life

ตลอดชีวิตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ คุณเคยรู้สึกแปลกแยกอย่างถึงที่สุดบ้างไหม?

หรือรู้สึกโดดเดี่ยวเกินกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของใครและกลุ่มสังคมใดได้อีก เพียงเพราะชิงชังในความไม่สมบูรณ์ของชีวิต

ย้อนกลับไปในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 87 ประจำปี 2015 เกรแฮม มัวร์ (Graham Moore) นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวอเมริกันวัย 33 ปี เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเสียงปรบมือแสดงความยินดี หลังจาก โอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) ประกาศชื่อของเขาว่าเป็นผู้ได้รับรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง The Imitation Game (2014)

ภาพ Kevin Winter / Getty Images North America / Getty Images via AFP

ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้ได้รับรางวัลในแต่ละสาขาจะมีเวลาเพียง 45 วินาที เพื่อกล่าวสุนทรพจน์หรือขอบคุณทีมงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่สำหรับมัวร์ เมื่อกล่าวขอบคุณเสร็จสิ้น เขามองไปยังนาฬิกาจับเวลาซึ่งส่งสัญญาณเตือนว่าเหลืออีกแค่ 10 วินาที เขาตัดสินใจใช้เวลาอันน้อยนิดที่มี พูดถึงชีวิตวัยเด็กในอดีตที่เกือบแหลกสลาย

ตอนอายุสิบหก ผมพยายามฆ่าตัวตาย เสียงของมัวร์ดังก้อง ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขา

เพราะผมรู้สึกแปลกประหลาดและต่างจากคนอื่น ผมรู้สึกว่าตัวเองเข้ากับใครไม่ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ผมได้มายืนอยู่บนเวที และผมต้องการใช้ช่วงเวลานี้เพื่อเด็กๆ ที่กำลังรู้สึกแปลกประหลาด แตกต่าง หรือรู้สึกว่าไม่เหมาะกับที่ไหนสักแห่ง ผมอยากบอกพวกเขาว่าทุกคนมีที่ทางของตัวเอง ผมสัญญาว่ามี ทุกคนจงแปลกประหลาดและแตกต่างต่อไป แล้วเมื่อถึงคราวที่คุณได้มายืนอยู่บนเวทีนี้ ช่วยส่งสิ่งเหล่านี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ

คำพูดของมัวร์ถูกยกย่องให้เป็นคำพูดที่ดีที่สุดในค่ำคืนนั้น เขาไม่เพียงแค่ส่งต่อพลังใจให้เด็กๆ ที่กำลังตกอยู่ในความสับสนหรือความรู้สึกแปลกแยกเหมือนกับที่เขาเคยรู้สึก แต่มัวร์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนทั่วโลกยืนหยัดใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ ทั้งๆ ที่ยังมีความรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างและแปลกประหลาด

ภาพ Kevin Winter / Getty Images North America / Getty Images via AFP

ในความเป็นจริง ความไม่เหมือนคนอื่น การไม่ได้เป็นหรือมีอย่างคนอื่น และความรู้สึกขาดแหว่งจากความไม่สมบูรณ์แบบ ต่างไม่ใช่ข้อผิดพลาดที่จะมาทำลายชีวิตของใครได้ถ้าใจไม่อนุญาต แต่ความคิดดูถูกดูแคลนและการตำหนิตัวเองตลอดเวลาจากความพยายามหาข้อเปรียบเทียบกับผู้อื่นจนทำให้เกิดความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นต่างหาก ที่จะกลายเป็นโซ่ตรวนและกรงขังเราเอาไว้ คอยจองจำชีวิตไม่ให้ก้าวไปยังจุดที่ดีกว่าได้

เพราะไม่มีใครในโลกจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง แล้วความไม่สมบูรณ์แบบใดๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นบาดแผลที่ด่างพร้อยของชีวิต แต่เป็นความปกติที่แสนจะธรรมดา ซึ่งเราทุกคนต่างต้องยอมรับอย่างเข้าใจเพื่อทำให้ชีวิตไปต่อได้โดยไม่เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยให้กลายเป็นเรื่องรบกวนใจหรือเป็นอุปสรรคยิ่งใหญ่ที่คอยขัดขวางการใช้ชีวิต

หนึ่งในคนที่น่าจะเข้าใจความหมายของความไม่สมบูรณ์แบบได้ลึกซึ้งไม่แพ้คำพูดของมัวร์ ก็คือ โอปราห์

ภาพ Robyn Beckafp / AFP

ชีวิตวัยเด็กของโอปราห์ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดถึงขั้นโดนหวดฟาดเป็นประจำ แต่นั่นยังไม่โหดร้ายที่สุด เพราะสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดได้หนักหนาสาหัส คือการที่เธอในวัยเพียง 9 ปี เริ่มถูกลูกพี่ลูกน้องล่วงละเมิดทางเพศ แล้วทุกอย่างก็เลวร้ายลงยิ่งกว่า เมื่อเธอกลายเป็นที่ระบายความใคร่ของผู้ชายในครอบครัว รวมถึงเพื่อนบ้านและเพื่อนของแม่เธอด้วย โอปราห์ถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตั้งท้องในที่สุด 

และต่อให้ใครก็ตามพยายามจะจินตนาการถึงชีวิตของเธอ ก็คงไม่อาจเข้าใจความรู้สึกบอบช้ำของเด็กอายุ 13 ปีที่ถูกกระทำย่ำยีและยัดเยียดความเป็นแม่คนได้อย่างสมบูรณ์

