นอกจากผิดหวังในความรัก คงมีบ่อยครั้งที่คนเราผิดหวังกับ ‘สังคม’
หากเพลงเศร้าเยียวยาคนอกหัก เพลงรักทำให้คนสดใส ‘เพลงเพื่อชีวิต’ คงทำหน้าที่ช่วยบรรเทาอาการป่วยใจในวันที่บ้านเมืองไม่เป็นดั่งหวัง
ในอดีตเพลงเพื่อชีวิตมีเนื้อหาพูดถึงชีวิตอันยากลำบากของชนชั้นล่าง ก่อนจะเฟื่องฟูและได้รับความนิยามอย่างกว้างขวางในวันที่ประเทศไทยเผชิญกับการเมืองอันร้อนระอุของเดือนตุลาคม 2516 เมื่อประชาธิปไตยไม่ผลิบาน เหล่าศิลปินจึงเริ่มเขียนบทกวี กลอน และแต่งเพลงเพื่อแสดงจุดยืนไปพร้อมกับเยียวยาความชอกช้ำของตัวเองและสังคม
จนกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่เข้ามาทวนกระแสเพลงลูกทุ่งและลูกกรุงในขณะนั้น
ทว่าเมื่อเวลาเปลี่ยน โลกเปลี่ยน แต่ดูเหมือนบางสิ่งไม่เคยเปลี่ยน ความเหลื่อมล้ำ อำนาจของเงินตรา ทุนนิยม และความอยุติธรรมไม่เคยทุเลาลง นั่นเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ศิลปินทุกยุคเขียนเพลงสะท้อนสังคมออกมา
หากคุณอยากรู้ว่า ปัญหาของสังคมวันนี้คืออะไร common ขอชวนมาทำความรู้จักกับวงดนตรี ‘นีโอเพื่อชีวิต’ เหล่าคนรุ่นใหม่ ที่มาตีแผ่ความจริงในยุคสมัยของพวกเขาผ่านบทเพลง
ภูมิจิต (Poomjit)
Found and Lost เป็นอัลบั้มแรกของภูมิจิต ที่ปล่อยในปี 2551 พวกเขาเล่าเรื่องของโลกสมัยใหม่อันเป็นผลผลิตของทุนนิยมที่กำลังผลิบาน และพาให้ตั้งคำถามและหาคำตอบไปด้วยกันว่า ‘แท้จริงแล้วมนุษย์ต้องการอะไร’
ภูมิจิต ได้ฝากประสบการณ์และร่องรอยการเดินทางไว้ในบทเพลง เห็นได้ว่าพวกเขาเติบโตไปพร้อมๆ กับโลกที่กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว และเรื่องราวเหล่านั้นก็ถูกนำมาเล่าให้พวกเราฟังอย่างไม่รู้จบในแต่ละอัลบั้ม
พวกเขาเป็นเหมือนตัวแทนของคนที่ได้รับแรงกดดันจากการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังโดนความเหลื่อมล้ำซ้ำเติมอยู่ทุกวัน เพลงของภูมิจิตคงเป็นเหมือนเพื่อนที่จะช่วยตบบ่าแล้วบอกกับเราว่า
“ไม่เป็นไร นายยังมีเรา”
New World Order
Album : Found and Lost (2008)
Label : Tata Studio
Migrate to the Ocean
วงดนตรีนอกกระแสจากเชียงใหม่ ที่แสดงสดได้สุดเหวี่ยงทุกครั้งที่ได้ชม บทเพลงที่ร้อยเรียงถ้อยคำดั่งบทกวีนั้นเป็นเหมือนยานลำหนึ่งที่พาเราเข้าไปสำรวจมนุษย์และสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความศรัทธา คนชายขอบ อำนาจ บ้านเมือง จิตวิญญาณ และความหมายของชุดความคิดต่างๆ
สิ่งที่ทำให้ Migrate to the Ocean มีลายเซ็นที่ชัดเจนก็คือการร้องที่หลากหลาย ทั้งแร็ป เล่า ร้องเป็นทำนอง และแทรกคำพูดที่ชวนให้ฉุกคิดไว้ตลอดทั้งเพลง
