ขอแนะนำเครื่องตรวจสอบมลพิษทางอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด ทำงานด้วยระบบเซนเซอร์ที่แม่นยำ ด้วยรูปลักษณ์ที่ผ่านการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา และสามารถติดตั้งได้ทุกที่ทั่วเมือง
เครื่องมือที่ว่านี้ก็คือ ‘เส้นผม’ ของเราทุกคนนั่นเอง
เราต่างก็คุ้นเคยกับบรรดาแคมเปญโฆษณายาสระผมที่ชูคุณสมบัติปกป้องเส้นผมจากมลภาวะเป็นจุดขาย โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง P&G เคยทำการวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง และพบว่ามลภาวะสามารถเกาะติดเส้นผมได้มากกว่าผิวหนังถึง 3 เท่า ทำให้เส้นผมมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากสิ่งสกปรก จนอ่อนแอ และหลุดร่วงมากขึ้น
แต่ในทางกลับกัน มีคนอีกกลุ่มที่ไม่ยอมชำระล้างมลภาวะออกจากเส้นผมง่ายๆ จนกว่าจะได้นำสารพิษต่างๆ ที่เกาะอยู่บนเส้นผมมาทำการตรวจวิเคราะห์ เพื่อทำแผนที่มลพิษในเมืองใหญ่โดยใช้เส้นผมของชาวเมืองเป็นเครื่องตรวจจับสารพิษที่แม่นยำที่สุด
และเมืองที่มีแผนที่มลพิษจากเส้นผมมนุษย์เป็นแห่งแรกในโลก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร
เจ้าของโปรเจกต์นี้เป็นสถาปนิก 2 ราย ได้แก่ เดบราห์ โลเปซ (Deborah Lopez) และ แฮดิน ชาร์เบล (Hadin Charbel) เจ้าของสตูดิโอ Pareid ที่ทำงานด้านสถาปัตยกรรมประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ทั้งคู่สนใจงานทดลองเกี่ยวกับเส้นผมเป็นพิเศษ เนื่องจากเคยมีผลการวิจัยระบุว่า ในบรรดาขยะเส้นผมจำนวนกว่า 6.5 ล้านกิโลกรัมที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เป็นผลิตผลที่จากหนังศีรษะของประชากรอังกฤษล้วนๆ โลเปซและชาร์เบลจึงตระหนักว่า ควรนำขยะเส้นผมมาใช้แทนวัสดุในการก่อสร้างที่ยั่งยืน พวกเขาจึงเคยทดลองนำเส้นผมมาทอเป็นผืนผ้าสักหลาด เพื่อมองหาความเป็นไปได้ในขั้นเริ่มต้น
และหลังจากศึกษาเกี่ยวกับโลหะหนักที่สะสมในเส้นผมมาได้พักใหญ่ ทั้งคู่จึงตั้งสมมติฐานใหม่บนพื้นฐานที่ว่า เส้นผมของมนุษย์สามารถใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์มลพิษในเมืองได้หรือไม่
“มลพิษคือปัญหาสิ่งแวดล้อมที่หนักหนาที่สุดในตอนนี้ และเราก็สนใจประเด็นที่ว่าพื้นที่บนร่างกายมนุษย์สามารถใช้เป็นเครื่องมือตรวจจับมลพิษได้ดี ทั้งยังสะท้อนและบันทึกสภาพแวดล้อมของแต่ละเขตที่อยู่อาศัย พื้นที่ที่ใช้หายใจ กิน และดื่มได้ดีอีกด้วย” โลเปซให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Dezeen
โลเปซและชาร์เบลเรียกโปรเจกต์นี้ว่า Follicle และพวกเขาเลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองตั้งต้นในการเก็บตัวอย่างเส้นผมพลเมือง เพราะเป็นเมืองที่มีปริมาณหมอกพิษสูงเป็นประวัติกาลใน พ.ศ. 2562 ส่งผลให้โรงเรียนกว่า 437 แห่งต้องประกาศงดทำการสอน
