life

‘ครอบครัว’ เป็นพื้นที่ที่ทำให้ความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์แต่ละคนแสดงออกมาอย่างชัดเจน เมื่อครอบครัวไม่จำเป็นต้องอบอุ่น ไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งพ่อ แม่ และลูก ครอบครัวจึงไม่ใช่วงกลมที่สมบูรณ์เต็มวง แต่กลับเป็นเหมือนอุกกาบาตขรุขระที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศ 

ภาพยนตร์ของ สตูดิโอ จิบลิ มักเล่าเรื่องโดยมีฉากหลังเป็นครอบครัวต่างรูปแบบ ชวนให้เห็นว่าเราทุกคนล้วนบอบช้ำ และเป็นผลผลิตครอบครัวที่ไม่เคยสมบูรณ์แบบ พ่อแม่ส่งต่อความบิดเบี้ยวไปยังรุ่นลูก ฝังรากลึก และพวกเขาก็กอดเก็บมันไว้อยู่ตลอดเวลา บางทีการเติบโตของมนุษย์เราอาจหมายถึงการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้น และใช้ชีวิตต่อไปด้วยความเข้าใจ

ชวนมาสำรวจ ‘ครอบครัว’ ที่เป็นเบื้องหลังของตัวละคร และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ ทำความรู้จักกับชีวิตไปพร้อมๆ กับพวกเขาเหล่านั้นในภาพยนตร์อารมณ์ละมุนทั้ง 8 เรื่องจาก สตูดิโอ จิบลิ

 

Spirited Away
เมื่อพ่อแม่เป็นใหญ่ เอาแต่ใจ และดื้อรั้น

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away)

พ่อผู้ห้าวหาญและแม่ที่คอยสนับสนุนความคิดของพ่ออยู่เสมอ ทำให้ ‘จิฮิโระ’ ผู้เป็นลูกสาว รู้สึกไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เลือกที่จะเก็บไว้ในใจ เพราะอย่างไรเสีย พ่อกับแม่ก็จะทำทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการอยู่วันยังค่ำ 

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในวันที่จิฮิโระกำลังย้ายบ้านและต้องจากกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนกะทันหัน เหตุการณ์นั้นแสดงให้เห็นว่าพ่อกับแม่มักทำทุกอย่างโดยไม่เคยถามความสมัครใจของเธอเลยสักครั้ง

พ่อของจิฮิโระขับรถมาจอดหน้าซุ้มประตูใหญ่แสนวังเวง แม้บรรยากาศจะเงียบเชียบและน่ากลัว ถึงกระนั้น พ่อกับแม่ของเธอก็ไม่ลดละความพยายามที่จะเข้าไปสำรวจข้างใน โดยที่ไม่เคยฟังเสียงคัดค้านของเธอ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในโลกวิญญาณ การกระทำที่ไม่คิดหน้าคิดหลังของพ่อแม่ทำให้เธอต้องตกที่นั่งลำบาก และพยายามเอาตัวรอดในโลกแห่งนี้ด้วยความสามารถของตัวเอง

 

My Neighbour Totoro
โลกเหงาๆ ของสองพี่น้องที่รอวันให้ครอบครัวกลับมาพร้อมหน้า

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง My Neighbour Totoro)

อาจกล่าวได้ว่าความเหงาเปล่าเปลี่ยวของสองพี่น้อง ‘ซะสึกิ’ และ ‘เม’ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเธอพบกับ ‘โตโตโร่’ ภูติตัวโตผู้ดูแลป่าใหญ่

พ่อของพวกเธอทำอาชีพนักเขียนไปพร้อมๆ กับเรียนต่อมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังต้องเจียดเวลามาดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบ ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้ทั้งสองต้องใช้ชีวิตตามลำพังอยู่บ่อยครั้ง 

ซะสึกิ จำต้องทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวเมื่อพ่อไม่อยู่บ้าน เธอต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของน้องสาวอยู่เป็นนิจ บางครั้งก็ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณยายผู้เป็นเพื่อนบ้าน ส่วนเม ผู้เป็นน้องสาวมักใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธอสำรวจป่ารอบๆ บ้าน จนทำให้บังเอิญเจอกับโตโตโร่ 

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ของเด็กทั้งสอง 

 

Kiki’s Delivery
ลูกสาวที่ต้องเติบโตโดยปราศจากเงาของพ่อแม่

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Kiki’s Delivery Service)

เมื่อการเติบโตหมายถึงการผละออกจากอ้อมอกของครอบครัวมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ‘แม่มดน้อยกิกิ’ จึงตัดสินใจออกจากบ้านพร้อมกับแมว 1 ตัว ไปอาศัยอยู่ในเมืองไกลโพ้น ตามธรรมเนียมของแม่มดฝึกหัด เพื่อที่วันหนึ่งเธอจะเป็นแม่มดมืออาชีพที่แข็งแกร่งได้

