©ulture

การอ่านหนังสือ คือ ความละเมียดละไมอย่างหนึ่ง เพราะทุกคนต้องใช้เวลาค่อยๆ ซึบซับและปฏิสัมพันธ์กับเรื่องราวบนหน้ากระดาษ

การหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่าน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายหรือยาก แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ต้องใช้ใจตัดสิน อย่างน้อยๆ หนังสือเล่มนั้นต้องเป็นเล่มที่ตรงกับใจของผู้อ่าน

แต่สำหรับนักอ่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะอ่านอะไรดี หนังสือใหม่ต่อไปนี้ คือ ตัวเลือกที่ becommon คัดสรรจากเทศกาลหนังสือเริ่มต้น ABC Book Fest 2020 มาให้คุณโดยเฉพาะ

1
กระทรวงสุขสุดๆ
(The Ministry of Utmost Happiness)

“แด่ ผู้ไร้สิ่งปลอบประโลม”

นวนิยายเล่มที่ 2 ในรอบ 20 ปี ของอรุณธตี รอย นักเขียนและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพชาวอินเดีย หลังจากผลงานเขียนเล่มแรกของเธออย่าง The God of Small Things (เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ) ประสบผลสำเร็จสูงสุดตั้งแต่เปิดตัวในปี 1997 ทำให้ได้รับรางวัล Booker Prize ในปีเดียวกัน

กระทรวงสุขสุดๆ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘อัญจุม’ อดีตฮิจรา (กะเทย) ดาวเด่นผู้โบยบินจากวิมานฝัน สู่ชีวิตใหม่ในฐานะเจ้าของเกสต์เฮาส์ลือชื่อ เพราะอยู่ในสุสานเก่า และ ‘ตีโล’ สถาปนิกสาวผู้มีภูมิหลังชวนให้สงสัย

โชคชะตากำหนดให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับบางสิ่งที่เหมือนกัน ชีวิตของพวกเธอต้องผกผันและพัวพัน เพราะความวุ่นวายทางการเมืองและทารกหญิงคนหนึ่ง

ภาพชีวิตของคนตกขอบเหล่านี้จึงถูกฉายขึ้นบนเวทีนาฏกรรมแห่งความโศกสุข โดยมีฉากหลังเป็นดินแดนแห่งความหลากหลายที่คนตัวเล็กๆ มากมายต่างดิ้นรนไม่รู้จบเพื่อความอยู่รอด ซึ่งสามารถสะท้อนภาพกว้างของอินเดียร่วมสมัยได้อย่างถึงแก่น และเผยให้เห็นความขัดแย้งของโลกความเป็นจริงในปัจจุบันได้อย่างมีชั้นเชิง สมกับคำโปรยบกหน้าปกว่า ‘อินเดียร่วมสมัยฉบับรวดร้าวลึกซึ้งในหนึ่งเล่มจบ’

ผู้เขียน: อรุณธตี รอย
ผู้แปล: สดใส
สำนักพิมพ์: มติชน
จำนวนหน้า: 504 หน้า
ราคาปก: 480 บาท
พิกัด: C33

2
ทะเลสาบน้ำตา

“การไม่อาจจดจำสิ่งเดียวในชีวิตที่มีค่าพอให้จดจำได้นั่นช่างอ้างว้าง”

นวนิยายลำดับที่ 3 ของวีรพร  นิติประภา นักเขียนดับเบิ้ลซีไรต์

ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ยิหวา’ เด็กหญิงผู้ถูกแม่ทิ้งไว้ที่บ้านในตึกพิลึกพิลั่น เพื่อออกไปตามหาความรักหลังจากที่พ่อกลายเป็นต้นไทร และ ‘อนิล’ เด็กชายซึ่งถูกพ่อหมางเมินหลังจากไล่ตะเพิดแม่ออกจากบ้าน เมื่อทนต่อการถูกมองข้ามไม่ไหว หลังจากพ่อแต่งงานใหม่ เขาจึงตัดสินใจหนีไปจากบ้าน เร่ร่อนจนกระทั่งได้มาเจอกับยิหวา และกลายเป็นเพื่อนรักกัน

แล้วทั้งคู่ก็ได้รู้จักกับชาวสมาคมลับแห่งต้นชงโค ซึ่งประกอบด้วยคุณยายไลลา ห่านปุยฝ้าย และแมวโบ๋แบ๋ เรื่องราวต่อไปนี้จึงให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากชื่อหนังสือไม่ผิดเพี้ยน

