การประชุมเศรษฐกิจหรือ World Economic Forum ประจำปี 2019 ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อวันที่ 22-25 มกราคมที่ผ่านมา มีบุคคลสำคัญของโลกตบเท้าเข้าร่วมการประชุมมากมาย
ประเด็นใหญ่ของโลกถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง ไม่ว่าการพัฒนาเศรษฐกิจ วิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ และผลกระทบที่มีต่อสังคม ตลอดจนความสำคัญของการทำสมาธิและสติ
หากคุณสงสัยโลกวันนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น?
5 คำกล่าวจากบุคคลสำคัญที่มาร่วมการประชุมครั้งนั้น น่าจะช่วยให้เห็นทิศทางของโลกในอนาคตอันใกล้ได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
เดวิด แอตเทนบะระ (David Attenborough) พิธีกรรายการโทรทัศน์และนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ
“ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับมหันตภัยร้ายจากน้ำมือมนุษย์ ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
เดวิดเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ด้านธรรมชาติวิทยามายาวนานกว่า 60 ปี ได้รับรางวัล Crystal Award จาก WEF ในฐานะผู้นำด้านวัฒนธรรมที่ช่วยขับเคลื่อนให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวก และเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาได้นำปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ขึ้นหารือในการประชุมองค์การสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาภูมิอากาศครั้งที่ 24 หรือ COP24 ที่เมืองคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์
อันโทนีโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
“ถ้าเราไม่เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติภายในปี 2020 เราอาจพลาดโอกาสที่จะหลุดพ้นจากภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีผลกระทบต่อมนุษย์โดยตรง และระบบนิเวศน์ที่กำลังอุ้มชูเราอยู่”
คำปราศรัยของแอนโทนิโอในที่ประชุม เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่ออารยธรรมของมนุษย์
อีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่อันโทนิโอมองว่าเราควรตระหนัก คือการร่วมมือกันระหว่างประชาคมโลกที่จะจัดการกับความท้าทายที่มนุษย์เผชิญอยู่ จะเกิดขึ้นหรือไม่?
วินนี่ บิยานยิมา (Winnie Byanyima) ผู้อำนวยการบริหาร Oxfam International
“ไม่มีกฎเศรษฐกิจใดที่กำหนดให้โลกาภิวัฒน์ต้องแข่งกันไปจนถึงจุดต่ำสุด”
ออกซ์แฟม (Oxfam) องค์กรการกุศลที่เชื่อว่า ‘โลกที่ปราศจากความยากจน เป็นจริงได้’ เผยรายงานปัญหาความเหลื่อมล้ำจากทั่วโลกในวันแรกของการประชุม โดยเนื้อหารายงานเน้นย้ำถึงความตึงเครียดระหว่างทรัพย์สินส่วนตัวและประโยชน์สาธารณะที่ชี้ให้เห็นว่า การจะพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อรองรับปัญหาสุขภาพ การศึกษา และบริการสาธารณะอื่นๆ คนรวยและบริษัทต่างๆ ต้องจ่ายภาษีในอัตราเท่าๆ กัน
วินนี่ บิยานยิมา ผู้อำนวยการบริหารออกซ์แฟม กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมการประชุมต้องทำความเข้าใจปัญหาความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา การก้าวสู่โลกาภิวัฒน์ 4.0 จะเห็นผลได้ ก็ต่อเมื่อปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เป็นมรดกจากกระแสโลกาภิวัฒน์ในยุคที่ผ่านมาได้รับการแก้ไข โดยเธอเรียกร้องให้มีการปฏิวัติทางสังคม
เคลาส์ ชวาบ (Klaus Schwab) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร World Economic Forum
“โลกาภิวัฒน์ 4.0 เพิ่งจะเริ่มขึ้น แต่เราก็ยังเตรียมการไม่พอสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้”
เคลาส์ ชวาบ พูดถึงการกำหนดแนวคิดโลกาภิวัฒน์ 4.0 โดยเกริ่นในการประชุมว่า “สองสิ่งสำคัญในการเป็นประชาคมโลกคือ การมีส่วนร่วมที่กว้างขวาง และจินตนาการที่บรรเจิดกว่าเดิม”
ซูซี่ ร็อดเจอร์ส (Susie Rodgers) นักกีฬาพาราลิมปิก และผู้อำนวยการ Spirit of 2012
“ฉันขอบคุณที่ตัวตนความพิการมันทำให้หลายอย่างดูยุ่งยากขึ้นไปอีก ทั้งที่มันเป็นเพียงแค่ภาษาหรือคำคำหนึ่งเท่านั้น ใครคือคนที่บอกว่า ‘ปกติ’ คือปกติ? หรือ…‘ผู้ไม่พิการ’ แปลว่าไม่พิการ?”
ซูซี่ รอดเจอร์ เป็นผู้พิการเพียงไม่กี่คนบนโลกนี้ที่ไม่ได้มองว่าความพิการคือปมปัญหา ขณะที่ความจริงอีกด้านก็ชี้ว่า โลกใบนี้ก็ไม่ได้แฟร์กับผู้พิการมากนัก
รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โลกนี้มีผู้พิการมากกว่า 1 พันล้านคน และคนกลุ่มนี้ต้องเผชิญปัญหาความยากจน ถูกตัดสิทธิ์การเข้าถึงการศึกษา และถูกปฏิเสธการจ้างงานมากกว่าคนทั่วไป
นอกจากนี้ในบางวัฒนธรรมยังมองผู้พิการในแง่ลบ เป็นกลุ่มคนที่ถูกลดความสำคัญ ต้องเจอทั้งอคติ การเลือกปฏิบัติ และการถูกกีดกันไม่ให้เข้าถึงสิทธิบางอย่าง
ทั้งที่ความจริงผู้พิการนั้นมีศักยภาพและแสงสว่างมากกว่าสิ่งที่สายตาสังคมมองเห็น
โลกวันนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น?
ถึงบรรทัดนี้ เราคงรู้คำตอบ ว่าโลกกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำยากจน การเข้าถึงโอกาสของผู้ด้อยโอกาส
คลื่นลมแห่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ 4.0 โหมกระหน่ำรุนแรง
คำถามใหญ่ที่ทิ้งไว้ในการประชุมคือ ประเทศต่างๆ ในประชาคมโลกจะหันหน้าร่วมมือฝ่าคลื่นลม หรือจะต่างคนต่างอยู่
เพื่อให้ตัวเองรอด แล้วทิ้งคนรั้งท้ายไว้ข้างหลัง
นี่คือคำถามที่เวลาจะให้คำตอบ.
อ้างอิง:
- Michael Hanley, 5 quotes to get you ready for Davos 2019, http://bit.ly/2RO55u0