เมื่อปราศจากความช่วยเหลือของพ่อและแม่ ทั้งยังรายล้อมไปด้วยคนแปลกหน้า กิกิจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ทั้งทำงานเพื่อแลกเงิน สานสัมพันธ์กับผู้คน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ด้วยไหวพริบที่มี เธอต้องเผชิญกับความลำบากมากมาย ทำให้แต่ละวันที่ผ่านไปเธอจึงค่อยๆ เข้มแข็งขึ้น แม้จะมีวันที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน ต้องต่อสู้กับความอ่อนล้าภายในใจของตัวเอง แต่นั่นก็ค่อยๆ หล่อหลอมให้เธอเป็นแม่มดที่โตเต็มตัว 

 

When Marnie was There
‘อันนา’ กับปริศนาผู้ให้กำเนิด

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง When Marnie was There )

เมื่อไม่เคยรู้มาก่อนว่าครอบครัวที่แท้จริงของเธอเป็นใคร ความโดดเดี่ยวจึงเกาะกุมหัวใจของ ‘อันนา’ เสมอมา เมื่อเธอไม่เคยได้สัมผัสการเป็นสมาชิกของครอบครัว ก็พาลทำให้อันนารู้สึกแปลกแยกและเป็นคนนอกสำหรับทุกๆ ความสัมพันธ์เสมอมา แม้ทุกวันนี้จะมี ‘คุณป้า’ ผู้รับเธอมาอุปการะ แต่อันนาก็ยังเอาแต่เคลือบแคลงใจในความหวังดีที่ป้ามอบให้เสมอ จนทำให้เธอไม่เคยเปิดใจที่จะพูดความในใจของตัวเองเลยสักครั้ง เธอได้แต่เก็บงำทุกความคิดที่มีต่อโลกและผู้คนไว้เงียบๆ คนเดียวเสมอมา

จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับ ‘มาร์นี่’ เด็กหญิงผู้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ผู้มองเห็นความสำคัญของเธอ และนั่นทำให้อันนาเรียนรู้ที่จะมีเพื่อน และเปิดใจให้กับมิตรภาพอีกครั้ง ปริศนาของผู้ให้กำเนิดที่ผลักให้อันนากลายเป็นคนนอกมาโดยตลอดค่อยๆ เลือนหายไปเรื่อยๆ จนเธอเริ่มสัมผัสถึงการเป็นคนใน และหลังจากวันคืนเหล่านั้น ความสัมพันธ์ของอันนาและคุณป้าก็ค่อยๆ ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 The Tale of the Princess Kaguya
เมื่อความหวังดีของพ่อกลายเป็นเผด็จการที่ทำร้ายลูก

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง The Tale of the Princess Kaguya)

‘คางุยะ’ เป็นเด็กหญิงที่ถือกำเนิดจากปล้องไม้ไผ่ พร้อมด้วยเงินทองและเสื้อผ้าล้ำค่ามากมาย นั่นทำให้ชายชราคนเก็บของป่าเชื่อว่าเด็กหญิงคนนี้คือลูกสาวอันเป็นของขวัญที่สรวงสวรรค์มอบให้ คางุยะเติบโตท่ามกลางสายลมและแสงแดดของบ้านชายแก่และหญิงชรา เธอหลงรักชีวิตที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันงดงาม คางุยะเป็นตัวแทนของเด็กๆ ที่จะเติบโตและผลิบานได้ด้วยเจตจำนงของตัวเอง 

ทว่าเจตจำนงนั้นกลับถูกขัดขวาง เสมือนดอกไม้ที่ถูกตัดรากให้ลาจากอ้อมอกของผืนดินมาประดับแจกัน ชายชราผู้เป็นพ่อพยายามหยิบยื่นทุกสิ่งที่ดีให้กับเธอ ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ดุจวังหลวง เสื้อผ้าชุดสวย สาวใช้คอยปรนนิบัติ รวมถึงสามีผู้มีชาติตระกูลคู่ควรกับคางุยะ

แม้ทั้งหมดจะเป็นความหวังดีจากพ่อ แต่กลับไม่เคยทำให้เธอมีความสุขเลยแม้แต่น้อย ชีวิตของคางุยะจึงตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัส เรื่องราวทั้งหมดนี้จึงชวนให้เราตั้งคำถามถึงความหวังดีของพ่อแม่ที่อาจกลายมาเป็นพิษร้ายทำลายลูกของตัวเอง  

 

Ponyo
เด็กชายผู้กล้าหาญกับพ่อแม่ที่อุทิศตัวให้กับงาน

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Ponyo)

