life

เคยสังเกตไหมว่า ทำไมไอเดียดีๆ เกิดขึ้นมาตอนที่เราอาบน้ำ เคลิ้มหลับ ปั่นจักรยาน ออกกำลังกายเพลินๆ หรือตอนที่เรากำลังนั่งใจลอยคิดถึงบางสิ่ง

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า นั่นเป็นเพราะเรากำลัง ‘ผ่อนคลาย’

ความคิดดีๆ มักมาเยือนเมื่อเราผ่อนคลาย

ถ้าคิดไม่ออก ก็เลิกคิด’ เป็นคติประจำใจของการทำงานสร้างสรรค์ 

หากระดมความคิดก็แล้ว นั่งคิดนอนคิดก็แล้ว ยังคิดงานดีๆ ไม่ออก หนทางเดียวที่จะช่วยให้ดีขึ้น คือปล่อยวางทุกอย่างแล้วไปพัก

การพักไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดทำงานและใช้เวลาช่วงผ่อนคลายไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่เป็นการเปิดทางให้ความคิดสร้างสรรค์เดินทางมาหาเราได้เร็วขึ้น

เพราะในขณะที่เราปล่อยสมองให้พักผ่อน จิตใต้สำนึกผู้ขยันขันแข็งจะทำงานอยู่เงียบๆ อย่างขมักเขม้น โดยรวบรวม เก็บเกี่ยวเศษความคิดที่กระจัดกระจายมาปะติดปะต่อกันให้เกิดเป็นความคิดดีๆ ที่เราพยายามเฝ้าตามหา 

Shelly Carson นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เรียกช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นนี้ว่า ‘ระยะฟักตัว’ หรือ The Incubation Period ซึ่งคลื่นสมองของเราจะเปลี่ยนไปในขณะที่เราผ่อนคลาย มีรูปแบบคล้ายคลึงกับตอนที่นั่งสมาธิ

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เรามักคิดอะไรออกขณะอาบน้ำ ปั่นจักรยานเพลินๆ หรือก่อนจะเคลิ้มหลับไป บางครั้งความคิดดีๆ อาจผุดขึ้นมาในความฝันซึ่งเปรียบเสมือนเวทีให้จิตใต้สำนึกออกมาแสดงศักยภาพยามค่ำคืน

สมองทำงานอย่างไร เมื่อเกิด ‘ความคิดสร้างสรรค์’

สองนักวิจัย Allen Braun และ Siyuan Liu ทำการศึกษาการทำงานของสมองของเหล่า ‘แรพเปอร์’ ที่สามารถแต่งเนื้อเพลงสดๆ ออกมาได้อย่างคล้องจองและสละสลวย ทำให้เห็นว่าเมื่อเรามีความคิดสร้างสรรค์ สมองส่วนที่เคยใช้ในชีวิตประจำวันจะถูกปิดการใช้งาน และส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้จะถูกเปิดขึ้นมา 

เมื่อนักร้องแรพกำลังคิดเนื้อเพลง สมองส่วน prefrontal cortex ที่ควบคุมการตัดสินใจจะทำงานน้อยลง และเปลี่ยนไปใช้สมอง medial prefrontal cortex ที่ใช้เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ และควบคุมอารมณ์มากเป็นพิเศษ

นั่นทำให้เห็นว่าเมื่อสมองของเรา ‘ผ่อนคลาย’ จึงทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นได้ 

‘โดปามีน’ ส่วนผสมของความสร้างสรรค์

อีกหนึ่งส่วนผสมหลักที่ทำให้ไอเดียต่างๆ ผุดขึ้นในหัวเหมือนดอกไม้ไฟที่เจิดจ้าท่ามกลางท้องฟ้ากลางคืน คือ ‘โดปามีน’ สารที่ทำให้เราอารมณ์ดี และกระฉับกระเฉง

ทางการแพทย์ยังระบุอีกด้วยว่าสารชนิดนี้มีส่วนช่วยให้มนุษย์เรามีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี 

