เกิดอะไรขึ้นในโลกทวิตเตอร์ ?
เมื่อ ‘ทวิตเตอร์’ เอื้อให้เราวิจารณ์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างถึงพริกถึงขิง ทำให้แพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เป็นช่องทางสำหรับขับเคลื่อนสังคมในประเด็นต่างๆ อยู่เสมอ
ผู้ใช้หลายยูสเซอร์เลือกที่จะใช้ศัพท์ไทยคำ อังกฤษคำ โดยคำศัพท์ส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย –ize ที่ใช้กันบ่อยๆ เช่น dehumanize, localize หรือ romanticize ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนสถานะ กิจกรรม และพฤติกรรมต่างๆ เพื่อใช้มาอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
บ้างใช้ถูก บ้างใช้ผิดบริบท ทำให้ชาวทวิตเตอร์อีกจำนวนหนึ่งออกมาล้อเลียนการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษเหล่านั้นแบบขำขันด้วยการเติม –ize ลงไปในคำไทยหลายๆ คำ เช่น เราจะทำยังงize (ยังไง) กันดี สบายจize (สบายใจ) หลังจากปรากฏการณ์นี้ก็มีผู้ใช้บางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการล้อเลียนการขับเคลื่อนสังคม
อย่างไรก็ตาม ศัพท์เหล่านั้นมีฟังก์ชันของมันอยู่ เพราะคำสั้นๆ ที่เปี่ยมด้วยความหมายนั้นเหมาะสมกับทวิตเตอร์ ซึ่งจำกัดจำนวนตัวอักษรต่อโพสต์ได้เป็นอย่างดี หากใช้ถูกความหมาย ถูกบริบทจะทำให้ข้อความกระชับและเข้าใจข้อความที่จะสื่อได้อย่างง่ายดาย
becommon ขอพาไปเปิดพจนานุกรมดูความหมายของคำศัพท์ยอดฮิตของชาวทวิตเตี้ยนอีกครั้ง เพื่อให้เราเข้าใจกันมากขึ้นกว่าเดิม
emphasize (v.)
ให้ความสำคัญกับสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ
ตัวอย่าง
“สื่อน่าจะสนใจเรื่องคดี มากกว่า emphasize ว่าผู้ต้องสงสัยชอบกินอะไร”
แปล: สื่อน่าจะสนใจคดี มากกว่าสนใจว่าผู้ต้องสงสัยชอบกินอะไร
emphasize มักถูกใช้กับสถานการณ์ใดๆ ก็ตามที่ได้รับความสำคัญเป็นพิเศษ หรือถูกเน้นเป็นพิเศษ และคำนี้จะถูกใช้เพื่อเรียกร้องความเหมาะสม เนื่องจากบางครั้งสิ่งนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนหมู่มาก หรือไม่ควรได้พื้นที่สื่อมากเกินไป การให้ความสำคัญเกินจำเป็นจึงทำให้สิ่งที่สำคัญกว่าถูกละเลย ขณะเดียวกัน emphasize ในโลกทวิตเตอร์อาจถูกใช้สำหรับการเรียกร้องเพื่อให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของบางสิ่งที่อาจถูกมองข้ามด้วยเช่นกัน
romanticize (v.)
ทำให้บางสิ่งเย้ายวนใจและน่าสนใจเกินกว่าความเป็นจริง
ตัวอย่าง
“นี่คุณกำลัง romanticize ชีวิตในชทบทอยู่หรือเปล่าคะ”
แปล: คุณกำลังทำให้ชีวิตชนบทสวยงามเกินจริงอยู่หรือเปล่าคะ
romanticize มักถูกนำไปอธิบายกรณีที่เหตุการณ์ธรรมดาๆ ถูกทำให้ดูโรแมนติกและสวยงามเกินจริง โดยที่สิ่งนั้นอาจนำมาซึ่งการมองโลกในแง่เดียว คือมองแค่ด้านที่ดี และมองข้ามความจริงอีกด้านที่อาจไม่ได้สวยงาม ไปจนถึงมองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นในบางบริบทศัพท์คำนี้ก็ถูกในการพูดถึงบางประเด็นที่ทำให้เรื่องผิดศีลธรรมกลายเป็นสิ่งสวยงาม
dramatize (v.)
