ถ้าไม่ใช่ศิลปินหรือช่างภาพ คงมีน้อยคนที่รู้จัก โนบุโยชิ อารากิ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นวัย 79 ปี ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ของศิลปิน
แต่ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางคำสรรเสริญ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงตัวอารากิและผลงานของเขาว่าเต็มไปด้วยความดิบ เถื่อน อนาจาร และเข้าขั้นวิตถาร
ก่อนไปงานเปิดตัวนิทรรศการ Life by Film by Nobuyoshi Araki ที่จัดโดย Leica Gallery Bangkok เราไม่รู้จักเขามาก่อน
ข้อมูลชั้นต้นที่พอจะหาได้คือการพิมพ์ชื่อ ‘Nobuyoshi Araki’ ในกูเกิ้ล
ทันทีกี่กดค้นหา เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมอารากิถึงได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เช่นนั้น
เพราะไม่ว่าภาพหรือบทความที่ค้นหาได้ในอันดับต้นๆ ล้วนเต็มไปด้วยภาพผู้หญิงในเชิงอิโรติก บางรูปเข้าขั้นโจ๋งครึ่มจนต้องหันมองไปรอบตัว เพราะกังวลว่าจะมีคนแอบมองหน้าจอ
แต่เมื่อไล่เปิดดูภาพไปเรื่อยๆ นอกจากผลงานในเชิงอิโรติกที่ชวนคิดเรื่องอย่างว่าแล้ว ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าภาพของอารากิสวยและมีเสน่ห์อย่างประหลาด
ดึงดูดให้จ้องมอง ขณะเดียวกันก็ชวนให้หลงใหลดำดิ่งลงไปในโลกส่วนตัวของเขา
อารากิเรียนจบด้านภาพยนตร์และการถ่ายภาพจากมหาวิทยาลัยชิบะในปี 1963 จากนั้นเขาก็เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ เดนท์สุ (Dentsu) ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาชื่อดังของญี่ปุ่น
ที่นั่น เขาได้พบกับ โยโกะ ที่ต่อมากลายเป็นภรรยาและ “คนที่ทำให้ผมเป็นช่างภาพ”
ฮิซาโกะ โมะโตะโอะ คิวเรเตอร์ที่ทำงานกับอารากิมาตั้งแต่ทศวรรษ 90s พูดในงานเปิดตัวนิทรรศการ Life by Film by Nobuyoshi Araki ว่า อารากิเป็นคนที่ถ่ายภาพอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอหรือเห็นอะไร ราวกับเขากำลังจดบันทึกประจำวัน
ปี 1971 อารากิตีพิมพ์โฟโต้บุ๊คชื่อ Sentimental Journey ที่เต็มไปด้วยภาพถ่ายของโยโกะ ช่วงเวลา และสถานที่ต่างๆ ระหว่างที่ทั้งสองไปฮันนีมูนด้วยกัน
โมะโตะโอะฉายภาพถ่ายในหนังสือเล่มนั้นขึ้นจอในโรงหนังลิโด้ไปทีละภาพ บางภาพเป็นภาพโป๊เปลือยของโยโกะ บางภาพก็ดูเหมือนภาพถ่ายทั่วๆ ไป แต่ในภาพแต่ละใบล้วนมี ‘อะไร’ บางอย่าง ที่คุณอาจรู้สึกได้ว่าเป็นความงาม
จากภาพชุดนั้น เธอก็เปิดภาพชุดใหม่จากโฟโต้บุ๊คชื่อ Winter Journey เป็นภาพที่อารากิถ่ายโยโกะเช่นกัน แต่ต่างกันที่ช่วงเวลา
ภาพชุดนี้ถ่ายในช่วงสุดท้ายของชีวิตโยโกะ
บรรยากาศทุกอย่างในภาพดูเหงา เศร้า และเต็มไปด้วยบรรยากาศการจากลา
แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป โมะโตะโอะเปิดภาพถ่ายชุดใหม่ เป็นภาพที่ถ่ายในช่วงเวลาหลังจากนั้น ซึ่งแสดงถึงมุมมองศิลปินของอารากิที่นำตุ๊กตุ๋น ตุ๊กตา มาถ่ายคู่กับดอกไม้
บางภาพมีลายเส้นตัวหนังสือพู่กัน ซึ่งเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่เขาหลงใหล
เมื่อภาพถ่ายทั้งหมดฉายจบ ในเซคชั่นถามตอบ ผู้ร่วมงานคนหนึ่งถามโมะโตะโอะถึงภาพถ่ายที่สื่อถึงเรื่องเพศและเซ็กส์ ซึ่งเป็นงานที่โดดเด่น ว่าคนญี่ปุ่นมองช่างภาพอย่างอารากิอย่างไร