ผู้เขียน: วีรพร นิติประภา
สำนักพิมพ์: ArtyHOUSE
จำนวนหน้า: 224 หน้า
ราคาปก: 359 บาท
พิกัด: C25

3
นวลน้องและโนมเนื้อ
(My Uncle Oswald)

“หากสนใจอะไรสักอย่างหนึ่ง จงทุ่มไปให้สุดตัว จงหลงใหลในสิ่งนั้น
แค่อุ่นๆ ยังไม่ดีพอ แค่ร้อนก็ไม่พออีกเหมือนกัน แต่จงแผดเผาด้วยไฟปรารถนา”

หยอกล้อไปกับเส้นแห่งการผจญภัยกับเรื่องผู้ใหญ่ๆ โดย โรอัลด์ ดาห์ล นักเขียนวรรณกรรมเยาวชนที่ผู้อ่านทั่วโลกหลงรัก

“ผมรักการเล่นซุกซน”

ชายผู้เป็นในสิ่งที่ผู้ชายทุกคนอยากเป็น และทำในสิ่งที่ผู้ชายทุกคนคงได้แต่นอนฝันกลางวันเอ่ยขึ้น

เขาเป็นนักรักที่รักผู้หญิงได้เพียงคนละ 1 ครั้ง เป็นนักผจญภัยผู้เชื่อว่าเตียงนอน คือ สมรภูมิแสนโลดโผน และเป็นนักวางแผนที่ลงมือทำภารกิจพิชิตเงินล้านชวนหวาดเสียว เพราะเกี่ยวข้องกับด้วงไฟตัวร้ายจากซูดาน โนมเนื้อของโฉมงาม และของเหลวสีขาวนวลของเหล่าอัจฉริยะระดับโลก

นี่คือนิยายอีโรติกขนาดยาวที่โรอัลด์ ดาห์ล เขียนขึ้นสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะในแบบฉบับที่เขาใช้เขียนลงเป็นเรื่องสั้นในนิตยสาร Playboy ด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครและเรื่องราวให้ไปไกลเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะจินตนาการได้ โดยเปลี่ยนของที่ดูแสลงให้กลายเป็นความรื่นรมย์ ผสมกับประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และบุคคลที่มีอยู่จริง

ผู้เขียน: โรอัลด์ ดาห์ล
ผู้แปล: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี
สำนักพิมพ์: Merry-Go-Round
จำนวนหน้า: 280 หน้า
ราคาปก: 250 บาท
พิกัด: C1, C5

4
Home Away from Home
เกาหลีใต้ ที่เห็นและไปอยู่

“การเดินทางจะสบายไปกว่าเซฟโซนที่เราคุ้นกลิ่นได้ยังไง
แล้วเราจะเดินทางด้วยการโอบอุ้มความกังวล แล้วกลับมาโล่งใจเพื่ออะไร”

เคยถามตัวเองไหมว่าที่แห่งไหน คือ บ้านของเรา

ผู้เขียนเรียกตัวเองว่า นักเดินทางกลับบ้านมืออาชีพ เพราะไม่ว่าจะสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนฝูงขนาดไหน ทุกๆ วันเขาต้องกลับไปทิ้งตัวลงนอนที่บ้านเสมอ แต่ด้วยหน้าที่การงานในตำแหน่ง Happiness Manager ประจำโฮสเทลแห่งหนึ่ง เปิดโอกาสทำให้เขาพบเจอผู้คนมากมาย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้นักเดินทางกลับบ้านต้องออกเดินทางเพื่อไปหาบ้านหลังใหม่ให้ตัวเอง

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่บันทึกการเดินทาง แต่เป็นบันทึกการออกจากบ้านที่ค้นพบภายหลังว่า เกาหลีใต้คือประเทศที่มีทั้งเพื่อนรักและเพื่อนใหม่รอต้อนรับอยู่เสมอ

จากความตั้งใจแรกที่ต้องการแค่เดินทางไปหาเพื่อน จึงนำไปสู่การเดินทางกลับไปใหม่ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล เพื่อผูกมิตรภาพ พัฒนาความสัมพันธ์ และทดลองใช้ชีวิตในสถานที่ที่ตัวเองรู้สึกสบายใจและอุ่นใจในคราวเดียวกัน จนสามารถเรียกที่แห่งนั้นว่าบ้านอีกหลังหนึ่ง

ผู้เขียน: ปิยฤทธิ์ ปัญจธรรมวิทย์
สำนักพิมพ์: Salmon Books
จำนวนหน้า: 288 หน้า
ราคาปก: 370 บาท
พิกัด: C10, C15