Follicle เริ่มต้นเก็บตัวอย่างเส้นผมของชาวบางกอกที่ยินยอมพร้อมใจในงาน Bangkok Design Week 2019 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2562 ในชื่อ “Foll(i)cle” A Toxi-Cartographic Proposal for Bangkok โดยใช้กลเม็ดดึงดูดใจผู้เข้าชมงานด้วยการสร้างศาลาลอยน้ำทำจากเส้นผมของมนุษย์ ซึ่งถูกเย็บระหว่างโครงสร้างเดิมของบ้าน 200 ปี บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ใครเคยไปเที่ยวงานในปีนั้น และสมัครใจตัดปอยผมเพื่อร่วมเป็นหนึ่งในงานวิจัยครั้งนี้ คงเกิดคำถามตามมาว่าตอนนี้โปรเจกต์เดินหน้าไปถึงไหนแล้ว
หลังจากที่โลเปซและชาร์เบลตกใจกับการตอบรับของชาวกรุงเทพฯ ที่ดีเกินคาด เพราะมีผู้สมัครใจตัดปอยผมเพื่อการวิจัยเป็นจำนวนหลายร้อยคน และจากหลายเขตที่พักอาศัยทั่วเมือง พวกเขาได้ส่งตัวอย่างเส้นผมทั้งหมดไปทำการวิเคราะห์ที่ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยตูริน ประเทศอิตาลี
ผลการวิเคราะห์พบว่า เส้นผมของคนกรุงเทพฯ มีปริมาณโลหะหนักสะสมเป็นจำนวนมาก บ่งชี้ถึงมลพิษในสิ่งแวดล้อมสะสมในระดับสูง ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามพื้นที่ เช่น คนที่พักอาศัยใกล้ถนนใหญ่จะมีปริมาณสารหนูสะสมในเส้นผมเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
เมื่อนำผลวิเคราะห์ทั้งหมดมาสร้างเป็นแผนที่ก็จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นว่า เขตใดในกรุงเทพฯ มีปริมาณสารพิษชนิดใดสะสมอยู่บ้าง โดยสามารถเข้าไปดูแผนที่ผมพิษได้ที่ https://foll-i-cle.com/toxi-cartography
Follicle ยังเดินหน้าทำงานวิจัยเรื่องมลพิษที่เกาะติดบนเส้นผมอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้โลเปซและชาร์เบลได้หอบเอาผลงานชิ้นนี้ไปจัดแสดงต่อในงาน Venice Architecture Biennale 2021 โดยพวกเขาวางแผนจะทำสถานีทดสอบเส้นผมในอีกหลายเมืองทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้าใจในวงกว้างถึงความเชื่อมโยงระหว่างเงื่อนไขของเมืองใหญ่กับมลพิษที่แฝงอยู่ในเส้นผม
ในขณะเดียวกัน สถาปนิกทั้งคู่ยังเดินหน้าค้นหาทางออกของขยะจากเส้นผมจำนวนมหาศาลที่เหมาะแก่การนำไปเป็นโครงสร้างของอาคารได้ เพราะเส้นผมที่นำมาทอเป็นผืนผ้าสักหลาดนั้นมีคุณสมบัติเป็นฉนวนหรือแผ่นบุสำหรับกันเสียงได้ดี
แต่ก็ยังมีอีกอุปสรรคสำคัญที่โลเปซบอกว่าก้าวข้ามยากที่สุด นั่นคือ ความรู้สึกกลัวเส้นผมมนุษย์ของคนส่วนใหญ่
“คนเรามักรู้สึกสบายใจที่ได้ลูบขนสัตว์ แต่เรากลับรู้สึกขยะแขยงเมื่อมันเป็นเส้นขนของเราเอง พวกเราเลยอยากคิดหาวิธีนำเส้นผมมนุษย์มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนจะไม่รู้สึก ยี้! อีกต่อไป” โลเปซปิดท้ายด้วยความหวังในการพัฒนาความเป็นไปได้ในการนำเส้นผมมนุษย์มาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อ้างอิง
- Amy Freason. Pareis uses human hair to measure urban pollution in Bangkok. https://bit.ly/3zuBInk
- SPINK HEALTH. Air pollution linked to hair loss, new research reveals. https://bit.ly/2WHSDEP