อีกา (Night ‘s Watch)
Single : 2017
Label : Minimal Record
TaitosmitH (ไททศมิตร)
วงดนตรีจากอีสานที่ตั้งใจจะใช้บทเพลงบอกเล่าด้านที่ไม่ได้สวยงามของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง คุณภาพชีวิต หรือความฉาวโฉ่ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม
ทั้งหมดนี้ถูกนำมาเล่าอย่างตรงไปตรงมาด้วยดนตรีร็อกแบบดุดันและเนื้อเพลงที่สอดแทรกภาษาท้องถิ่น ทำให้เพลงมีกลิ่นอายที่มีเอกลักษณ์
แม้การเผชิญกับความจริงที่ปรากฏอยู่ในเนื้อหาเพลงจะชวนให้เจ็บใจ แต่ไททศมิตรก็ทำให้เราดื่มด่ำความขมขื่นนั้นได้ง่ายดาย ทั้งยังเป็นรสชาติที่มีสเน่ห์ เหมือนค็อกเทลที่ถูกชงอย่างพิถีพิถันโดยฝีมือบาร์เทนเดอร์ที่หาตัวจับได้ยาก
แดงกับเขียว
Single : 2019
Label : Gene Lab
YENA (เยนา)
3 หนุ่มชาวกรุงที่เติบโตและใช้ชีวิตแบบคนเมืองทั่วไป แต่มาจับมือกันทำเพลงเพื่อเข้าใจคนทุกชนชั้นในสังคม แม้วงจะเดินทางมานานกว่า 9 ปี แต่พวกเขายังเชื่อมั่นว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่เคยหมดไป และยังมีอะไรให้พูดถึงอีกมากมาย
‘เยนา’ เป็นวงดนตรีที่มีเพลงในเนื้อหาหลากหลาย เล่าถึงความคับข้องใจเล็กๆ ของผู้คน ไม่ว่าจะเรื่องราวของเด็กชายผู้นับถือศาสนาอิสลาม ความจริงของหญิงสาวผู้เข้ามาเป็นคนใช้ในเมือง สงคราม และความเป็นมนุษย์
บางเพลงมีเนื้อหาตลกร้าย หลายเพลงเป็นบทกวีที่งดงาม คลอด้วยดนตรีร็อกนิดๆ บลูส์หน่อยๆ เป็นส่วนผสมอันพอเหมาะพอดีที่ทำให้เพลงของเยนามีลายเซ็นที่ชัดเจน
โถขี้
Single : 2016
Label : อิสระ
Bomb at Track
‘Bomb at Track’ เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ออกมาตีแผ่สังคมในมุมมองที่ผ่านสายตาของพวกเขาและระบายความอัดอั้นใจนั้นอย่างตรงไปตรงมาผ่านดนตรีเมทัลดุดันและแร็ปที่เดือดดาล
ความอยุติธรรม เหลื่อมล้ำ อำนาจของเงินตราคือความเป็นจริงของสังคมที่ไม่น่าอภิรมย์ ทำให้พวกเขาเขียนเนื้อเพลงอันเป็นรสชาติแปลกใหม่ออกมา ทั้งเสียดสี ประชดประชัน บ้างบอกว่ารุนแรง และอาจดูเป็นขบถในสายตาผู้ใหญ่
แต่สำหรับพวกเขา นั่นเป็นเพียง ‘ความจริง’ ที่ไม่มีใครกล้าพูดมันออกมาตรงๆ เท่านั้นเอง
อำนาจเจริญ
Single : 2016
Label : Wayfer Records
เพลงเพื่อชีวิตที่เขียนจากปลายปากกาของเหล่าศิลปินยุคใหม่เหล่านี้ อาจไม่ใช่แค่เครื่องบันทึกความเสื่อมโทรมแห่งยุคสมัยเพื่อตอกย้ำความเป็นจริงเพียงอย่างเดียว
แต่ยังเป็นช่องทางให้ผู้คนได้สื่อสาร เยียวยา มองเห็นปัญหา และหมุนให้โลกของเราเข้าร่องเข้ารอยอย่างที่ควรจะเป็นอีกครั้ง