©ulture

ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ที่ใครบางคนจะเลือกหยิบ ‘หนังสือแนวสยองขวัญระทึกขวัญ’ สักเล่มมาอ่าน เว้นแต่เป็นคอหนังสือแนวนี้อยู่ก่อนแล้ว

เพราะการอ่านหนังสือที่มีเนื้อเรื่องน่ากลัว จำเป็นต้องใช้ ‘ความกล้า’ ในตัวผู้อ่าน ทั้งกล้าเผชิญหน้ากับความสั่นประสาทผ่านตัวหนังสือ กล้าสอดรู้สอดเห็นในเรื่องลี้ลับ กล้าสัมผัสกับความรู้สึกขยะแขยงที่คนอื่นๆ ต่างเบือนหน้าหนี และกล้าเสี่ยงหากเรื่องที่อ่านอาจไม่ทำให้ขวัญหนีดีฝ่ออย่างที่คาดไว้

ไม่สำคัญว่าใครจะชอบหรือชังเรื่องเหนือธรรมชาติและความผิดมนุษย์มนา แต่การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้กล้า ย่อมทำให้ค้นพบโลกการอ่านใบใหม่ที่ผิดแผกและแตกต่างจากหนังสือประเภทอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง 

หวังว่าหนังสือใหม่ทั้ง 13 เล่ม ที่ becommon ตั้งใจคัดสรรมาจากหลากหลายสำนักพิมพ์ภายใน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 จะทำให้ใครสักคนลองกล้าพาตัวเองท่องเข้าไปอยู่ในโลกของเรื่องราวเขย่าขวัญสักครั้ง (หรือครั้งแล้วครั้งเล่า) และหวังว่าสติจะยังคงสถิตอยู่กับตัวของทุกคนตลอดการเดินทาง

 

1
รวมเรื่องสั้น ชุด หลอน

‘หลอน’ เป็นความรู้สึกพิศวง เพราะต่อให้มั่นใจว่ามีสติรู้ตัวดีอยู่ตลอด ก็ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าความรู้สึกชวนขนลุกซู่นี้จะเกิดขึ้นตอนไหน จนกว่าจะได้ประจันหน้ากับสิ่งวิปลาสที่ชีวิตที่เคยคาดคิดมาก่อน

แม้ความรู้สึกหลอนของแต่ละคนจะแตกต่างกันตามแต่ประสบการณ์และความกลัว แต่เรื่องสั้นและความเรียงของ ‘เอโดะงาวะ รัมโป’ นักเขียนนวนิยายสยองขวัญและสืบสวนสอบสวนผู้ยิ่งใหญ่ ทั้ง 6 เรื่อง ซึ่งประกอบไปด้วย วิปริตพิศวาส ฝันกลางวัน ขุมนรกกระจกเงา มรณกรรมของคนละเมอ สิเน่หาอมนุษย์ และตุ๊กตา ย่อมกระตุกขวัญของทุกคนให้สั่นไหวถึงขีดสุดได้ และเหมาะเป็นผลงานชิมลางสำหรับใครก็ตามที่ปรารถนาสัมผัสความกลัว โดยมีรัมโปเป็นผู้หยิบยื่นให้

เพราะแท้จริงแล้ว ความหลอนเกิดขึ้นได้ง่ายดายเกินกว่าที่คาดคิด บ้างแค่เห็นหน้ากากก็ละเมอเพ้อว่ากำลังแสยะยิ้มให้ บ้างเห็นมุมห้องสลัวแล้วรู้สึกเหมือนเงามืดวูบไหว บ้างเห็นภาพสะท้อนบนกระจกฝ้ามัวเป็นใบหน้าคนอื่น เป็นความหลอนที่ปราศจากผีและวิญญาณใดๆ

อีกด้านของความหลอน ยังสะท้อนกระแสความนิยมของสังคมญี่ปุ่นในยุคแห่งอิสรเสรีที่ผู้คนแสวงหาสิ่งแปลกพิสดาร วนเวียนอยู่กับแรงปรารถนา กามารมณ์ และความวิปริตผิดครรลอง กลายเป็นกับดักอันหอมหวานเย้ายวนให้มนุษย์หลงมัวเมาไม่สิ้นสุด

