“แม้ขอได้สิ่งใดในชีวิต จักขอพรจากบพิธอดิศร
“ขอความสุขอันเป็นนิรันดร มอบเป็นพรปีใหม่ให้กับคุณ”
ข้อความนี้ถูกเขียนด้วยลายมือบรรจง ลงบน ส.ค.ส. ปีใหม่ พ.ศ.2530
ในกล่องไม้ที่นานมาแล้วไม่ได้เปิดดู นอกจากจะเต็มไปด้วยจดหมายเก่าๆ รุ่นคุณพ่อคุณแม่แล้ว ยังมี ส.ค.ส.อยู่จำนวนหนึ่ง ด้านในระบุคำอวยพรเรียบง่าย พร้อมชื่อคนส่งที่เขียนอย่างประณีต เมื่อเปิดอ่านครั้งใด ก็ทำให้คิดถึงเจ้าของลายมือนั้นทุกครั้ง
นานมาแล้วที่เราต่างก็ไม่ได้ส่งและไม่ได้รับการ์ดอวยพรจากใครเฉกเช่นวันก่อนๆ
ในแต่ละปีที่กำลังจะผ่านพ้นไป ธรรมเนียมการอวยพรให้คนที่เรารักมีความสุขยังคงมีอยู่เสมอ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไปตามกาลเวลา และครั้งหนึ่งส.ค.ส. เคยเป็นตัวกลางที่หอบเอาความหวังดีและความคิดถึงไปส่งถึงผู้คนเหล่านั้น
แล้วส.ค.ส.เหล่านี้เริ่มต้นมาจากไหนกันนะ ?
‘Au ab nap’ แปลว่า ‘ขอให้โชคดี’ เป็นข้อความที่ถูกจารึกลงบนขวดน้ำหอมหรือแมลงปีกแข็ง ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่ชาวอียิปต์มอบให้กันในวันปีใหม่ เช่นเดียวกับ ‘Anno novo faustum felix tibi sit’ หมายถึง ‘ขอให้เป็นปีใหม่ที่สุขสันต์และโชคดี’ ข้อความนี้สลักลงบนตะเกียงอันวิจิตรงดงามของชาวโรมันที่มอบให้กันเมื่อศักราชใหม่มาเยือน
วิถีของการส่งความสุขต้อนรับปีใหม่ของชาวโลกนั้นมีมาอย่างยาวนานและแตกต่างกันไป และเริ่มได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในศตวรรษที่ 15 เมื่อช่างไม้ได้แกะสลักแท่นพิมพ์รูปพระเยซูคริสต์วัยเด็ก มีข้อความอวยพรว่า ‘Ein guot selig ior’ แปลว่า ‘ปีที่ดีและมีความสุข’ ทำให้ตั้งแต่นั้นจนถึงช่วงศตวรรษที่ 18 มีภาพพิมพ์ลักษณะนี้ถูกผลิตออกมามากมายเพื่อจำหน่ายสำหรับเป็นของที่ระลึกในวันปีใหม่
จากนั้นในปี ค.ศ.1843 (พ.ศ.2386) การ์ดอวยพรปีใหม่ฉบับแรกของโลกก็ถูกจัดพิมพ์ขึ้นอย่างเป็นทางการและจัดจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดย เฮนรี โคล (Henry Cole) ข้าราชการระดับสูง ผู้ร่วมจัดตั้ง ‘Public Record Office’ และนักปฏิรูประบบไปรษณีย์ชาวบริติช
บัตรอวยพรวันคริสต์มาสฉบับแรกออกแบบโดย จอห์น คลค็อตต์ ฮอร์สลีย์ (John Callcott Horsley) ซึ่งเป็นเพื่อนของเฮนรี ใช้กระดาษขนาด 13 x 8 เซนติเมตร ปรากฏภาพครอบครัวหนึ่งกำลังเฉลิมฉลองและทานอาหารค่ำ ละเลงสีซีเปียเข้มๆ ด้วยมือ ระบุข้อความ ‘A Merry Christmas and a Happy New Year to You’
บัตรอวยพรฉบับนี้จัดพิมพ์ออกมาจำนวน 1,000 ใบ และวางขายในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประกอบกับช่วงปีนั้นประชาชนเริ่มเข้าถึงการส่งไปรษณีย์ได้ทุกคน ทำให้การส่งการ์ดอวยพรได้รับความนิยมอย่างล้นหลามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การ์ดอวยพรวันปีใหม่ของประเทศไทยเอง ก็ถือกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 -18 นี้เช่นเดียวกัน
ครั้งหนึ่ง ธวัชชัย ตั้งศิริวาณิช นักเขียนและนักวิชาการอิสระผู้ศึกษาด้านประวัติศาสตร์ บังเอิญพบบัตรอวยพรปีใหม่ฉบับแรกของไทยโดยบังเอิญที่ร้านหนังสือ Maggs Bros. Ltd. ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้นำกลับมายังประเทศไทย