โซะสึเกะอาศัยอยู่ในเมืองท่า พ่อของเขาทำงานเป็นกัปตันเรือเดินทะเล นานๆ ครั้งถึงได้กลับบ้าน ส่วน ‘ลิซ่า’ ผู้เป็นแม่ทำงานเป็นผู้ดูแลอยู่ที่บ้านพักคนชราประจำเมืองแห่งนี้ ทั้งพ่อและแม่ของโซะสึเกะต่างก็อุทิศตนให้กับงานอย่างแข็งขัน ทำให้เวลาที่ต้องดูแลเขาลดน้อยลง โซะสึเกะจึงเป็นเด็กชายที่กล้าหาญ ดูแลตัวเองได้ แถมบางครั้งยังต้องคอยปลอบแม่ที่อยู่ในช่วงจิตใจอ่อนไหวอีกด้วย

ในคืนที่พายุกระหน่ำ คลื่นสูงซัดเข้าหาฝั่ง แม่ของโซสึเกะเลือกที่จะทิ้งเขาไว้ที่บ้าน และรุดไปดูแลคนชราที่บ้านพัก นั่นเป็นเพราะแม่ไว้วางใจว่าโซะสึเกะเป็นเด็กเก่งและเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์

การถูกละเลยบ่อยๆ ทำให้โซะสึเกะเป็นเด็กชายที่กล้าหาญ และทำให้เขาพร้อมที่จะดูแลคนอื่น โซะสึเกะจึงได้รับการไว้วางใจให้ดูแลธิดาสมุทรตัวน้อยอย่าง ‘โปเนียว’ ไปตลอดกาล

 

Ocean Waves
รอยร้าวของครอบครัวที่สร้างบาดแผลในใจของเด็กสาว

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Ocean Waves)

นิสัยเป็นตัวของตัวเองสูงเกินต้าน ไม่ยอมใคร จอมกบฎ เอาแต่ใจและดื้อรั้น ทำให้ ‘มุโตะ’ เด็กสาวจากโตเกียวที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองโคจิบนเกาะเล็กๆ อย่างชิโกะกุไม่ค่อยมีเพื่อน และต้องใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างโดดเดี่ยว เธอมักจะถูกเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นซุบซิบนินทาและหมั่นไส้เอาได้ง่ายๆ แต่ในขณะเดียวกันเธอกลับโดดเด่นและเป็นที่จับตามองของเพื่อนผู้ชาย

มุโตะปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์ทุกรูปแบบแม้กระทั่งกับเพื่อนสนิทของเธอ ต้นเหตุพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนเหล่านี้ เกิดขึ้นเพราะเมืองโตเกียวได้สร้างรอยแผลในใจให้เธอมากมาย และเธอต้องพยายามปกปิดมันด้วยนิสัยสุดโต่งอันไม่พึงประสงค์

พ่อของมุโตะเลิกรากับแม่ และกำลังคบหากับผู้หญิงคนใหม่ เธอจึงเริ่มกลายเป็นคนอื่นสำหรับพ่อตัวเอง มุโตะต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มของตัวเองที่โตเกียวและย้ายมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับแม่อย่างกะทันหัน 

มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเธอ นั่นทำให้เธอเป็น มุโตะหญิงสาวผู้เอาแต่ใจอย่างที่ทุกคนรู้จัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะไว้ใจใครสักคน และสลัดเรื่องราวกวนใจเหล่านี้เพื่อก้าวต่อไปให้ได้

 

Only Yesterday
ครอบครัวเข้มงวดทำลูกสาวคนสุดท้องเติบโตอย่างไร้ทิศทาง

(Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Only Yesterday)

การเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว ทำให้ ‘ทาเอโกะ’ ต้องทนรับแรงกดดันจากทุกทิศทางมาเสมอ ไม่ว่าจะจากพี่สาวต่างวัยที่กลายมาเป็นต้นแบบให้เธอต้องคอยเอาเยี่ยงอย่าง แม่ผู้คาดหวัง และพ่อที่มักจะเข้มงวดกับเธอเสมอ ทาเอโกะที่เติบโตมาอย่างไร้อิสระในวัย 27 ปี จึงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วชีวิตของเธอต้องการอะไรกันแน่ 

ครั้งหนึ่ง เธอมีโอกาสลาพักร้อนเพื่อหนีจากเมืองกรุงไปใช้ชีวิตในชนบท และระหว่างนั้นความทรงจำในวัยเด็กก็เริ่มหวนกลับมาอีกครั้ง ทาเอโกะหวนนึกถึงครอบครัวเข้มงวดที่หล่อหลอมให้เธอเป็นเธออย่างในทุกวันนี้ เธอถูกขับเคลื่อนด้วยแรงจากคนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือสังคม เธอทำงานอย่างไร้จุดหมายมาโดยตลอด ในขณะที่กำลังเก็บดอกดาวเรืองลงตะกร้าอยู่นั้น เธอก็เริ่มคิดถึงความต้องการของตัวเองที่ปราศจากแรงกดดันของครอบครัวเป็นครั้งแรก 

