ทุกวันนี้ จำนวน ‘สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์’ บนโลกออนไลน์ มีมากกว่า 400,000 ตัว
หากเปรียบเทียบเป็นคน ตัวเลขนี้เท่ากับจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต
Quan Inc บริษัทผู้ผลิตสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์สุดฮิตสัญชาติญี่ปุ่น ต่อสู้ในสมรภูมิอันดุเดือดนี้ โดยมียอดดาวน์โหลดสูงสุดระดับ 2,600 ล้านครั้งทั่วโลก
หมีขาวสุดกวน เบ็ตตะคุมะ (Betakkuma) และลูกเจี๊ยบสุดป่วน ปิโยมารุ (Piyomaru) ถือเป็นพระเอกและนางเอกตัวสำคัญที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่
แต่ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ โดยเฉพาะในยุคที่การขายสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์กลายเป็นธุรกิจใหญ่
“ดาต้า และ การคิดต่าง คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจนี้”
ชินโตะ โอคุกาว่า กรรมการผู้จัดการ Quan (Thailand) Co., Ltd. สรุปถึงประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในธุรกิจนี้มานานหลายปี
โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มียอดดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์พุ่งสูงขึ้นเป็นอับดับหนึ่งของโลก
นับหนึ่งถึงเส้นทางสู่ ‘สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์’
เมื่อ ‘สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์’ กลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สร้างสรรค์ได้ แม้ไร้ทักษะการวาดรูป ธุรกิจนี้จึงกลายเป็นสนามทำเงินที่มีผู้เล่นมากมาย ดังนั้นเมื่อผู้ผลิต ‘sticker creator’ มืออาชีพอย่างบริษัท Quan Inc สัญชาติญี่ปุ่น ขยายสาขาเข้ามาในเมืองไทย จึงต้องเล่นท่าใหม่ที่ให้มากกว่าความน่ารัก โดยเน้นขาย ‘สตอรี่’ หรือ ‘เรื่องราว’
“สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ส่วนใหญ่เป็นเพียงตัวการ์ตูนธรรมดา เราไม่ค่อยรู้จักว่าแต่ละตัวชื่ออะไร ผมจึงคิดว่าถ้าอยากทำให้คนชอบหรืออินกับมันจริงๆ ต้องสร้างเรื่องราวและมีแบคกราวน์ให้คนได้ทำความรู้จัก เหมือนพวกแก๊งซานริโอหรืออนิเมะญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง สิ่งนี้เองทำให้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ของ Quan แตกต่างจากคนอื่น”
คุณชินโตะแชร์แนวทางการ ‘คิดต่าง’ ที่สร้างให้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์หลายตัวประสบความสำเร็จอย่าง ‘เบ็ตตะคุมะ’ หมีขาว ตัวยาว นิสัยกวน ‘ปิโยมารุ’ ลูกเจี๊ยบแสนน่ารักแต่ป่วนสุดๆ รวมทั้ง ‘เจ้านายหัวปลา’ ที่ถูกปั้นให้เป็นเจ้านายสุดแสบ และ ‘มิมิ แอนด์ เนโกะ’ ได้รับการสร้างสรรค์ให้เป็นกระต่ายและแมวน้อยแก้มชมพู ที่มาพร้อมเรื่องน่ารักที่ทำให้คนอ่านยิ้มๆ ทุกครั้งที่เจอ
(photo: https://www.facebook.com/UsagyuuunQuan)
(photo: https://www.facebook.com/HIPMiMiNeKo)
ปัจจุบัน บริษัท Quan Inc ผลิตสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์มามากกว่า 200 ชุด มีทั้งตัวที่ประสบความสำเร็จแบบล้นหลาม และเซ็ตที่มียอดดาวน์โหลดล้มเหลว ซึ่งทางคุณชินโตะและทีมไม่เสียใจ เพราะผลตอบแทนที่ได้กลับมาในรูปแบบ ‘ดาต้า’ คุ้มค่ากว่าที่คิด
‘ดาต้า’ หัวใจหลักของการสร้างสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ให้สำเร็จ
‘ดาต้า’ คือ คำตอบของคุณชินโตะเมื่อถูกถามถึง ‘หัวใจหลักของการสร้างสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์
ดังนั้น ก่อนสร้างสรรค์สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์หนึ่งตัว คุณชินโตะและทีมใช้ดาต้าที่ได้จากสติกเกอร์ที่เคยปล่อยดาวน์โหลดทั้งหมด รวมทั้งเทรนด์ ณ ขณะนั้นมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ให้เป็นประโยชน์ เพื่อพัฒนาสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ที่ตอบโจทย์ตลาดมากที่สุด
“ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงแรกใช้เวลานานที่สุด แต่คุ้มค่ามากที่สุด ถ้าเราได้แนวคิดและแนวทางจากส่วนนี้แล้ว การดีไซน์ก็ไม่ยาก โดยเราจะดูว่าคนส่วนใหญ่ชอบส่งหรือโหลดสติ๊กเกอร์แนวไหนจากดาต้าที่เก็บได้”
‘เบ็ตตะคุมะ’ หมีขาวสุดกวนที่มีต้นกำเนิดจาก ‘ดาต้า’
‘เบ็ตตะคุมะ’ หมีขาวชาวญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดของบริษัท Quan Inc มีแฟนคลับยอมจ่ายเงินซื้อราวๆ 5 ล้านครั้งจากทั่วโลก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเจ้าหมีขาวแสนกวนยอดฮิตตัวนี้ มีต้นกำเนิดดีไซน์จากการใช้ดาต้าที่ดี