แปลจาก: 乱: 芋虫, 白昼夢, 鏡地獄, 夢遊病者の死, ひとでなしの恋, エッセイ「人形」
ผู้เขียน: เอโดะงาวะ รัมโป (Edogawa Ranpo)
ผู้แปล: พรพิรุณ กิจสมเจตน์
สำนักพิมพ์: JLIT
จำนวนหน้า: 204 หน้า
ราคาปก: 270 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: I26

 

2
เรื่องที่ผมจะเล่า มันค่อนข้างน่ากลัวครับพี่

หนังสือรวมเรื่องเล่าสยองขวัญหักมุมโดย ‘บิวและวิน’ แอดมินคารมดีเจ้าของเพจดังอย่าง ไดโนเศร้า และ โดนไล่มาเล่นในนี้ ก่อนต่อยอดมาเป็นเพจ Ghostคือโง่ โมโหคือบ้า จากความหลงใหลวิถีของผีและความชอบฟังเรื่องลี้ลับชนิดที่ว่าเข้าใจลึกซึ้งแบบทะลุปรุโปร่ง แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ให้ตอนจบของแต่ละเรื่องหักมุมจนผู้อ่านเดากันไม่ถูก

ในเล่มเดียว ผู้อ่านจะได้พบประสบการณ์ลึกลับทั้งผีไทย ผีเทศ ปอบ เปรต เจ้าที่ ผีถ้วยแก้ว ผีในรถ ผีในตู้ ผีตายทั้งกลม เครื่องราง ของอาถรรพ์ ศาสตร์มืด เจ้าป่าเจ้าเขา ยายสปีด กุมารทอง นางตานี ผีโบกรถ และเหล่าวิญญาณที่รอการแก้แค้น เป็นรสชาติฉูดฉาดคลอเสียงระนาดเคล้ากลิ่นน้ำอบไปตลอดการอ่าน แหวกขนบทุกเรื่องผีที่ทุกคนเคยได้ยินมา แต่ยังคงกลิ่นอายความน่ากลัวไม่ต่างจากฟังในคลื่นวิทยุ

นอกจากนี้ ภาพความสยองทั้งหมดที่ใช้ประกอบเรื่องเล่า เป็นผลงานของ ‘อาจารย์โต้ด โกสุมพิสัย’ ศิลปินชั้นครู ผู้วาดภาพการ์ตูนผีไทยมานานกว่าครึ่งศตวรรษ มาฝากลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ด้วย

ผู้เขียน: เดชาธร อยู่ยืน และ วิธวินท์ อมรรัตนศักดิ์
สำนักพิมพ์: Avocado Books
จำนวนหน้า: 272 หน้า
ราคา: 275 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: J31

 

3
คาร์มีลลา

ภาพจำของ ‘แวมไพร์’ มักถูกผูกขาดอยู่คู่กับสุภาพบุรุษผู้เพียบพร้อมและใช้สิ่งที่ตนมีเป็นกับดักเพื่อล่อลวงหญิงสาวมาคร่าชีวิต นั่นคือรูปโฉมงดงามจนบรรดาผู้พบเห็นต่างหมายปอง ทว่าภาพจำนั้นกลับมีต้นกำเนิดมาจากวรรณกรรมเล่มนี้ เพราะจุดแรงบันดาลใจให้ บราม สโตเกอร์ (Bram Stoker) ลงมือเขียนเรื่องราวของ เคานต์แดรกคูลา

แต่ ‘คาร์มีลล่า’ ไม่ใช่บุรุษเพศ เธอคือสตรีงดงามผู้มาเยือนยามวิกาล ยังปราสาทเปลี่ยวดายท่ามกลางเทือกเขาอันไกลโพ้น ที่ซึ่งสตรีสูงศักดิ์นามว่า ลอร่า อาศัยอยู่กับบิดา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด หลังจากเธอได้ตัดสินใจเปิดประตูต้อนรับคนแปลกหน้า ทุกอย่างในชีวิตก็ถึงคราวต้องเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ

เภทภัยพิศวงจึงค่อยๆ กล้ำกรายถิ่นแคว้นโดยรอบอย่างเงียบเชียบ เกิดเป็นเงื่อนงำลึกลับภายในปราสาทซึ่งเผยออกมาทีละน้อย หรือรอยยิ้มของคาร์มีลลาที่ดึงดูดใจลอร่าได้เพียงแรกเห็นจะซ่อนปริศนาบางอย่างเอาไว้ แล้วอะไรคือความหมายของแววตาโหยละห้อยที่คาร์มีลลามองมาอยู่ไม่ขาดกันแน่