นำเสนอหนังสือ เหตุการณ์ และอื่นๆ เป็นละครหรือภาพยนตร์
ทำให้บางสิ่งน่าตื่นเต้นและน่าสนใจเกินความเป็นจริง
ตัวอย่าง
“คนบางคนก็คุยด้วยเหตุผลไม่ได้ เพราะ dramatize กับทุกเรื่อง”
แปล: คนบางคนก็คุยด้วยเหตุผลไม่ได้ เพราะเขาทำให้ทุกเรื่องเป็นเรื่องดราม่า
dramatize คือ การทำให้เป็นละคร สามารถใช้กับนักแสดง เหตุการณ์ ฯลฯ ที่ถูกทำให้เป็นละครหรือภาพยนตร์ได้ ในบริบทของการวิพากษ์วิจารณ์ อาจอธิบายคำนี้ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ‘อินเกิน’ คือการทำให้ทุกอย่างเป็นละคร ดึงดราม่าเกินจริงจนละเลยเหตุผลไป
localize (v.)
จำกัดบางสิ่งหรือผลกระทบของบางสิ่งให้อยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
ตัวอย่าง
“อเมริกา localize ทุกสิ่ง แม้กระทั่งชื่ออาหารต่างประเทศ”
แปล: อเมริกาเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นแบบอเมริกัน แม้แต่ชื่ออาหารต่างประเทศก็ยังเป็นแบบอเมริกัน
localize ใช้อธิบายบางสิ่งที่ถูกทำขึ้นสำหรับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างกัน หรือการประยุกต์บางสิ่งที่มาจากอีกวัฒนธรรมหนึ่งมายังวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งอาจทำให้แตกต่างไปจากเดิมบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับท้องถิ่นมากขึ้นมากขึ้น เช่น เมื่อนำอนิเมะสักเรื่องมาแปลเป็นภาษาไทย เมื่อเขียนชื่อตัวละครด้วยภาษาไทยแล้วอาจมีเพี้ยนไปจากต้นฉบับบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนไทยอ่านออกเสียงได้ง่าย เราสามารถเรียกกระบวนการนี้ว่า localize ให้เป็นไทยได้
normalize (v.)
ทำบางสิ่งให้เป็นปกติ, ทำบางสิ่งให้พอดีเพื่อให้เข้ากับรูปแบบหรือสภาพปกติ
ตัวอย่าง
“พวกเราควร normalize การกินบุฟเฟ่ต์คนเดียวได้แล้ว”
แปล: พวกเราควรทำให้การกินบุฟเฟ่ต์คนเดียวเป็นเรื่องปกติในสังคมได้แล้ว
normalize คือการทำให้บางสิ่งเป็นเรื่องปกติ หรือทำให้กลับมาในสภาพที่ปกติ ในการเรียกร้องเพื่อเป้าหมายบางอย่างของชาวทวิตเตอร์ คำนี้มักถูกใช้ในการสร้างความเข้าใจใหม่ๆ ทำให้คนมองสิ่งที่เคยถูกตีตราว่าผิดปกติให้เป็นเรื่องปกติ ในขณะเดียวกันก็มีการขับเคลื่อนให้เลิกมองผิดเป็นถูก เลิกทำให้ความผิดศีลธรรมกลายเป็นเรื่องปกติ เช่น หยุด normalize การทักทายด้วยคำว่าอ้วนขึ้นหรือผอมลงได้แล้ว
dehumanize (v.)
ทำให้บางคนสูญเสียคุณสมบัติความเป็นมนุษย์ เช่น ความเมตตา ความสงสาร ฯลฯ
ปฏิบัติต่อคนเหมือนวัตถุมากกว่ามนุษย์
ตัวอย่าง
“คนทำผิดก็เป็นคน ทำไมในคุกถึง dehumanize นักโทษ”
แปล: คนทำผิดก็เป็นคน ทำไมในคุกถึงลดทอนความเป็นมนุษย์ของนักโทษ
dehumanize คือการลดทอนความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นการไม่ให้คุณค่าพื้นฐานของบุคคลในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และไม่ปฏิบัติต่อคนผู้นั้นอย่างเท่าเทียม คำนี้ถูกใช้ขับเคลื่อนประเด็นอันไร้ซึ่งมนุษยธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสังคม
marginalize (v.)