5
ดื่มเหล้าเคล้าชาตรีกับแวมไพร์ในคาบุกิโจ

“ต่อให้มันเป็นเรื่องโกหกฉันก็รับได้ เพราะเงินที่เสียไปฉันก็ได้รับความสุขตอบแทน
ฉันเชื่อในเรื่องการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน”

สิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการอาจได้แก่การเสาะหาความบันเทิงเริงใจจากมนุษย์เพศชาย มีความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเพื่อใคร เสพบรรยากาศที่เติมชีวิตชีวาให้วิญญาณอันเบื่อโลก เคล้าคลอไปกับแอลกอฮอล์ นิโคติน และบทสนทนาดีๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดันเป็นสิ่งที่เงินซื้อได้

‘พอนจัง’ จึงยินดีจ่ายเงินซื้อสิ่งเหล่านั้น หลังจากเธอลองเหยียบย่างเข้าไปในบาร์โฮสต์ ทั้งที่ตลอดมาฐานที่มั่นในคาบุกิโจของเธอ คือ บาร์กอธิค 

“แสดงให้ดูหน่อยว่านัมเบอร์วันของที่นี่เป็นยังไง ในฐานะที่ฉันเป็นคนต่างชาติที่ไม่มีประสบการณ์ ฉันก็อยากจะเห็นว่ามันจะเหมือนคนที่คนเขาร่ำลือมั้ย และถ้าทำให้ฉันอยากจ่ายมากกว่าที่ตกลงไว้ได้ ฉันก็ยินดี”

สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนเหล่านั้นช่างออกรสจนไม่อาจเก็บไว้ในใจได้ เธอจึงเผยความรู้สึกออกมาผ่านเรื่องเล่าอิงเรื่องจริงที่ท้าทายอำนาจมืดของการตกหลุมรัก และร่วมลุ้นไปกับเกมรักระหว่างหญิงสาวผู้ต้องใจในโลกกลางคืนกับโฮสต์หนุ่มแห่งคาบุกิโจ

ผู้เขียน: รติพร ชัยปิยะพร
สำนักพิมพ์: P.S.
จำนวนหน้า: 336 หน้า
ราคาปก: 340 บาท
พิกัด: C12

6
ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ
(The Cat Who Loved to Protect Books)

“การอ่านหนังสือก็คล้ายกับการปีนเขา
การอ่านหนังสือไม่ควรหวังแค่ความสำราญ หรือความน่าตื่นเต้น
บางครั้งเราต้องดื่มด่ำลงไปทีละประโยค
อ่านเนื้อหาเดิมซ้ำไปซ้ำมา หรืออ่านช้าๆ พร้อมกับกุมขมับไปด้วย”

นิยายที่คนรักหนังสือและแมวจะต้องหลงใหล

เป็นเรื่องราวของ ‘นัตสึกิ รินทาโร่’ นักเรียนหนุ่มมัธยมปลาย อาศัยอยู่กับปู่ที่เป็นเจ้าของร้านหนังสือเก่าแห่งหนึ่ง เมื่อปู่เสียชีวิตกะทันหัน เด็กหนุ่มได้รับสืบทอดกิจการ แต่ตัวเขากลับไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ในตอนนั้นเองแมวลายส้มพูดได้ที่แอบอยู่ในร้านก็ปรากฏตัว และพาเด็กหนุ่มไปผจญภัยในโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยหนังสือ โดยมีภารกิจช่วยต่อชีวิตให้หนังสือไม่สูญหาย

ผลงานแฟนตาซีเล่มนี้ได้รับการแปลไปแล้วมากกว่า 15 ภาษา และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ Japan Bookseller Award ที่มอบให้กับนิยายญี่ปุ่นร่วมสมัย ซึ่งถูกยกย่องในระดับสากลว่าเป็นผลงานชั้นยอด เพราะสะท้อนคุณค่าที่แท้จริงของหนังสือ รวมถึงตั้งคำถามต่อนักอ่านว่า ทุกวันนี้เราอ่านหนังสือไปเพื่ออะไรกันแน่

ผู้เขียน: นัตสึคาวะ โซสุเกะ
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
สำนักพิมพ์: Bibli
จำนวนหน้า: 232 หน้า
ราคาปก: 279 บาท
พิกัด: B1, B27, B33, B36, C1, C5, C7, C12, C33

7
พวกฉัน พวกมัน พวกเรา
(Moral Tribes)

