life

คุณเคยบ่นถึงหัวหน้าของตัวเองไหมว่า ขี้เหนียว ไม่เคยซื้อของมาฝาก หรือไม่เคยเลี้ยงข้าวสักมื้อ

หรือคุณยอมรับว่า รู้สึกเป็นมิตรกับพี่ที่ออฟฟิศที่มักจะซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากมากกว่า 

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม และการทำงานก็ไม่ใช่แค่มาทำงานให้เสร็จแล้วจบไปเท่านั้น แต่แท้ที่จริงคือการใช้ชีวิต และเข้าสังคมร่วมกันของคนทำงาน ซึ่งคนที่มีน้ำใจหรือชอบช่วยเหลือผู้อื่น ย่อมเป็นคนที่ผู้อื่นรักและนับถือได้ง่ายกว่า

ดังนั้นแล้ว สำหรับคนทำงาน เรื่องหนึ่งที่ต้องปรับตัวและรู้จักวางแผน คือค่าใช้จ่ายทางสังคม หรือภาษีสังคมที่จะเกิดขึ้น

เช่น ต้องตามไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานบ้าง หรือต้องยกเลิกนัดแฟนเพื่อไปร่วมงานศพของพ่อแม่เพื่อนหรือรุ่นพี่ที่ออฟฟิศ หรือบางครั้งอาจต้องซื้อของกลับมาฝากเพื่อนร่วมงานหลังกลับมาจากเที่ยวต่างจังหวัด 

ถึงแม้ว่า ภาษีสังคมจะเป็นเรื่องความสมัครใจ ไม่ใช่ข้อบังคับ เพราะไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรไหนหรอกที่บังคับว่าต้องไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าอยากก้าวหน้าและมีชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น อาจต้อง ‘เป็นงาน’ ในเรื่องพวกนี้

เพราะอย่าลืมว่า การทำงานไม่ได้มีแค่ตัวเนื้องาน แต่โดยมากที่เราปวดหัวกันทุกวันล้วนเป็นเรื่องของคนที่ทำงาน ดังนั้น คนทำงานเก่งๆ จึงมักจะให้ความสำคัญเรื่องคนด้วย และรู้ว่าภาษีสังคมเป็นสิ่งที่พวกเขายอมจ่าย ถ้าอยากได้ความร่วมมือจากคนอื่นๆ

ยิ่งขึ้นเป็นหัวหน้า การเลี้ยงข้าว เลี้ยงขนม หรือพาลูกน้องไปเที่ยว ล้วนแต่เป็น ‘งาน’ ทั้งนั้น เพราะหัวหน้าก็จะใช้โอกาสเหล่านี้ซื้อใจ หรือพูดคุยเรื่องสำคัญๆ เป็นการส่วนตัวกับลูกน้องแต่ละคน

ดังนั้นแล้ว สำหรับคนทำงานมือใหม่ที่อยากโตในการทำงาน นอกจากค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่คุณต้องกันไว้ อีกค่าใช้จ่ายหนึ่งที่ต้องเตรียมไว้บ้าง คือภาษีสังคม เพื่อกระชับมิตร และเข้าสังคมร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ทำนองเดียวกัน เมื่อก้าวขึ้นตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น อาจจะต้อง ‘ป๋า’ มากขึ้น เพราะลูกน้องบางคนอาจใช้เรื่องนี้ในการตัดสินหัวหน้าเช่นกัน