©ulture

“ปัญหาพวกนี้ผมเจอมานานมาก ตั้งแต่ยังเด็กๆ ตอนนี้ผมเริ่มจะแก่แล้ว แต่มันก็ไม่เคยหมดไป” 

เขม – ศศิศ สุวรรณปากแพรก ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ก่อตั้งกลุ่ม Living Spirits เล่าถึงความเสื่อมโทรมในเมืองหลวง

common i gone wild
เขม – ศศิศ สุวรรณปากแพรก ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ก่อตั้งกลุ่ม Living Spirits

ในวัยเด็กที่เรายังศรัทธาในความฝันและความหวังอย่างแรงกล้า  หนึ่งในนั้นคงมีใครสักคนที่อยากจะเห็นว่าเมืองที่เราอาศัยนั้นจะดีขึ้นได้กว่าที่เป็นอยู่

แต่เมื่อเติบโตแล้ว ‘ความจริง’ ในข้อนี้กลับทำให้เราเจ็บปวด เพราะในทุกวัน เรายังเดินบนฟุตบาทแคบๆ ที่ต้องลุ้นตลอดเวลาว่าจะมีหลุมอยู่ตรงไหน หรือในวันฝนตก ที่ควรจะได้สัมผัสบรรยากาศแสนสบายกลับกลายเป็นวันแห่งหายนะ ที่ไม่มีใครอยากพบเจอ

‘ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์ผู้กล้าแกร่งกว่าสัตว์ชนิดไหนๆ กลับต้องต้องพ่ายแพ้ให้กับพิษของเมืองหลวง’

‘ความจริง’ เหล่านี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ ‘Living Spirits’ กลุ่มศิลปิน Installation ชาวไทย สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในนิทรรศการ I GONE WILD (everyday) ขึ้นมา ด้วยความหวังว่าอยากจะชวนให้คนที่ได้เสพงานเหล่านี้กลับไปมอง ‘ความจริง’ ของสังคมที่เราอาศัยอยู่อีกครั้ง ผ่านเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีสีสันของสัตว์หลากชนิด

“คนไทยเราคุ้นชินกับการใช้คำเกี่ยวกับสัตว์ มาตั้งแต่สมัยก่อน เช่น ชี้โพรงให้กระรอก ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง คำพวกนี้มันอยู่กับเรามานาน และเราก็ยังใช้คำพวกนั้นอยู่ในชีวิตประจำวัน ผมเลยใช้คำพวกนี้มาสร้างชิ้นงาน ซึ่งเราสามารถสร้างคำเปรียบเปรยสุภาษิตเหล่านี้ได้ เราเลยทำทั้งรูปแบบของงานปั้น และงานภาพที่สะท้อนความจริงในอีกมุมมองหนึ่ง” เขมเล่าให้ฟังถึงที่มาของงานศิลปะ

นิทรรศการนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ภาพวาดแนว illustrator ที่เรียงรายอยู่บนผนัง และเหล่าประติมากรรมที่ตั้งอยู่ทั่วบริเวณห้องโถง ที่ชวนให้เข้าไปสำรวจ

จับคนมาวาดเป็นสัตว์

คนเราแบ่งแยกตัวเองออกจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพียงเพราะเรามีสมองที่ล้ำกว่า ทั้งที่จริงแล้วมนุษย์เราแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากสัตว์โลกชนิดอื่นๆ เลย นั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดผลงานภาพชุดนี้ขึ้นมา 

“โทนสีที่ใช้คือสีเนื้อและสีน้ำตาล เพราะอยากสื่อเรื่องความเหมือนของคนกับสัตว์ มีการเสียดสีนิดหน่อยเลยออกเป็นสีน้ำตาลหม่น” เขมเล่าถึงความหมายของโทนภาพที่มองแล้วชวนให้ตลกร้ายและหดหู่ไปในคราวเดียวกัน

แต่ละภาพใช้สัตว์ชนิดต่างๆ เปรียบเปรยถึงพฤติกรรมของผู้คนในสังคมปัจจุบันได้อย่างน่าขบขัน แม้โลกจะเจริญขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน แต่นั่นกลับเป็นช่องว่างให้เราได้แสดงสันดานดิบตามธรรมชาติออกมา ทั้งความเห็นแก่ตัว ลุ่มหลงมัวเมา อยากมีตัวตน ฯลฯ ไม่ต่างกับสัตว์ชนิดอื่น