“ธรรมชาติมนุษย์ เรามักจะเห็นพวกเราดีกว่าพวกเขา
ไม่ใช่ว่าเราทะเลาะกัน เพราะเราไม่มีศีลธรรม
แต่เพราะเรามีและยึดถือศีลธรรมของกลุ่มตัวเองต่างหาก”

ความขัดแย้ง คือ หนึ่งในปัญหาที่ทุกสังคมต้องเจอ 

เพราะมนุษย์ทุกคนต่างมีสังคมของตัวเอง ซึ่งยึดถือค่านิยม ความเชื่อ และหลักการที่ต่างกัน จึงไม่ใช่เรื่องเกิดความคาดหมาย หากแต่ละคนจะแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นพวกเรา พวกเขา และพวกมัน จนท้ายที่สุด นำไปสู่ความขัดแย้งที่สามารถทวีความรุนแรงได้ไม่มีที่สิ้นสุด

ความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า เราจะเข้ากับพวกเขาได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการขัดแย้งรุนแรงกับพวกเรา และเป็นไปได้ไหมว่า ท่ามกลางปัญหาและความไม่ลงรอย เราจะสามารถค้นพบจุดกึ่งกลาง ซึ่งเป็นจุดที่ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันในทุกๆ เรื่อง 

หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ เพราะผู้เขียนเป็นอาจารย์และนักวิทยาศาสตร์ จึงนำเอาความรู้ด้านประสาทวิทยาและหลักกระบวนการคิด มาทำความเข้าใจว่ามนุษย์ใช้ศีลธรรมในการตัดสินใจอย่างไร ผนวกกับผลการศึกษาด้านสังคมศาสตร์ จิตวิทยา และปรัชญาตั้งแต่ยุคอดีต เพื่อบอกเล่าสาเหตุของการแบ่งเขาแบ่งเรา และเสนอวิธีการเพื่อให้พวกเขาและพวกเราอยู่ร่วมกันได้

ผู้เขียน: โจชัว กรีน
ผู้แปล: วิลาสินี ฤกษ์ปฎิมา เดอเบส
สำนักพิมพ์: Salt
จำนวนหน้า: 552 หน้า
ราคาปก: 485 บาท
พิกัด: C13

8
จินตนาคาร
(Dream Storeys)

“การใช้ชีวิตอยู่ก็คือการตายไปในขณะเดียวกัน”

รวมเรื่องสั้นไซไฟ 9 เรื่อง ของนักเขียนชาวสิงคโปร์ ที่ต่อยอดมาจากบทสัมภาษณ์สถาปนิก 9 คน เกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาเมืองและอาคารในฝัน ซึ่งเริ่มต้นด้วยคำถามเดียวกันว่า คุณอยากจะสร้างอาคารอะไร (ในสิงคโปร์) ถ้าไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านพื้นที่ งบประมาณ หลักฟิสิกส์ หรืออื่นๆ

เมื่อไม่มีเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับจินตนาการ คำตอบที่ได้จึงไร้ขอบเขตใดๆ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าที่มีวันหมดอายุ สมาร์ตโฮมที่ทุกส่วนของบ้านหลอมรวมความทรงจำกับผู้อยู่อาศัย บ้านต้นไม้ที่กลายเป็นชุมชนของเด็กผู้ถูกทอดทิ้งและผู้สูงวัย ไปจนถึงคุกลอยฟ้าสำหรับจองจำนักโทษการเมือง

ความคิดเพ้อฝันของสถาปนิก ได้แปรเปลี่ยนเป็นความคิดต้นแบบที่ผู้เขียนนำมาร้อยเรียงเข้ากับชีวิต จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างที่อยู่และผู้คน เพราะในแง่มุมหนึ่ง อาคารก็มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดไม่ต่างจากผู้อยู่ ทั้งก่อเกิด กอรปสร้าง ซ่อมแซ่ม รักษา และทำลายทิ้งเมื่อถึงวาระ 

อาคารในจินตนาการ อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้ แต่ชีวิตของผู้อาศัยในเรื่องสั้น กลับเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ภายใต้ร่มเงาของเคหสถานและอาคารธรรมดาๆ ที่ไหนสักแห่ง

ผู้เขียน: คลาร่า ชาว
ผู้แปล: ณัฐกานต์ อมาตยกุล
สำนักพิมพ์: ไจไจบุ๊คส์
จำนวนหน้า: 304 หน้า
ราคาปก: 300 บาท
พิกัด: B27, C5, C10, C12, C15

9
จุดกำเนิดของโลก ชีวิต จักรวาล และ (เกือบ) ทุกสิ่ง
(The Origin of (almost) Everything)

“เมื่อทุกสิ่งชัดเจนขึ้น ยังมีความลึกลับมากมายหลงเหลืออยู่
แต่เราก็ยังขยับเข้าใกล้อย่างสม่ำเสมอที่จะตอบคำถามอันแสนเก่าแก่ว่า
เรามาจากไหน?”