ทำให้บุคคลเป็นคนชายขอบ
ทำให้บุคคลรู้สึกไม่มีความสำคัญและไร้อำนาจในการตัดสินใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ
ทำให้บุคคลตกอยู่ในสถานะไร้อำนาจ
ตัวอย่าง
“พูดภาษาไทยกลางไม่ได้ผิดตรงไหน ทำไมบางคนถึง marginalize ภาษาท้องถิ่น”
แปล: พูดภาษาไทยกลางไม่ได้ผิดตรงไหน ทำไมบางคนถึงมองไม่เห็นความสำคัญและยังผลักให้ภาษาท้องถิ่นให้เป็นภาษาชายขอบ
marginalize มักถูกนำมาใช้ในเหตุการณ์ที่บางสิ่งหรือบางคนถูกผลักให้ไปอยู่ชายขอบ เพียงเพราะไม่ได้เป็นเหมือนคนหมู่มาก ไม่ว่าจะด้วยมีอัตลักษณ์หรือวัฒนธรรมที่แตกต่าง การ marginalize คือการทำให้สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นส่วนน้อย ไร้ซึ่งความเท่าเทียมและถูกลดทอนอำนาจลง ในแง่ของความรู้สึก การถูก marginalize อาจทำให้คนรู้สึกแปลกแยก เป็นแกะดำสำหรับคนส่วนใหญ่ในสังคม
legalize (v.)
ทำให้บางสิ่งถูกกฎหมาย
ตัวอย่าง
“legalize อาชีพโสเภณีไม่ได้ทำให้ทุกคนเดินไปขายบริการนะโกโก้”
แปล: การทำให้อาชีพโสเภณีถูกกฎหมายไม่ได้ทำให้ทุกคนเดินไปขายบริการนะโกโก้
legalize คือ การทำให้ถูกกฎหมาย คำนี้จึงถูกใช้ในการพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับกฎหมาย เช่น เรียกร้องให้บางสิ่งถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้การทำแท้งถูกกฎหมาย หรือการผลักดันให้อาชีพโสเภณีถูกกฎหมายเพื่อให้ได้รับสวัสดิการจากสังคมอย่างเท่าเทียมกับอาชีพอื่นๆ
decentralize (v.)
กระจายอำนาจจากส่วนกลาง เช่น รัฐบาล หรือองค์กร ฯลฯ ไปยังชิ้นส่วนหรือองค์กรขนาดเล็กกว่า
ตัวอย่าง
“เมื่อไหร่ประเทศไทยจะ decentralize แล้วทำให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพสักที”
แปล: เมื่อไหร่ประเทศไทยจะกระจายอำนาจบริหารไปสู่ท้องถิ่น แล้วทำให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพเสียที
decentralize คือ การกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น ไม่ใช่แค่กับการบริหารประเทศ แต่ยังหมายถึงการกระจายความสำคัญ กระจายหน้าที่ไปยังคนหมู่มาก ไม่ให้การบริหารจัดการและอำนาจกระจุกอยู่ตรงกลาง ในทวิตเตอร์ คำนี้มักถูกนำไปอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นวิถีของโลกที่เปลี่ยนไป เมื่ออำนาจอาจไม่ได้กระจุกอยู่ที่ศูนย์กลางเหมือนเดิม แต่กลับกระจายไปเป็นของปัจเจกมากขึ้น
demonize (v.)
หลอกลวงบางคนหรือบางสิ่ง
เพื่อจำกัดความบางคนหรือบางสิ่งในลักษณะที่ทำให้คนคิดว่าพวกเขาชั่วร้ายและเป็นอันตราย
ตัวอย่าง
“เฟมทวิตก็คือเฟมินิสต์ที่ใช้ทวิตเตอร์ แต่คำนี้ถูก demonize ไปเรียบร้อยแล้ว”
แปล: เฟมทวิตก็คือเฟมินิสต์ที่ใช้ทวิตเตอร์ แต่คำนี้ถูกทำให้เป็นสิ่งชั่วร้ายไปเรียบร้อยแล้ว
demonize คือ การทำบางคนหรือบางสิ่งเป็นเรื่องชั่วร้ายเกินจริง อาจตรงข้ามกับ romanticize ที่ทำให้บางสิ่งสวยงามเกินจริง ศัพท์คำนี้ถูกใช้ในกรณีที่ทำให้วัฒนธรรมย่อยๆ ในสังคมที่ยังไม่ได้รับการยอมรับกลายเป็นความผิด ถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องชั่วร้าย เช่น การสูบบุหรี่ การมีความเห็นทางการเมืองขั้วตรงข้าม การเป็น LGBTQIA+ ในบางประเทศที่ยังไม่เข้าใจความแตกต่าง ฯลฯ
อ้างอิง
ความหมายของคำศัพท์ฉบับภาษาไทยแปลจากความหมายของ Oxford Learner’s Dictionaries
หมายเหตุ : ตัวอย่างประโยคเป็นตัวอย่างที่สมมุติขึ้นโดย becommon ไม่ได้เป็นข้อความจากทวิตเตอร์จริงแต่อย่างใด