นี่คือวรรณกรรมตามขนบนวนิยายกอธิคบอกเล่าความสยองขวัญผ่านบรรยากาศความเชื่อเรื่องผีสางในยุควิคตอเรียซึ่งมีฉากหลังเป็นยุโรปตะวันออกท่ามกลางบรรยากาศลึกลับและแฝงด้วยความรู้สึกวาบหวาม เพราะตั้งคำถามและท้าทายกรอบความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวในสมัยนั้น

แปลจาก: Camilla
ผู้เขียน: โจเซฟ ช. เลอฟานู (Joseph S. LeFanu)
ผู้แปล: เพียงออ พัชรสรวุฒิ
สำนักพิมพ์: วรรข
จำนวนหน้า: 160 หน้า
ราคาปก: 235 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: D01 (ร้านหนังสือก็องดิด/ระหว่างบรรทัด), I48 (มติชน), J31 (อะโวคาโด), J34 (อ่าน), M31 (Words Wonder), N36 (บทจร), N39 (กำมะหยี่) 

 

4
ผีญี่ปุ่นและตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญ

ตำนานผีสางและปีศาจร้ายที่เร้นร่างอยู่ใต้เงามืดหลังอาทิตย์อุทัยลาลับขอบฟ้า ต่างก็เป็นเรื่องน่าเกรงขามให้คนที่ปักใจเชื่อว่า ‘ผีมีอยู่จริง’ ได้รวบรวมความกล้าเท่าที่มีในชีวิต เพื่อเล่าขานถึงความเฮี้ยนของบรรดาภูตผีคิดอาฆาต

เช่นเดียวกับ ‘ลาฟาดิโอ เฮิร์น’ นักเขียนชาวไอริชเชื้อสายกรีก ผู้หลงเสน่ห์ตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นและเชื่อเรื่องผี ตั้งใจบันทึกความน่ากลัวของผีญี่ปุ่นเอาไว้เป็นหลักฐานความสยดสยอง อย่างเรื่องการแก้แค้นของคนตายที่ลุกขึ้นมาปลิดชีพคนเป็น รักต้องห้ามของเจ้าสาวผีสิง ภาพวาดที่มีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง นักบวชผู้โปรดปรานรสชาติเนื้อมนุษย์ และอสุรกายโบราณที่ไม่มีใครอยากเจอ

เรื่องผีเหล่านี้ในหนังสือจึงแตกต่างจากเรื่องผีของนักเขียนร่วมสมัยเดียวกันทั้ง โจเซฟ ช. เลอฟานู เจ้าของงานเขียนเรื่องคาร์มิลลา และ บราม สโตเกอร์ เพราะเฮิร์นไม่ได้สร้างผีขึ้นมาจากจินตนาการเพียงอย่างเดียว แต่ผูกโยงลักษณะของผีให้สอดคล้องกับตำนานพื้นบ้านและความเชื่อดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น จนสำเร็จเป็นผลงานวรรณกรรมระดับคลาสสิกที่คงส่วนผสมระหว่างความน่ากลัวและความสนุกเอาไว้ได้อย่างลงตัว

แปลจาก: Japanese Ghost Stories
ผู้เขียน: ลาฟคาดิโอ เฮิร์น (Lafcadio Hearn)
ผู้แปล: ชลดา ไพบูลย์สิน
สำนักพิมพ์: แอร์โรว์
จำนวนหน้า: 304 หน้า
ราคาปก: 295 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: F07

 

5
บ้านวิกลคนประหลาด

บ้านหนึ่งหลังที่ภายนอกดูธรรมดา ใครได้เห็นก็ว่าเป็นบ้านดาษดื่น แต่ถ้าพิจารณาผันภายในอย่างถี่ถ้วนอีกที กลับพบความพิลึกพิลั่นน่าฉงนแอบแฝงอยู่อย่างแนบเนียน มีเพียงสายตาของคนช่างสังเกตเท่านั้นที่มองเห็นความบิดเบี้ยวชวนขนลุก เกิดเป็นความน่าสงสัยจนนำไปสู่ความพยายามค้นหาความจริง

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากเจ้าของบ้านรายหนึ่งสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของบ้านมือสองที่เพิ่งซื้อมา จึงไหว้วานให้ผู้เขียนช่วยสืบหาต้นตอและเบื้องลึกของความไม่ปกติที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในบ้านหลังนั้น 