บัตรอวยพรฉบับนี้มีอายุกว่า 154 ปี เป็นบัตรที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมอบให้กัปตันจอห์น บุช หรือหลวงวิสูตรสาครดิษฐ์ ผู้ดูแลกรมเจ้าท่าในขณะนั้น เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่สากล 1 มกราคม พ.ศ.2409
นอกจากจะมอบเพื่อเป็นการส่งความสุขให้ในวันปีใหม่แล้ว บ้างยังสันนิษฐานว่าพระองค์ยังมีนัยยะแฝง เพื่อต้องการจะบ่งบอกชาวต่างชาติว่าประเทศไทยนั้นไม่ได้ล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ
ส.ค.ส. ชิ้นนี้ไม่ได้มีลักษณะกะทัดรัดและเรียบง่ายเช่นปัจจุบัน แต่กลับเป็นกระดาษสีครีมพับครึ่ง คล้ายจดหมายทั่วไป มีขนาดกว้าง 18 ยาว 23 เซ็นติเมตร ระบุพระราชสาสน์อวยพรยาว 4 หน้ากระดาษ และปิดท้ายจดหมายด้วยลายมือชื่อของพระองค์
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชาวสยามก็นิยมส่งบัตรอวยพรถึงกันทั้งในวันปีใหม่ไทยและปีใหม่สากลของทุกปี พอถึงช่วงต้นรัชกาลที่ 5 ก็เกิดคำว่า ‘ส.ค.ส.’ ซึ่งย่อมาจาก ‘ส่งความสุข’ ขึ้นมาเป็นครั้งแรก
นอกจาก ส.ค.ส. ที่ประชาชนนิยมส่งถึงกันแล้ว ในปี 2530 ยังมี ส.ค.ส.พระราชทาน จาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึงประชาชนเป็นครั้งแรก โดยทรงพิมพ์ออกจากคอมพิวเตอร์ และส่งแฟกซ์ให้แก่หน่วยงานต่างๆ และเป็นเช่นนั้นมาเรื่อยๆ มาทุกปี
ในยุคแรก ส.ค.ส.มีขนาดเท่ากับนามบัตรเล็กๆ นิยมระบุชื่อผู้ส่ง ผู้รับ ปีพ.ศ. และคำอวยพรที่ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ส.ค.ส. ก็ได้พัฒนาและเปลี่ยนรูป ทั้งขนาด รูปทรง ภาพวาดแปลกใหม่ มีสีสัน และลูกเล่นมากขึ้น
เช่น ไอเท็มสุดฮิตของเด็กๆ ยุค 90s เห็นจะเป็น ส.ค.ส. กากเพชรที่ต้องเอามาอวดเพื่อนๆ ในห้องเรียนทุกเช้า นั่นคงเป็นความทรงจำครั้งล่าสุดที่มีต่อส.ค.ส. ก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับการมาเยือนของ SMS และอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้คำอวยพรส่งถึงผู้รับรวดเร็วทันใจกว่าการเขียนการ์ดใบเล็กๆ
ปีใหม่ของพวกเราค่อยๆ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จนแทบไม่ทันได้สังเกตว่า ส.ค.ส.ค่อยๆ หายไปจากบนแผงในร้านค้า พร้อมๆ กับสิ่งพิมพ์อื่นๆ
แต่เมื่อไหร่ที่ได้กลับไปเปิดกล่องใบเก่า และหยิบ ส.ค.ส.เหล่านั้นขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ก็ทำให้พบว่า นอกจากข้อความบนบัตรจะชวนให้อิ่มเอมใจแล้ว ความทรงจำอันอบอุ่นของปีใหม่ ยังบันทึกอยู่ใน ส.ค.ส.ใบนั้นและชวนให้ระลึกถึงอยู่เสมอ
- John Hanc.The History of the Christmas Card.https://www.smithsonianmag.com/history/history-christmas-card-180957487/
- The Editors of Encyclopaedia Britannica.Greeting card. https://www.britannica.com/topic/greeting-card
- พัชรเวช สุขทอง.กำเนิดส.ค.ส. ในไทยเริ่มจากเจ้านาย…พระองค์ทรงส่งให้ใคร?. https://www.silpa-mag.com/culture/article_14070
- รักษ์ มนตรี.ส.ค.ส..https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636569
- หอจดหมายเหตุ.ส.ค.ส. ฉบับแรกของสยาม. http://catholichaab.com/main/index.php/research-and-study/research-and-study/628-2015-10-30-03-52-08