ในสภาวะที่ร่างกายผ่อนคลาย ได้อาบน้ำอุ่นๆ ออกกำลังกาย กินของอร่อย หรือมีความรัก จะกระตุ้นโดปามีนหลั่งออกมา และนั่นจะทำให้เราคิดอะไรออก สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่มีอยู่เข้าหากันและแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกมาทั้งวันได้ 

วิธีเก็บเกี่ยว ‘ไอเดียเจ๋งๆ’ เมื่อเราเข้าใจ ‘สมอง’ 

1.พกสมุดพร้อมจดตลอดเวลา

งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ความคิดสร้างสรรค์อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้จะไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ความคิดเหล่านั้นก็มีความสำคัญ แทนที่จะรอผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการระดมความคิดเพียงครั้งเดียว อาจเปลี่ยนมาโฟกัสกับความคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในหัวเรา และพยายามจดทุกอย่างลงในกระดาษ แม้ว่านั่นจะเป็นถ้อยคำหรือไอเดียที่ไม่ปะติดปะต่อกัน แต่ก็เป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับไอเดียเจ๋งๆ ที่จะเกิดขึ้น

หากต้องทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อยู่เป็นประจำ อีกหนึ่งเหตุผลที่ควรพกสมุดติดตัวให้เป็นนิสัย คือ จดไว้ก่อนที่จะมันจะหายไป เราไม่มีทางรู้ว่าไอเดียดีๆ จะเกิดขึ้นตอนไหน อาจเป็นตอนเคลิ้มหลับ อาบน้ำ หรือเดินอยู่ในสวนสาธารณะ

ดังนั้นการพกสมุดติดตัวพร้อมจดตลอดเวลา จึงเป็นเครื่องมือชั้นดีที่ใช้เก็บเกี่ยวไอเดียเจ๋งๆ

2.เผื่อเวลาทำงาน ไม่รีบร้อน ทิ้งไว้ก่อนแล้วค่อยกลับมาทำต่อ

แม้ว่าคนเราควรทำงานให้เสร็จทีละอย่างเพื่อความโปรดักทีฟของแต่ละวัน แต่นั่นอาจใช้ไม่ได้กับการงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ เพราะว่านั่นอาจไม่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

เพราะว่าก่อนที่งานเจ๋งๆ จะเกิดขึ้นนั้นต้องใช้เวลา หรือที่นักจิตวิทยาเรียกว่า ‘ระยะฟักตัว’ คือช่วงเวลาว่างเปล่าที่เราปล่อยให้ความคิดเชื่อมโยงกันในจิตใต้สำนึก

วิธีการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีและเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ การแบ่งเวลา

ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น วิธีการทำงานของ Shelly Carson นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มักจัดสรรเวลาไว้สำหรับระยะฟักตัวอยู่เสมอ

เธอเล่าว่าหากต้องเขียนบทความสักชิ้น เธอจะเริ่มจากการหาข้อมูลทั้งหมดและจดลงไปก่อน จากนั้นก็ใช้เวลาระหว่างวันไปกับการทำอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นตอบอีเมลล์ พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ แล้วค่อยกลับมาสานต่อบทความตอนใกล้จะหมดวัน เพื่อเรียบเรียง แก้ไข และประดิษฐ์คำให้สละสลวยก่อนจะเผยแพร่ลงในบล็อก

วิธีนี้ทำให้เธอเขียนบทความได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้เธอจะไม่ได้จดจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวั้น แต่ระหว่างนั้นจิตใต้สำนึกได้ทำการเชื่อมโยงและทำงานให้เธออยู่ตลอดเวลา

หากตอนนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่คิดไม่ตกกับโจทย์ยากๆ ลองวางมือจากสิ่งตรงหน้าสักครู่ พาตัวเองไปอาบน้ำ เดินเล่น หรือกินของอร่อย ปล่อยให้สมองได้พักผ่อน สร้างพื้นที่ให้จิตใต้สำนึกผู้ขยันขันแข็งของเราทำงานต่อไป

เชื่อว่าไอเดียเจ๋งๆ จะมาเยือนในไม่ช้า  

 

อ้างอิง