“เบ็ตตะคุมะ เป็นตัวอย่างที่ดีของการดีไซน์สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์จากดาต้า โดยทางบริษัทที่ญี่ปุ่นวิเคราะห์กันได้ว่า ช่วงนั้นในท้องตลาดมีแต่สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์หน้าตาน่ารัก กุ๊กกิ๊ก ไม่ค่อยมีตัวการ์ตูนที่ดูแปลกตาหรือกวนๆ เราจึงอยากนำเสนออะไรใหม่ๆ ให้คนได้ลองใช้กัน
“นอกจากนี้ เรายังพบว่าคนส่วนใหญ่มักซื้อสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ที่ไม่ค่อยมีสีสัน ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าคนเริ่มเบื่อสติ๊กเกอร์ที่มีดีเทลเยอะ พอมาถึงจุดหนึ่งจึงชอบดีไซน์หรือสีที่ไม่ซับซ้อนและสีเรียบๆ มากกว่า
“ในส่วนของคาแรคเตอร์ เราก็ได้ดาต้ามาว่า คนญี่ปุ่นชอบหมีมากกว่าสัตว์อื่นๆ ซึ่งคนในแต่ละประเทศมีความชอบคาแรคเตอร์แตกต่างกัน เช่น คนเกาหลีต้องเป็นกระต่าย คนจีนนิยมสัตว์ตามปีนักษัตร ในขณะที่คนไทย เราพบว่า ยอดดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ 50 อันดับแรก เป็นเด็กผู้หญิง และสนใจเรื่องความรักมากที่สุด”
ต่างประเทศ ภาษา สื่อสารด้วยสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์แตกต่างกัน
คุณชินโตะเสริมว่า แต่ละประเทศมีพฤติกรรมการใช้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าเบ็ตตะคุมะจะได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น แต่เมื่อนำเข้ามาขายในเมืองไทยต้องปรับภาษาและเลือกท่าทางให้เข้ากับสังคมไทย
“เบ็ตตะคุมะถูกดีไซน์ขึ้นมาด้วยวิธีคิดและไลฟ์สไตล์แบบคนญี่ปุ่น หากนำมาใช้กับคนไทยโดยตรงเลย มันอาจจะดูเพี้ยนๆ ไป ทีมงานจึงต้องทำการวิจัย เก็บดาต้าในเมืองไทยกันอีกครั้ง และนำมาพัฒนาจนกลายเป็นหมีขาวที่สื่อสารด้วยท่าทางแทนคำพูด”
สำหรับตลาดในประเทศฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นสังคมแบบ low context culture หรือสังคมที่เน้นการพูดคุยแบบตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม เช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ทำให้การใช้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์แทนการสื่อสารและแสดงอารมณ์ ไม่นิยมเท่าประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งมีวัฒนธรรมแบบ high context หรือสังคมที่มีพูดจากันแบบรักษาน้ำใจ รักษาความสัมพันธ์ เพราะมีลำดับชั้นทางสังคม
“สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์จะเป็นที่นิยมในประเทศที่เป็น high context culture เพราะคนจะเข้าใจการสื่อสารที่เป็นวิชวลหรือเป็นภาพ ในขณะที่ฝรั่งหลายประเทศในฝั่งตะวันตกไม่เข้าใจการใช้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ เพราะปกติเขาพูดกันตรงๆ ดังนั้นโปรแกรมแชทที่เรียบๆ อย่าง whatsapp จึงเป็นที่นิยม และมีแค่เอโมจิแบบเรียบๆ”
อนาคตสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์มากกว่า ‘การสื่อสาร’ คือ ‘ความบันเทิง’
เมื่อโลกเปลี่ยนไป ความสนใจในสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ของประเทศฝั่งตะวันตกมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอนาคตของธุรกิจสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์
“เราเริ่มเห็นฝรั่งใช้สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก ผมมองว่าความต้องการใช้งานสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์ของคนเปลี่ยนไป เทรนด์ภาพรวมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางสร้างความบันเทิงมากกว่าใช้ในการสื่อสารเพียงอย่างเดียว มันกลายเป็นสิ่งที่เห็นหรือดูแล้วสนุกและมีความฮามากขึ้น”
ถึงแม้ว่าอายุของของสติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์แต่ละตัวจะไม่ยืนยาว แต่ธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีการผสมผสานกับฟอร์แมตอื่นๆ มากขึ้น เช่น gif animation
ในอนาคตจึงเป็นไปได้ว่า สติ๊กเกอร์คาแรคเตอร์อาจกลายเป็นมีเดียและสื่อใหม่ๆ ที่สะท้อนมากกว่าการสื่อสาร
นั่นคือเป็น ‘ความบันเทิง’ ให้ผู้คนแบบเต็มรูปแบบ.
อ้างอิง:
- Marketingoops.เปิดเคล็ดลับ “LINE Creators” ปั้นสติกเกอร์อย่างไรให้ปัง-โกอินเตอร์ ทำรายได้ 3 แสนบาทต่อเดือน!.http://bit.ly/2Xujvms
- Greedisgoods.High Context และ Low Context ต่างกันอย่างไร.http://bit.ly/2VhhOeI