เป็นธรรมชาติที่มนุษย์อยากจะรู้ที่มา (ยังไม่ต้องพูดถึงที่ไป) และจุดกำเนิดของตัวเอง

เมื่อมนุษย์มองดูบางสิ่งบางอย่าง แล้วครุ่นคิดเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตัวเองว่า เรามาจากไหน ทำไมจึงอยู่ที่นี่ มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้อย่างไร แรงดึงดูดอันทรงพลังเกี่ยวกับจุดกำเนิดทั้งหมดทั้งมวล จึงทำให้เกิดเรื่องเล่าที่ดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุดตามมา เพราะเมื่อค้นหากลับยิ่งพบเจอ

หนังสือเล่มนี้ จะพาผู้อ่านย้อนกลับไปในช่วงเวลาแรกเริ่ม ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของระบบสุริยะ กำเนิดของชีวิต วิวัฒนาการของสปีชีส์ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยให้มนุษย์อย่างเราๆ เข้าใจอดีตที่ผ่านมาและจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ นับตั้งแต่การประดิษฐ์คิดค้นในยุคบรรพกาล เรื่อยมาจนถึงเทคโนโลยีทันสมัยในยุคปัจจุบัน ผ่านเรื่องเล่าจุดกำเนิดของเกือบทุกสิ่ง

ผู้เขียน: เกรแฮม ลอว์ตัน
ผู้แปล: ธิดา จงนิรามัยสถิต
สำนักพิมพ์: ยิปซี
จำนวนหน้า: 320 หน้า
ราคาปก: 325 บาท
พิกัด: C31

10
แจ๊ซมูราคามิ
Jazz Murakami

“ลองหาอัลบั้มชุด Pyramid มาฟัง
หลังหรือก่อนอ่านนิยายเรื่อง Killing Commendatore (สังหารจอมเทพอัศวิน)
บางทีอาจให้ความรู้สึกที่ไม่สามารถคาดเดาได้”

ฮารูกิ มูราคามิ เป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่สนใจดนตรีสากลอย่างมาก โดยเฉพาะเพลงแจ๊ส ผลงานเขียนเกือบทุกเล่มของเขา จึงมักจะสอดแทรกดนตรีไว้ในเนื้อเรื่องเสมอ ผ่านบทสนทนาของตัวละครบ้าง หรือไม่ก็ผ่านบทบรรยายฉากและบรรยากาศบ้าง

หนังสือขนาดกะทัดรัดเล่มนี้ ไม่เพียงรวบรวมเพลงแจ๊ซจากนวนิยายและเรื่องสั้นของมูราคามิเท่านั้น แต่ยังนำบางบทบางตอนของเนื้อเรื่องที่อ้างอิงถึงเพลงแจ๊ซ มาวิเคราะห์เพิ่มเติมถึงความลึกซึ้งของเนื้อเพลง ท่วงทำนองสื่ออารมณ์ ความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ รวมถึงเหตุผลเบื้องหลังที่มูราคามิคัดเลือกแต่ละเพลงมาไว้ในงานเขียน

สำหรับฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ผู้เขียนได้เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่จำนวน 2 เรื่องจากผลงานเขียนล่าสุดของมูราคามิเข้าไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย

นอกจากแฟนหนังสือมูราคามิ ผู้ที่กำลังเริ่มฟังเพลงแจ๊ซ หรือชื่นชอบเพลงแจ๊ซอยู่ก่อน หากได้อ่าน Jazz Musakami เป็นไปได้ว่าจะยิ่งรักเพลงแจ๊ซเพิ่มขึ้น

ผู้เขียน: สิเหร่
สำนักพิมพ์: เม่นวรรณกรรม
จำนวนหน้า: 176 หน้า
ราคาปก: 240 บาท
พิกัด: C1, C5, C33

ABC BOOK FEST 2020
เทศกาลหนังสือเริ่มต้น

เทศกาลหนังสือใจกลางเมือง
เป็นการรวมตัวกันของสำนักพิมพ์มากกว่า 70 แห่ง เพื่อเสิร์ฟหนังสือให้นักอ่าน
ด้วยความเชื่อที่ว่า การอ่านคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2563
ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ 

รายละเอียดเพิ่มเติม
ABC Book Fest