โอปราห์ตัดสินใจหนีจากแม่และทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับพ่อ ลูกของเธอตายหลังจากคลอดออกมาได้ 2 สัปดาห์ เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยมีพ่อคอยอยู่เคียงข้างและสร้างโอกาสที่ดีกว่าให้เธอมาโดยตลอด จนทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของโลก

ภาพ Mandel Nganafp / AFP

โอปราห์ยังจดจำประสบการณ์อันเลวร้ายในอดีตได้ดี เธอไม่เคยลบหรือพยายามลืมเหตุการณ์เหล่านั้น เธอยอมรับความจริงแต่ไม่ยอมให้มันกลายเป็นตราบาปในชีวิตแม้เพียงวินาที

ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามถึงบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ โอปราห์บอกสั้นๆ ว่า เปลี่ยนบาดแผลที่มีให้เป็นสติปัญญา

คำพูดสั้นๆ แต่ทรงพลังของเธอพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องพยายามอย่างหนักด้วยซ้ำสำหรับหลายๆ คน เพื่อที่จะฉุดดึงชีวิตของตัวเองให้ออกมาจากบ่อโคลนแห่งประสบการณ์ร้าวรานในอดีต แม้ว่าเนื้อตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผลน่าเกลียดน่าอายแค่ไหน แต่เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งทุกอย่าง หากเรากอดตัวเองแน่นๆ และตอบตัวเองได้ชัดเจนว่าต่อไปนี้จะเดินไปในเส้นทางไหนและใช้ชีวิตอย่างไร เพื่อปลุกพลังใจไม่ให้สูญสิ้นความหวังที่จะมีชีวิตอยู่

ในทางตรงกันข้าม ความสมบูรณ์แบบของชีวิตที่คนจำนวนมากเพรียกหาและต้องการ ก็อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบตามที่คาดหวังไว้เสมอไป

ภาพ Evan Agostini / Getty Images North America / Getty Images via AFP

ผลของความพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบมากๆ หรือที่เรียกว่า Perfectionism จะทำให้มีความคิดยึดติดกับการตั้งมาตรฐานของชีวิตไว้สูงในทุกๆ ด้าน ซึ่งหลายๆ ครั้งอาจถึงขั้นไม่สมเหตุสมผลและไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจริง จนกลายเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้น ไม่ยืดหยุ่น และทำใจไม่ได้หากต้องยอมรับสิ่งใดๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น จะมีนิสัยเจ้ากี้เจ้าการ เพราะคิดว่าต้องบ่งการหรือกำกับทุกสิ่งด้วยตัวเอง คนอื่นๆ มีหน้าที่ต้องทำตามเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น หรือไม่ก็มีความรู้สึกลังเลที่จะมอบหมายงานให้ใคร เพราะกลัวว่างานที่ออกมาจะไม่ได้ดั่งใจ และไม่อยากฟังเสียงใครนอกจากเสียงในหัว  แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าทุกอย่างพังไม่เป็นท่า ทุกอย่างผิดพลาดไปทั้งหมด

การตั้งเงื่อนไขผูกมัดตัวเองทำนองนี้ จึงทำให้เกิดเป็นความกดดันที่มากเกินไปในชีวิตโดยไม่จำเป็น ซึ่งไม่เคยนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีไม่ว่ากับใครทั้งนั้น

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามัวร์ฆ่าตัวตายสำเร็จ และโอปราห์จมปลักอยู่กับชีวิตที่ถูกกระทำเช่นเดิม ไม่มีใครรู้คำตอบ แต่ชีวิตของพวกเขาอาจแตกต่างไปจากวันนี้อย่างสิ้นเชิง

ในวันที่แต่ละคนก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดของชีวิตมาได้ เมื่อมองย้อนกลับไปยังช่วงชีวิตที่แปลกแยกและไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์เลยสักนิด เราจะพบว่าการให้โอกาสตัวเองคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะ การมีเมตตาต่อตัวเอง หรือ Self-Compassion เพราะไม่ว่าใครจะใจร้ายกับเรามากแค่ไหน ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ และมีชีวิตในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เราต้องไม่ใจร้ายหรือซ้ำเติมตัวเอง

ภาพ Robyn Beck / AFP

ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครหลีกเลี่ยงความล้มเหลวหรือความผิดพลาดได้ตลอด วันหนึ่งวันใดถ้าชีวิตต้องเจอมันก็ต้องเจอ และสิ่งที่เราต้องทำคือยอมรับความผิดพลาดนั้น เรียนรู้รสชาติความขื่นขมของชีวิต และดูแลรักษาความรู้สึกของตัวเองเพื่อทำให้ชีวิตไปต่อได้

ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจหากเราจะรู้สึกแปลกแยกไปบ้าง ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายหากเราจะโดดเดี่ยวเกินกว่าจะข้องเกี่ยวกับใคร ไม่ใช่เรื่องที่ให้อภัยไม่ได้หากชีวิตต้องพบกับความผิดพลาด และไม่ใช่เรื่องผิดแปลกเมื่อชีวิตนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ

เพราะชีวิตนี้อาจไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการบอกตัวเองได้ว่าเรามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นในหัวใจอาจกำลังบอกกับเราว่าความสมบูรณ์แบบไม่เคยมีอยู่จริงทั้งในชีวิตของทุกคนและทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้

 

อ้างอิง