ฮายาโอะ มิยาซากิ
ชายผู้เล่าเรื่องของแม่ผ่านภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจ

คนเราไม่อาจจะเป็นอิสระจากครอบครัวได้เลย เพราะเรื่องราวที่เกิดในวัยเด็กนั้นจะหล่อหลอมให้เราเป็นมนุษย์ในแบบที่เราเป็นในวันนี้ ชีวิตของตัวละครในเรื่องต่างๆ ก็ไม่อาจจะเป็นละทิ้งอดีตที่เกิดจากครอบครัวได้เลย ‘ฮายาโอะ มิยาซากิ’ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แต่ละเรื่องนี้ก็เช่นกัน 

ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้รังสรรค์ภาพยนตร์ของจิบลิ เติบโตมาในครอบครัวที่ผลิตอะไหล่เครื่องบินรบ เขาเป็นหนึ่งในลูกชาย 4 คนของกิจการ มิยาซากิแอร์เพลน ซึ่งผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินรบ

ฮายาโอะ มิยาซากิ (Photo : https://vistapointe.net/hayao-miyazaki.html)

มิยาซากิควรจะได้ใช้ชีวิตกับแม่ของเขาอย่างเด็กๆ ทั่วไป แต่เมื่อแม่ของเขาป่วยเป็นวัณโรคกระดูกสันหลัง ทำให้ต้องนอนรักษาตัวอยู่แต่บนเตียง มิยาซากิเปิดเผยในสารคดีชีวประวัติของเขา ที่ฉายทางช่อง NHK ว่า แม่ในความทรงจำของเขานั้นเป็นผู้หญิงที่เก่งและเข้มแข็ง จนกระทั่งโรคร้ายได้มาพรากเธอคนเดิมจากไป แต่ถึงกระนั้นแม่ก็ยังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็งจนวินาทีสุดท้าย มิยาซากิไม่เคยได้ใช้ชีวิตกับแม่ของเขาอย่างเต็มที่ มีเพียงความทรงจำเลือนรางที่ถูกซ่อนไว้อยู่ในห้องเล็กๆ ในใจเขาเท่านั้น 

มิยาซากิในวัยเด็กกับแม่ของเขา (Photo : missavagardner.tumblr.com)

ภาพยนตร์ นิยาย และ อนิเมชัน ต่างก็เป็นผลพวงจากความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ เราทุกคนแหว่งวิ่นกันคนละส่วน และมิยาซากิเองก็เล่าเรื่องของความแหว่งวิ่นนี้ผ่านอนิเมชั่นของเขา 

แม้ว่าแม่จะจากไป แต่เธอยังคงมีชีวิตอยู่ในอนิเมชั่นของมิยาซากิอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทแม่ของซะสึกิและเม จากเรื่อง My Neighbor Totoro ที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับแม่ของเขา แต่ท้ายที่สุดก็หายดีและกลับบ้านอย่างปลอดภัย หรือตัวละคร ‘โทกิ’ จากเรื่อง Ponyo ซึ่งภายนอกเป็นหญิงชราจอมกบฎที่ไม่เคยเชื่อฟังใคร แท้ที่จริงแล้วกลับปากร้ายแต่ใจดี และคอยช่วยเหลือโซสึเกะเสมอ มิยาซากิเล่าว่าแม่ของเขาเป็นคนเข้มแข็งเช่นเดียวกับโทกิ หากไม่ล้มป่วย เธอก็คงจะแก่ตัวแล้วเป็นคุณยายที่ปากร้ายแต่ใจดี หัวแข็งแต่ทว่าอ่อนโยน เช่นเดียวกับโทกิ 

แม่ ซะสึกิ และเม ที่โรงพยาบาล (Photo : ภาพยนตร์เรื่อง My Neighbour Totoro)
โทกิและโซะสึเกะ (Photo : ภาพยนตร์เรื่อง Ponyo)

พ่อแม่เองต่างก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ผลผลิตที่ได้ชื่อว่าเราจึงล้วนบิดเบี้ยว และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ต่างกันไป

เช่นเดียวกับตัวละครในภาพยนตร์แต่ละเรื่องของจิบลิ ที่แม้จะเติบโตจากครอบครัวที่อาจเรียกได้ว่าไม่ได้สวยงามมากนัก แต่ความเจ็บปวดที่พวกเขาเจอ ก็ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ในแบบฉบับของพวกเขาเอง 

อาจเรียกได้ว่านี่คือสีสันของความเป็นมนุษย์ที่แต่งแต้มอยู่ในภาพยนตร์ทุกเรื่องของจิบลิก็เป็นได้.