โมะโตะโอะตอบว่า อารากิถ่ายภาพเหล่านี้อย่างเข้มข้นในช่วงยุค 80s “แน่นอน เขาถูกจับตามอง และบางครั้งก็โดนตำรวจเรียก”
ในเวลานั้น ภาพของอารากิถือเป็นเรื่องใหม่ สังคมญี่ปุ่นมองเขาด้วยสายตาตั้งคำถาม ไม่มีใครมองว่างานเขาคือศิลปะ ภาพถ่ายเหล่านี้ไม่ต่างจากสื่อลามก
“สำหรับอารากิ ไม่ว่าภาพนู้ด ภาพท้องฟ้า ภาพดอกไม้ หรือภาพอะไร ล้วนไม่ต่างกัน”
โมะโตะโอะให้ความเห็นในฐานะคิวเรเตอร์ที่ทำงานกับอารากิมานาน
แต่ต่อมาสังคมญี่ปุ่นก็ให้ค่าอารากิ หลังจากงานของเขาเริ่มได้รับการพูดถึงในต่างประเทศในช่วงยุค 90s และอารากิได้รับการยอมรับในฐานะศิลปินมากขึ้น
“การถ่ายภาพสำหรับผมไม่ต่างจากการกินข้าว”
อารากิให้สัมภาษณ์ในหนังสั้นที่ทางทีมผู้จัดนิทรรศการเดินทางไปพูดคุยที่ญี่ปุ่น จำนวนหนังสือโฟโต้บุ๊คมากกว่า 500 เล่มที่ตีพิมพ์ออกมา น่าจะยืนยันถึงข้อเท็จจริงนี้ได้เป็นอย่างดี
ในวัย 79 ปี อารากิผ่านการเผชิญหน้ากับโรคมะเร็งต่อลูกหมาก การสูญเสียการมองเห็นที่ตาขวา และหัวใจที่ทำงานผิดปกติ ยังคงถ่ายรูปไม่ต่างจากการหายใจ
ภาพอารากิในหนังสั้นผิดกับภาพตัวเขาที่ผุดขึ้นในความคิดจากการดูงานที่ให้อารมณ์หม่นมืด เขาดูเป็นคนแก่ อารมณ์ดี มีชีวิตชีวา และมากด้วยอารมณ์ขัน จนเราอดถามโมะโตะโอะไม่ได้ว่า
ในฐานะที่เธอทำงานใกล้ชิดกับอารากิมานาน ตัวตนของอารากิเป็นอย่างไร เขาเป็นคนแบบภาพที่คนทั่วไปเห็นหรือเปล่า?
โมะโตะโอะตอบว่า ด้วยความที่รู้จักกันมานาน คนเรามีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา แต่พอยิ่งอายุมากขึ้น ลักษณะนิสัยก็เปลี่ยนไป
“จริงๆ เวลาเขาทำงาน ไม่เหมือนกับภาพที่เราเห็น (เธอน่าจะหมายถึงภาพนู้ดที่ดูโจ๋งครึ่ม) ว่าเขาจะต้องหลั่งล้นด้วยตัณหาและอารมณ์
“แต่เขาจะนิ่ง สงบ ดูไร้อารมณ์ และมีสมาธิสูงมากกับการทำงาน” โมะโตะโอะบอกว่าราวกับรอบตัวเขาจะมีแค่กล้องกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
“เวลาปกติ ฉันว่าเขาเหมือนเด็กคนหนึ่งเลย”
เธอบอกว่าเขาเป็นคนง่ายๆ ตรงไปตรงมา รู้สึกอย่างไรก็บอกอย่างนั้น “เห็นผู้หญิงสวย ก็บอกว่าสวย เห็นอะไรดี ก็บอกว่าดี”
สำหรับเธอ อารากิเป็นคนที่ปกติและธรรมดามากที่สุดคนหนึ่ง
เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เธอพูดจริงแค่ไหน เพราะหลายสิ่งดูขัดแย้งกับภาพที่เห็นในสื่อ แต่ขณะเดียวกัน เราก็ไม่อาจแน่ใจว่า สิ่งที่อยู่ในสื่อจะเป็นเรื่องจริงแท้ไปเสียทั้งหมด
แต่ในฐานะคนที่เพิ่งรู้จักอารากิในช่วงเวลาสั้นๆ จากนิทรรศการ Life by Film by Nobuyoshi Araki ที่จัดแสดงผลงานล่าสุดของเขาในวัย 79 ปี คือเสียงหัวเราะที่สดใส ไร้ความกังวลในใจ (จากหนังสั้น) และรูปที่สวยอย่างประหลาด ซึ่งคุณจะรู้สึกได้ทันที แม้จะเห็นเพียงแว็บเดียวก็ตาม
“ยิ่งแก่ รูปยิ่งออกมาดี เมื่อเราเริ่มรู้ตัวว่าเข้าใกล้ความตายมากเท่าไหร่ เราจะเรียนรู้ที่จะพอเพียง และละเอียดอ่อนกับความสวยงามในการมีชีวิต”
– โนบุโยชิ อารากิ –
Life by Film by Nobuyoshi Araki
นิทรรศการจัดแสดงผลงานภาพถ่าย 30 ภาพใหม่ของ โนบุโยชิ อารากิ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 27 พฤศจิกายน 2562 ณ Leica Gallery Bangkok ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ รายละเอียดเพิ่มเติม LeicaGalleryBangkok