นี่คือนิยายที่ตีแผ่เรื่องสืบสวนอสังหาฯ โดยนักเขียนอิสระชาวญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญเรื่องลึกลับ ซึ่งขยายความมาจากคลิปวิดีโอที่เขาเคยอัปโหลดลงช่องยูทูบของตัวเองเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 ก่อนจะกลายเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา ด้วยจำนวนเข้าชมมากกว่า 11 ล้านครั้ง

แม้จะน่าสะพรึงกลัวและเหลือเชื่อในคราวเดียวกัน แต่กลวิธีที่ผู้เขียนเลือกใช้ ยิ่งทำให้เนื้อหาตลอดทั้งเล่มน่าติดตามและปลุกเร้าจินตนาการของผู้อ่านเสมือนว่ากำลังเดินสำรวจทุกซอกมุมของบ้านตามลำพังท่ามกลางบรรยากาศไม่ชอบมาพากล รู้ตัวอีกทีกลายเป็นว่าอ่านจบรวดเดียว

แปลจาก: 変な家
ผู้เขียน: อุเก็ตสึ (Uketsu)
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
สำนักพิมพ์: Bibli
จำนวนหน้า: 232 หน้า
ราคาปก: 265 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: J35

 

6
รัฐสยดสยอง

เมื่อกระแสลมแห่งความศิวิไลซ์จากตะวันตกพัดพาเข้าสู่สยามประเทศ รัฐจึงต้องการอำพรางกลิ่นอายความเป็นอนารยะเอาไว้ให้มิด เพื่อก้าวสู่ความเป็นอารยะในสายตาผู้มาเยือน

หนึ่งในภารกิจสำคัญที่ชนชั้นนำเลือกทำอย่างเร่งด่วนก็คือ มุ่งหมายกำจัดทุกสิ่งอย่างที่เป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความล้าสมัยไม่พัฒนาให้ปลอดพ้นไปจากพื้นที่สาธารณะ โดยปัดกวาดความอุจาดไว้ในพื้นที่ลับเฉพาะให้ห่างจากสายตาผู้คน ผ่านกลไกการสร้าง ‘ระบอบความสยดสยอง’ (regime of horror)

รัฐสยามจึงใช้ความสะพรึงกลัวทั้งการจัดการซากศพ ความโสโครก โรคระบาด รวมถึงการลงทัณฑ์ทรมาน เป็นเครื่องมือควบคุมราษฎรให้อยู่ใต้อาณัติ ไม่ให้ใครหน้าไหนมาสร้างรอยมลทินแก่รัฐอันศิวิไลซ์ได้

หลังภาพความศิวิไลซ์ที่ดูเจริญตา จึงมีแต่สิ่งโสมมชวนขนพองสยองเกล้า ต่อให้รัฐสยามจะพยายามซุกซ่อนไว้ขนาดไหน กลับไม่เคยปกปิดได้มิดชิด ท้ายที่สุดย่อมมีกลิ่นคาวเลือดเน่าเหม็นหลุดรอดออกมาคละคลุ้งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ผู้เขียน: ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์
สำนักพิมพ์: มติชน
จำนวนหน้า: 352 หน้า
ราคาปก: 340 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: I48

 

7
บนเนินมรณะ

มีตำนานเล่าขานว่า หากใครเดินผ่านเนินฮิราซากะเพียงลำพัง จะพบคนแปลกหน้าหยิบยื่นของกินให้ หากใครเผลอรับของมากินเข้า จะต้องกลายเป็นพลเมืองของโลกแห่งความตาย เพราะนั่นไม่ใช่คน แต่เป็นวิญญาณเร่ร่อน

รวมเรื่องสั้น 12 เรื่องจากปลายปากกาของ ‘อิมามุระ อายะ’ นักเขียนชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงานแนวสืบสวนสอบสวนที่อวลกลิ่นอายสยองขวัญชวนขนลุกและหักมุมครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกินคาดเดา

นอกจากเรื่องเอกอย่าง ‘บนเนินมรณะ’ ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าลุกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ‘เสียงกระซิบจากกระจกเงา’ เมื่อหญิงสาวได้รับของตกทอดมาจากคุณย่า เป็นกระจกหยั่งรู้อนาคต แต่แล้ววันหนึ่ง เธอกลับส่องเห็นใบหน้าตัวเองเปื้อนเลือด ซ้ำยังมีสีหน้าคล้ายกำลังเผชิญสิ่งน่ากลัวสุดขีด ทว่าภาพที่เห็นกลับกระตุ้นเร้าให้เธอตัดสินใจทำสิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่า