 

‘ส่องกระจก ชะโงกดูความจริง’ ผ่านเทคโนโลยี AR

“เราเชื่อว่าความจริงมีสองด้านเสมอ ถ้าตั้งใจมองเราจะเห็นอีกด้านที่ซ่อนอยู่ ความจริงนี้มันอาจจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น” เขมเล่า

ในอีกส่วนของนิทรรศการ สี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่งถูกย่อส่วนกลายเป็นงานประติมากรรมขนาดเล็กจัดวางเป็นทรงสี่เหลี่ยม สีเทาอ่อนๆ ทำให้ดูเหมือนงานปูนปั้น แต่ที่จริงแล้วเป็นการพิมพ์สามมิติ (3D print) ทำให้เรายังพอเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อันไม่ประณีตของเครื่องพิมพ์ ที่สื่อให้เห็นความฉาบฉวย เกิดง่าย  สลายเร็วของปัจจุบัน 

หากมองผิวเผิน งานชิ้นนี้คงเป็นประติมากรรมธรรมดาที่จำลองเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดในเมืองหลวง แต่เพื่อให้ผู้ชมได้เห็น ‘ความจริง’ อีกด้าน ศิลปินจึงใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยเฉลยอีกมุมมองที่ซ่อนอยู่ 

common i gone wild

ทุกวันนี้ บนถนนบางเส้น ผู้คนยังข้ามถนนโดยไม่ใช้ทางม้าลาย นี่เป็นหนึ่ง ‘ปัญหา’ อันแก้ไม่ตกที่ศิลปินจำลองมาเป็นผลงานขนาดย่อมในวันนี้ หากมองด้วยตาบนทางม้าลายนั้นว่างเปล่าและเงียบเหงา แต่เมื่อมองผ่านกระจกดิจิตอล น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย ที่เราสามารถเห็นม้าลายตัวใหญ่กำลังเดินข้ามถนนอย่างสง่าผ่าเผย ชวนให้คิดตามว่าหรือที่จริงแล้ว ‘ทางม้าลาย…ก็คงมีไว้สำหรับแค่ม้าลายเท่านั้น’

นอกจากทางม้าลายอันไร้ความหมายแล้ว ในนิทรรศการยังมีอีกหลายเหตุการณ์ในชีวิตแต่ละวันของคนเมือง ที่กลายมาเป็นปัญหาอันแก้ไม่ตกและรอให้เราไปหา ‘ความจริง’ อีกด้าน

common i gone wild

เมืองและสังคมยังเป็นเช่นเดิมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และคงยังจะเป็นแบบนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้ แต่ท่ามกลางความสิ้นหวังเหล่านี้ Living Spirits ยังคงหวังว่างานศิลปะของพวกเขาจะช่วยให้ผู้คนที่ได้พบเห็นตีความ ขบคิด และค้นพบความหมายในแบบของตัวเอง และหัวเราะไปกับความตลกร้ายของเมืองกรุงฯ

“เราอาจจะแก้ปัญหาจริงๆ ไม่ได้ แต่เราสามารถใช้งานศิลปะมาช่วยได้ มันช่วยปลดปล่อยความรู้สึก และความคิดของเราออกมา คนมาดูอาจจะได้รับความรู้สึกนั้นไปด้วย ท้ายสุดแล้วมันจะนำไปสู่การตระหนักรู้ หรือปรับปรุงพฤติกรรมบางอย่าง ทุกอย่างมันน่าจะดีขึ้นได้ แต่ถ้าไม่ ขอแค่ดูแล้วมีความสุขก็พอใจแล้วครับ”

เขมทิ้งท้าย.

 

นิทรรศการ I GONE WILD (everyday) จัดแสดงที่ Joyman Gallery 

ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00 – 20.30 น. (เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)

Facebook : Living Spirits , Instagram :livingspirits.art

ขอบคุณภาพจากนิทรรศการ I GONE WILD (everyday)