©ulture

สีสเปรย์ที่พ่นทับลงบนกำแพงและสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ เป็นผลงานศิลปะแขนงหนึ่งที่คอยทำหน้าที่บันทึกเรื่องราว และความเป็นไปในสังคม ณ ช่วงเวลานั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

ตั้งแต่เรื่องวัคซีนซิโนแวคในปัจจุบัน, เรื่องทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังที่ขับรถชนตำรวจตายเมื่อ พ.ศ. 2555, ไปจนถึงเรื่องประชาธิปไตยในพม่า หรือแม้แต่เรื่องของวันเฉลิมที่ถูกอุ้มหายไปในประเทศกัมพูชา ฯลฯ

ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์ sgeprint ได้ระบุถึงนิยามของกราฟฟิตี้ไว้ว่า

‘กราฟฟิตี้ถือเป็นวัฒนธรรมนอกกระแสที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของความขบถ ราวกับว่ามันก่อให้เกิดความรู้สึกที่เป็นสุข เมื่อยามที่ศิลปินได้ท้าทายต่ออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามกีดกันกำจัดให้หมดไป’

และผลงานกราฟฟิตี้ส่วนใหญ่ที่ได้พบเจอมานั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ย้ำถึงข้อมูลข้างต้นได้เป็นอย่างดี

เพราะบางงานก็ถูกลบและทำลายไป

แต่หลายงานก็ยังคงอยู่และกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ในเมืองใหญ่เมืองนี้

บ้างก็ทำให้เราได้ฉุกคิด บ้างก็ชวนให้สงสัย บ้างก็เสียดสีกับสถานการณ์ต่างๆ ของบ้านเมือง

…ที่ครั้งนึงมันได้เคยเกิดขึ้นจริงในสังคม

 

#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘I love Sinovac’ , ศิลปิน : Headache Stencil
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
ภาพกราฟฟิตี้เสียดสีสังคมกรณีเหตุการณ์ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2555 , ศิลปิน : ไม่ทราบชื่อ
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘งบกลาง’ , ศิลปิน : Headache Stencil
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘ออง ซาน ซูจี’ , ศิลปิน : Headache Stencil
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘ทำนาบนหลังคน’ , ศิลปิน : Headache Stencil
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘Our future is up in the air’ , ศิลปิน : Headache Stencil
#PHOTOESSAY #กราฟฟิตี้ #graffiti #becommon
‘We are human’ , ศิลปิน : Headache Stencil