หรือ ‘หารครึ่ง’ หลังจากสามีขอแยกทางกับภรรยาผู้ยึดติดกับแนวคิดหารสอง ทั้งคู่จึงต้องแบ่งทุกอย่างที่เคยใช้ร่วมกันเป็นคนละครึ่ง ทุกอย่างดูราบรื่นจนกระทั่งมีบางสิ่งที่หารไม่ลงตัว ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์สุดสะพรึง

ไม่ว่าบทสรุปของแต่ละเรื่องจะลงเอยอย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่ทุกเรื่องคงไว้เหมือนกัน คือ บีบเค้นอารมณ์ให้ลุ้นระทึก และขับเน้นให้พยายามคิดไขปริศนาโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกล่อให้หลงทาง

แปลจาก: よもつひらさか
ผู้เขียน: อิมามุระ อายะ (Aya Imamura)
ผู้แปล: ฉวีวงศ์ อัศวเสนา
สำนักพิมพ์: Hummingbooks
จำนวนหน้า: 360 หน้า
ราคา: 349 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: M01

 

8
UNTITLED CASE: PIECE / MAKER คน / สับ / สิ่งของ

ไม่มีสิ่งใดจะน่ากลัวและน่าสยดสยองได้เท่าสิ่งที่มนุษย์เรากระทำต่อกันด้วยความโหดเหี้ยม

หนังสือเล่มนี้เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมและทฤษฎีสมคบคิดรวม 20 เรื่อง โดยแต่ละเรื่องต่างผูกโยงอยู่กับสิ่งของเครื่องใช้รอบตัว 10 ชิ้น

ตั้งแต่กระเป๋าเดินทางกลางทะเลที่มีชิ้นส่วนมนุษย์เป็นสัมภาระอยู่ด้านใน วิดีโอเทปความยาวกว่า 18 ชั่วโมงว่าด้วยความรักและความแค้นที่มีต่อศิลปินคนโปรด จดหมายสารภาพผิดของคนร้ายที่ส่งมาช้าไป 16 ปี ปลอกคอสุนัขที่เกี่ยวพันกับการฆาตกรรมอำพราง กล่องบรรจุตุ๊กตาไซซ์เสมือนคน รวมถึงนาฬิกา ยา ภาพถ่าย กระทั่งส้วม ที่ครั้งหนึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เคยเกี่ยวพันกับความตาย

พาแกะรอยสิ่งของต้องสงสัย เพื่อไขปริศนาและตามหาตัวคนผู้อยู่เบื้องหลังโดย ‘ยช’ และ ‘ธัญ’ คู่หูผู้เสพติดเรื่องจริงที่น่ากลัวยิ่งกว่าเรื่องแต่ง โฮสต์พอดแคสต์รายการ Untitled Case และเจ้าของผลงานหนังสือ Untitled Case: Human Horror ชมรมคนหัวลุก

ผู้เขียน: ยชญ์ บรรพพงศ์ และ ธัญวัฒน์ อิพภูดม
สำนักพิมพ์: Salmon Books
จำนวนหน้า: 272 หน้า
ราคาปก: 330 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: G39

 

9
เทือกเขาแห่งความวิปลาส

ด้วยผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งแตกต่างจากนิยายสยองขวัญเรื่องอื่นๆ จึงเป็นที่ยอมรับกันอย่างยาวนานว่า ‘เอช.พี.เลิฟคราฟท์’ คือผู้บุกเบิกแนวทางของนิยายสยองขวัญในแบบฉบับของตัวเองมาตั้งแต่ปี 1931 เพราะเขาริเริ่มสร้างความกลัวรูปแบบใหม่ที่สั่นสะเทือนความรู้สึกภายในของมนุษย์ให้หวาดหวั่นขณะเดียวกันก็ยังน่าคลั่งไคล้ ผ่านตำนานปรัมปรา อสุรกายโบราณ ลัทธิบูชาปีศาจ และภาษาของอมนุษย์ ทั้งหมดคือสิ่งใหม่ที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนในแวดวงงานเขียนแนวไซไฟสยองขวัญ

สำหรับ ‘เทือกเขาแห่งความวิปลาส’ เป็นอีกหนึ่งผลงานเล่มสำคัญที่ตีแผ่มุมมืดและความโหดร้ายทั้งจากธรรมชาติและจิตใจของมนุษย์ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาน้ำแข็งลึกลับในทวีปแอนตาร์กติกา

ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวน่าสะพรึงกลัวภายในเล่ม คือนักธรณีวิทยาผู้นำคณะเดินทางสำรวจที่เอาชีวิตรอดกลับมาจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ขณะออกค้นหาฟอสซิลและหลักฐานที่บ่งบอกว่าความเย็นยะเยือกของน้ำแข็งได้เก็บรักษาลมหายใจของบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ คล้ายกับว่าทำให้มันจำศีลเพื่อรอวันตื่นขึ้นมาล่าอย่างไร้ความปรานี

ในสายตาของผู้ติดตามผลงานเลิฟคราฟท์ ต่างยกย่องให้เรื่องเล่าประสบการณ์วิปลาสที่คงมีแต่ความตายเท่านั้นจะทำให้ลืมขุมนรกบนดินนี้ไปได้ ให้เป็นหนึ่งในวรรณกรรมไซไฟสยองขวัญคลาสสิกที่ทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เลิฟคราฟท์เคยเขียนมา และทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20 เพราะเป็นแรงบันดาลใจให้ สตีเวน คิง (Stephen King) เขียนนิยายระทึกขวัญ และ จอห์น คาร์เพนเตอร์ (John Carpenter) สร้างภาพยนตร์ไซไฟสยองขวัญระดับขึ้นหิ้ง

แปลจาก: At the Mountains of Madness
ผู้เขียน: เอช.พี.เลิฟคราฟท์ (H.P. Lovecraft)
ผู้แปล: นภ ดารารัตน์
สำนักพิมพ์: เวลา
จำนวนหน้า: 240 หน้า
ราคาปก: 330 บาท (ปกอ่อน), 430 บาท (ปกแข็ง)
พิกัดบูธ: D03

 

10
ขอเชิญคุณมาชมห้องสะสมอวัยวะของคุณ

ทั่วพื้นที่ทุกตารางนิ้วที่ร่างไร้ลมหายใจของนางแบบสาวนอนเปลือยกายอยู่ แดงฉานไปด้วยเลือดหลั่งทะลัก เพราะทั้งมือและเท้าของเธอถูกตัดหายไป ส่วนผิวหนังทั่วตัวที่เคยห่อหุ้มกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และอวัยวะภายในเอาไว้ ก็ถูกฆาตกรถลกเกลี้ยงจนไม่เหลือเค้าหญิงสาวผู้งดงามเหมือนในรูปถ่าย

มันยังใช้ของมีคมบรรจงกรีดลงบนร่างเหยื่ออย่างวิจิตรเป็นข้อความปริศนาว่า “ความงามอยู่รอบตัวเธอ” 

เมื่อนักสืบมือฉกาจอย่าง โรเบิร์ต ฮันเตอร์ เดินทางมาถึงแล้วเห็นจุดเกิดเหตุทั้งหมด ทั้งกลิ่นคาวเลือดรุนแรงและภาพสะเทือนใจนี้ ทำให้สมองของเขาหยุดทำงานไปชั่วขณะ ก่อนจะวิเคราะห์ถึงวิธีการและเหตุจูงใจของฆาตกรรมวิปริต

สิ่งที่มันทำไว้จึงไม่ต่างจากการทิ้งบัตรเชิญให้เขาตามเยี่ยมชมผลงานศิลปะ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ชิ้นสุดท้าย ตราบใดที่ฆาตกรยังไม่ถูกจับกุม เป็นคดีลุ้นระทึกที่ต่างฝ่ายต้องทำงานแข่งกับเวลา

แปลจาก: Gallery of the Dead
ผู้เขียน: คริส คาร์เตอร์ (Chris Carter)
ผู้แปล: อาสยา ฐกัดกุล
สำนักพิมพ์: น้ำพุ
จำนวนหน้า: 440 หน้า
ราคา: 345 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: F40

 

11
DARK HUMOUR ขำ-ขื่น

หากพูดถึงการ์ตูนอารมณ์ขันที่ไม่ได้หัวเราะร่าด้วยความสนุก แต่เป็นขำขื่นที่ฝืนยิ้มได้ไม่เต็มปากแบบ ‘ตลกร้าย’ เชื่อว่าหลายคนที่เติบโตมาพร้อมกับหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ จะนึกถึงแก๊กเสียดสี แสบๆ คันๆ หรือหยิกแกมหยอกของ ‘นิค ขายหัวเราะ’ เป็นคนแรก

