เมื่อพูดถึงเรื่องอาหารการกินของหมาแมว หนึ่งในประเด็นที่หลายคนสนใจและมักจะถามไถ่เข้ามาตลอด คือการให้หมาแมวกินอาหารสดดิบ หรือที่เรียกว่า บาร์ฟ (B.A.R.F) นั้นดีจริงมั้ย
ถ้าตอบแบบตรงคำถามคือ ดีจริงค่ะ
แต่หากจะพูดเรื่องบาร์ฟกันจริงๆ แล้ว มีอะไรที่ต้องคำนึงมากกว่าแค่ดีหรือไม่ดี
เพราะไม่ใช่แค่ดิบแล้วจะดีไปเสียหมด วันนี้หมอเลยจะพามาทำความรู้จักกับบาร์ฟกันค่ะ
บาร์ฟ (B.A.R.F) คืออะไร ทำไมถึงฮิตในหมู่คนเลี้ยงสุนัข
บาร์ฟ (B.A.R.F) คือวิธีการให้อาหารสดดิบกับสุนัข หรือชื่อเต็มคือ Biologically Appropriate Raw Foods พื้นฐานของบาร์ฟนั้นง่ายมากๆ คือ การให้สุนัขกลับไปสู่ธรรมชาติการกินดั้งเดิมของเค้านั่นเอง
ดั้งเดิมอย่างไร?
ก่อนที่สุนัขจะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของมนุษย์อย่างทุกวันนี้ เค้าก็คือสัตว์ป่า ที่ล่าสัตว์หาอาหารกินเอง
แต่พอมนุษย์เริ่มนำสุนัขมาเลี้ยง ก็เลยนำวิธีการกินของตัวเองมาใช้กับสุนัขและแมว นั่นคือปรุงอาหารให้สุกก่อนที่จะให้เค้ากิน
ทุกวันนี้หมาแมวไม่ใช่สัตว์ป่าแล้ว การให้อาหารสดดิบจะดีหรือไม่
ถ้าจำได้ หมอเคยพูดไว้ในบทความ อาหารเยอะจนตาลาย แล้วแบบไหนคืออาหารที่ดีของหมาแมว ว่าจะเลือกอาหารที่ดีให้หมาแมวได้ เราต้องเข้าใจธรรมชาติของเขาก่อน ถึงแม้ทุกวันนี้หมาแมวจะเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เค้าก็ยังคงเป็น Omnivore หรือสัตว์ที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืช
ฉะนั้นการให้เนื้อสัตว์ดิบกับเค้าเป็นเรื่องดีแน่นอน เพราะถูกต้องตามหลักการเป๊ะ
มีการพิสูจน์มาแล้วว่าสุนัขที่กินบาร์ฟ จะมีการเจริญเติบโตดีกว่า ขับถ่ายไม่เหม็น และขนสวยกว่าสุนัขที่กินอาหารสุก เพราะเค้าได้รับสารอาหารแบบเต็มที่ โดยไม่สูญเสียไปกับการปรุง และบาร์ฟยังย่อยง่ายกว่าอาหารปรุงสุกด้วย
ไม่ใช่แค่ดิบ แต่ต้องสดใหม่
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดไปหาอาหารสดดิบมาให้สุนัขของตัวเองกินบ้างแล้ว
ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ “ความสดและสะอาด”
ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่ยากมากสำหรับปัจจุบัน เพราะเนื้อสัตว์และผักทุกวันนี้มักเต็มไปด้วยสารปนเปื้อนที่เราไม่รู้
หลายคนที่ทำบาร์ฟให้สุนัขกิน ขนาดว่าเลือกของดีแล้ว ก็ยังท้องเสีย (รวมถึงหมอด้วย….ผ่าง!)
ดังนั้น ถึงแม้ว่าคนจะรู้ว่าบาร์ฟดี แต่ก็มีไม่กี่คนที่ทำได้
เพราะการคัดสรรวัตถุดิบเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจพอสมควร
ต้องไปตลาดทุกวัน เพราะเนื้อสัตว์ที่แช่ตู้เย็นไว้แม้แค่วันเดียว ก็ไม่ถือว่าสดแล้ว
บางครั้งต้องดูละเอียดถึงแหล่งที่มาของเนื้อและผัก เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยจริง
ถ้ามั่นใจว่าทำได้ นี่คือสิ่งที่คุณต้องคำนึง
การให้บาร์ฟที่ดี ไม่ใช่แค่ให้เนื้อสดดิบเท่านั้น แต่ควรผสมผัก ผลไม้ เช่น ผักกาด ฟักทอง หรือไข่ และธัญพืชลงไปด้วยก็ได้ เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
แหล่งที่มาของเนื้อสัตว์คือสิ่งที่ละเลยไม่ได้ สมมุติว่าไปเผลอเอาไก่ที่เป็นโรคมา เชื้อโรคบางชนิดสามารถติดไปสู่สัตว์เลี้ยงได้ ต้องซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
และหากหมาแมวไปคาบนกหรือหนูมา อย่าปล่อยให้กิน เพราะนั่นไม่ใช่บาร์ฟ
พวกนกหนูตามบ้านนั้นเรารู้กันดีว่าอุดมไปด้วยเชื้อโรค นกเองก็มีเชื้อพวกที่ก่อให้เกิดไข้หวัดนก ยิ่งนกพิราบยิ่งเป็นตัวแพร่เชื้อชั้นดีเลยล่ะค่ะ
แบบนี้นอกจากจะไม่ได้รับสารอาหารแล้ว ยังจะได้โรคแถมมาด้วย
สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ ในอาหารสดมีพยาธิ จะสะอาดแค่ไหนก็มี ฉะนั้นใครที่ให้บาร์ฟกับสุนัขที่บ้าน จำเป็นต้องถ่ายพยาธิทุกเดือน
สุดท้ายนี้ ใครที่กังวลว่าสุนัขของตัวเองไม่เคยกินของดิบมาก่อน เขาจะยอมกินมั้ย
หมอบอกเลยว่า โดยสัญชาตญาณแล้วเขาชอบมากค่ะ ได้ลองครั้งเดียว ติดใจทุกราย
ฉะนั้นยากที่สุดของการให้บาร์ฟ ไม่ใช่การทำให้สุนัขยอมกินของดิบหรอกค่ะ แต่คือการหาวัตถุดิบที่ดีมาให้เขากินโดยไม่ท้องเสียต่างหากค่ะ