริษัท AOL และ Yahoo ผู้ผันตัวมาเป็นนักออกแบบบอร์ดเกม หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเขา คือ Pandemic หรือเกมโรคระบาด ที่ค่าย Z-Man Games ปล่อยออกมาให้เล่นในปี 2008 

Pandemic เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องช่วยกันต่อสู้เพื่อหยุดยั้งไวรัสก่อนที่มันจะระบาดไปทั่วโลก Matt ออกแบบให้เกมเต็มด้วยความท้าทาย และกระตุ้นต่อมความอยากเอาชนะเชื้อโรคตัวร้ายของผู้เล่น ทำให้ภาคแรกที่ปล่อยออกมานั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และมีภาคอื่นๆ ตามออกมาอีกมากมายจนกลายเป็นเกมซีรี่ส์

แต่ละภาคยังคงคอนเซ็ปต์โรคระบาดเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือลูกเล่นสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น  Pandemic : Iberia ที่เราต้องต่อสู้กับเชื้อโรคในยุคที่ปราศจากยาหรือขนส่งที่ทันสมัยหรือ Pandemic Contagion ที่เปลี่ยนให้เรากลายเป็นเชื้อไวรัสเสียเอง

Pandemic : Iberia (Photo : https://www.zmangames.com/en/games/pandemic)

 

Pandemic Contagion (Photo : https://www.zmangames.com/en/games/pandemic)

 

สังเวียนของ ‘มนุษย์ vs เชื้อไวรัส’

เกมนี้สามารถเล่นได้ 1-4 คน ใช้เวลาเล่นแต่ละรอบราว 45 นาที โดยที่แต่ละคนจะได้สวมบทบาทแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น นักวางแผนฉุกเฉิน (contingency planner) ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการ (peration expert) ผู้จัดการกำลังพล (dispatcher) ผู้เชี่ยวชาญควบคุมโรคระบาด (quarantine specialist) นักวิจัย (researcher) แพทย์สนาม (medic) และนักวิทยาศาสตร์ (scientist) ซึ่งแต่ละอาชีพนั้นมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว จุดเด่นและจุดอ่อนของตัวเอง

ตัวละครในเกม (Photo : https://thewanderingpawn.com/product/pandemic)

ภารกิจของผู้เล่นแต่ละคนคือต้องพยายามไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดไปยังเมืองต่างๆ ได้ โดยทุกคนจะต้องร่วมมือกันคิดค้นยารักษาโรคให้ได้ 4 ชนิด ถ้าทำได้ จะถือว่าชนะเกม แต่หากโรคระบาดนั้นลุกลามไปเรื่อยๆ จนต้านทานไม่ไหว ผู้เล่นหายารักษาไม่ทัน เกมก็จะจบลงทันที 

(Photo : https://thewanderingpawn.com/product/pandemic)

แม้วิธีการเดินเกมจะไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องอาศัยการวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบและการทำงานเป็นทีม ในแต่ละตานั้นผู้เล่นสามารถเลือกทำแอคชั่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเดินทางข้ามเมือง สร้างสถานีวิจัย รักษาโรค ฯลฯ ซึ่งการกระทำของแต่ละคนย่อมส่งผลกับทิศทางของเกม ทุกคนจึงจำเป็นต้องสื่อสารกันตลอดเวลาเพื่อให้สามารถเอาชนะเชื้อโรคได้

ความสนุกของบอร์ดเกมอื่นๆ อาจเป็นการเอาชนะเพื่อนๆ แต่ความสนุกของ Pandemic คือ ‘การทำงานร่วมกันแบบทีมเวิร์ก’

 

Pandemic บอกอะไรเรา 

Pandemic เป็นเกมที่ฝึกให้เราใช้ทักษะ ‘วางแผน’ และ ‘สื่อสาร’ ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากมองเกมกระดานเป็นโลกของเราในตอนนี้แล้ว นั่นถือเป็นทักษะจำเป็นที่เราควรจะต้องมีเพื่อให้เราผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้เป็นอย่างดี 

เมื่อเกมจบลง ไม่ว่าผู้เล่นค้นพบยาทุกชนิด หรือไวรัสจะระบาดจนต้านทานไม่ไหว สิ่งที่แน่นอนคือไม่ว่าจะรอดหรือจะร่วง พวกเขาก็ต้องเผชิญสิ่งเหล่านั้นไปด้วยกัน เมื่อเราต้องสู้กับสิ่งเดียวกัน คือ ‘ไวรัส’ นั่นหมายความว่าเราทุกคนกำลังอยู่ในทีมเดียวกัน 

ในทางตรงกันข้าม หากผู้เล่นแต่ละคนเข้าใจในกฏกติกาไม่ตรงกัน มีความเห็นไม่ลงรอยกัน หรือไม่ร่วมมือและเชื่อใจกัน อาจทำให้การควบคุมโรคไม่อยู่ และระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกมส์จบลงอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าพ่ายแพ้กันทั้งกระดาน ดังนั้นเกมส์นี้จึงไม่เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มักมีความเห็นไม่ตรงกันหรือคิดต่างกัน

แต่หากเราต้องการแผนรับมือที่ดี เราต้องสื่อสาร ทำความเข้าใจ ใช้ตรรกะความคิดไปในทิศทางเดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เกิดทีมเวิร์ก เพราะการจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไป ไม่ได้หมายถึงการทำงานหนักของคนรักษาโรคอย่างทีมแพทย์เพียงอย่างเดียว

แต่ยังหมายถึงการให้ความร่วมมือป้องกันของทั้งรัฐและประชาชนทุกคนอีกด้วย.

  

FACT BOX

อ้างอิง