ในความดาร์กที่สร้างความหวาดระแวงหมู่ มีความหมายมากมายซ่อนอยู่ ทั้งสะท้อนความในใจ และจุดประกายความหวัง ที่สำคัญคือคอยตอกย้ำการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากในชีวิตอยู่ตลอดเวลา โดยผู้อ่านได้เรียนรู้ผ่านตัวการ์ตูนที่รับบทเป็นคนบอกเล่าเรื่องราวและเหตุการณ์ตลกร้าย การอ่านการ์ตูนจึงไม่ได้จบลงสมบูรณ์ในแต่ละหน้าที่เปิดผ่าน แต่ยังทำให้ฉุกคิดต่อไปถึงผู้คนและสังคมที่เห็นและเป็นอยู่

‘Dark Humour’ คือหนังสือรวมแก๊กเล่มแรกของนิค ขายหัวเราะที่ให้ได้มากกว่าความบันเทิง เพราะเคลือบแฝงความเข้าใจถึงมิติความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างและหลากหลายซึ่งจะทำให้ผู้อ่านยิ้มออกได้บ้างในวันแย่ๆ

คำเตือน หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และผู้มีภาวะซึมเศร้า เพราะเนื้อหาประกอบไปด้วยความรุนแรง เลือด และการตายในรูปแบบต่างๆ จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณขณะอ่าน

ผู้เขียน: นิค ขายหัวเราะ
สำนักพิมพ์: Banlue Books
จำนวนหน้า: 192 หน้า
ราคาปก: 265 บาท (ปกแข็ง)
พิกัดบูธ: G39 (Salmon Books), K30 (ขายหัวเราะ)

 

12 + 13
ขบวนแห่ศพนักบุญปีเตอร์
เล่มต้น และ เล่มปลาย

คนเป็นได้ทั้งผีที่คอยหลอกหลอนจนกว่าจะตายจากกัน เป็นได้ทั้งอสูรร้ายที่จ้องฉีกทึ้งชีวิตไม่ให้เหลือชิ้นดี แล้วก็เป็นได้มากกว่าปีศาจเพราะร้ายกาจที่ทำทุกอย่างได้เพื่อความพึงพอใจของตนเอง คนถึงซับซ้อนและลึกลับเกินกว่าที่คนด้วยกันเองจะหยั่งถึงความนึกคิดในกมลสันดาน

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกเขยมหาเศรษฐีถูกโชคชะตาเล่นตลก นอกจากไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตในกิจการของตระกูล ยังตกอยู่ในอันตรายเกินคาดฝัง เพราะรถเมล์ที่เขานั่งอยู่ถูกคนร้ายจี้

เหตุการณ์นี้ทำให้มีคนตายแล้วใครบางคนก็ได้รับเงินชดเชยจากคนร้าย กลายเป็นชนวนที่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเรื่องไม่ชอบมาพากล และนำไปสู่การเปิดเผยขบวนการต้มตุ๋นระดับประเทศอันน่าสะพรึงกลัวที่พร้อมเผยให้ทุกคนรู้ว่าความชั่วร้ายสามานย์นั้นเป็นโรคติดต่อได้ และสิ่งที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นคำโกหกที่ไม่มีที่สิ้นสุด

นี่คือหนึ่งในผลงานเล่มสำคัญของราชินีแห่งอาชญนิยายญี่ปุ่นที่ตื่นเต้นที่สุดของซีรีส์ ‘นักสืบซึงิมูระ’ เพราะผู้เขียนใส่ใจรายละเอียดของตัวละคร สะท้อนปัญหาสังคมที่สะเทือนความรู้สึก และแฝงแง่คิดลุ่มลึกเอาไว้ ราวกับได้อ่านนิยายสามเรื่อง

แปลจาก: ペテロのの葬列
ผู้เขียน: มิยาเบะ มิยูกิ (Miyabe Miyuki)
ผู้แปล: บัณฑิต ประดิษฐานุวงศ์
สำนักพิมพ์: ไดฟุกุ
จำนวนหน้า: 316 หน้า (เล่มต้น), 324 หน้า (เล่มปลาย)
ราคาปก: 659 บาท (ปกอ่อน)
พิกัดบูธ: L04

 

Book Expo Thailand 2022

  • มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 จัดขึ้นระหว่าง 12-23 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์