life

ท่ามกลางซากปรักหักพังของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์วินาศกรรมในวันที่ 11 กันยายน 2001 หลายชีวิตต้องสูญสิ้นทันทีภายใต้แผ่นคอนกรีตและโครงเหล็กที่ทับถมกันอยู่ทั่วพื้นที่โดยรอบ ยกเว้นต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่กว่าหน่วยกู้ภัยจะพบมันเข้า เวลาก็ผ่านไปนานร่วมเดือน

Photo: New York Mayor's Office / AFP

เมื่อหน้าดินที่เคยให้รากยึดเกาะถูกทำลาย ลำต้นจึงโค่นล้ม รากบางส่วนโผล่พ้นดิน กิ่งก้านแตกทำให้ใบไม้หลุดจนเกือบโล้น เปลือกชั้นนอกที่ห่อหุ้มลำต้นไว้ทิ้งรอยไหม้เกรียมเพราะความร้อนของไฟ แม้จะอยู่ในสภาพย่ำแย่ แต่ยังคงเหลือเค้าโครงเดิมให้เห็นว่าเป็นต้นไม้ หน่วยกู้ภัยจึงรีบติดต่อไปยัง New York City Department of Parks and Recreation ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลสาธารณสมบัติทั้งต้นไม้ สวน และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจภายในมหานครนิวยอร์กให้เข้ามาตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่พบว่ามันคือ Pyrus calleryana น่าจะมีอายุประมาณ 30 ปี แต่คนทั่วไปมักจะรู้จักในชื่อ Callery pear หรือ Flowering pear trees เป็นไม้ผลัดใบสายพันธุ์หนึ่งที่ออกดอกสีขาวเป็นพุ่ม หากบานเต็มต้นจะดูสวยมาก คล้ายต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะค่อยๆ เปลี่ยนสีจากเขียวไปเหลือง เหลืองไปส้ม ส้มไปแดงอมชมพู แดงอมชมพูไปม่วง และสีสุดท้ายคือบรอนซ์หรือทองแดง ปกตินิยมปลูกไว้ริมถนนทั่วนิวยอร์ก

Photo: Courtesy of National September 11 Memorial & Museum

ก่อนขนย้ายออกจากพื้นที่ รุกขกรจึงลงมือตัดก้านและรากที่เสียหายออกทั้งหมด เหลือแค่ตอของกิ่งและลำต้นเปล่าเปลือยไม่ต่างกับไม้ยืนต้นตาย แล้วส่งต่อให้ Arthur Ross Citywide Nursery ซึ่งเป็นส่วนเพาะเลี้ยงและดูแลพืชของ New York Botanical Garden หรือสวนพฤกษศาสตร์แห่งนิวยอร์ก เพื่อประเมินความเสียหายทั่วลำต้นอย่างละเอียด ทำหน้าที่รักษาบาดแผล และฟื้นฟูสภาพให้มันกลับมาเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงได้อีกครั้ง

นักพฤกษศาสตร์เริ่มจากนำต้น Callery pear ที่มีความสูง 8 ฟุต หรือราว 2.4 เมตร ลงดินภายในพื้นที่ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะ Van Cortlandt Park ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2001 แล้วปลูกต้น Narcissus หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Daffodi ส่วนคนไทยเรียกต้นไม้นี้ว่า ดารารัตน์ ไว้บริเวณโคนต้น หวังให้ธรรมชาติและแสงแดดเป็นผู้ช่วยอีกแรง คอยซ่อมแซม เยียวยา และอนุบาลให้มันเติบโตอย่างที่ต้นไม้ควรได้รับ

โรเบิร์ต เซปปาลา (Robert Zappala) และ ริชชี คาโบ (Richie Cabo)
เจ้าหน้าที่ประจำสวนสาธารณะ Van Cortlandt Park ผู้ดูแลต้น Callery pear ตั้งแต่วันแรก
Photo: Courtesy of New York City Department of Parks and Recreation

จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2002 ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่เริ่มปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรก นั่นคือการผลิของใบและแตกยอดของกิ่งก้านจากลำต้น Callery pear ถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก เพราะแสดงว่าต้นไม้ฟื้นฟูตัวเองได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไปกว่าต้นไม้จะออกดอกและผลได้เต็มต้นเหมือนเคย

ระยะเวลาที่ว่ายาวนานมากกว่า 9 ปี ในที่สุดต้น Callery pear ก็เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ยืนยันได้จากด้วยความสูงถึง 35 ฟุต หรือเทียบเท่ากับอาคาร 3 ชั้น หากเข้าไปสำรวจใกล้ๆ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างลำต้นเดิมซึ่งมีพื้นผิวหยาบกร้านกับลำต้นใหม่ที่มีพื้นผิวเนียนเรียบมากกว่า เพราะแตกยอดออกมาจากตอเก่า ทั้งหมดกลายเป็นหลักฐานของการต่อสู้เพื่อยืนหยัดมีชีวิต แม้จะเป็นชีวิตของต้นไม้ก็ตาม คณะผู้ดูแลจึงตั้งชื่อใหม่ให้ว่า Survivor Tree

Photo: Courtesy of Mark Lennihan via https://www.wbur.org/npr/132283239/tree-that-survived-9-11-attack-is-replanted-at-ground-zero

ในเวลานั้น ตรงกับเดือนธันวาคม ปี 2010 Survivor Tree ถูกนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของ National September 11 Memorial & Museum หรือ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์เหตุการณ์วินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ซึ่งกำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลต้นไม้นี้มาตลอดจึงวางแผนขนย้าย Survivor Tree กลับไปยังที่ที่มันจากมา หรือเรียกให้ถูกต้องคือบ้านที่แท้จริงของมัน

Survivor Tree ยืนต้นตระหง่านอยู่ท่ามกลาง Swamp white oak อีกหลายร้อยต้นทั่วบริเวณ Ground Zero ซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่โดยรอบของตึกแฝด เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Survivor Tree คือสัญลักษณ์แทนความหวัง ความอยู่รอด และการไม่ยอมแพ้ต่อเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิต พร้อมลุกขึ้นสู้สุดกำลังเพื่อกลับมามีชีวิตดังเดิม

Photo: Courtesy of Jin S. Lee / National September 11 Memorial & Museum
Photo: Courtesy of National September 11 Memorial & Museum

วันที่ 11 กันยายนของทุกปี ชาวอเมริกันและผู้คนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก จะตั้งใจมารวมตัวกันผู้ริบบิ้นและวางดอกไม้รอบๆ Survivor Tree เพื่อร่วมไว้อาลัยและรำลึกถึงคนที่จากไป เพราะต้นไม้นี้เป็นเสมือนสิ่งเตือนใจว่า เมื่อชีวิตยังคงอยู่ ทุกบาดแผลและความเจ็บที่เกิดขึ้นย่อมรักษาให้หายได้ และสิ่งเดียวที่จะหลงเหลือไว้ คือความทรงจำจากคราบน้ำตาที่ไม่มีวันลืมหรือเลือนหายไปจากใจ ตราบเท่าที่เรามีชีวิตและคิดถึงกัน

Photo: Courtesy of Jin S. Lee / National September 11 Memorial & Museum

Did You Know?

  • เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 เมล็ดพันธุ์ของ Survivor Tree จะถูกส่งมอบไปยังหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐอเมริการวมถึงประเทศอื่นๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายแรงจนนำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ ทั้งก่อการร้าย ภัยพิบัติธรรมชาติ และการสังหารหมู่ เพื่อส่งต่อความหวังให้ทุกคนที่เผชิญกับเหตุการณ์หยัดยืนมีชีวิตต่อไป เช่นเดียวกับ Survivor Tree 
  • New York City Department of Parks and Recreation ได้จัดทำแผนผังระบุตำแหน่ง Callery pear ทุกต้นทั่วพื้นที่มหานครนิวยอร์ก เข้าชมได้ที่ https://tree-map.nycgovparks.org/tree-map/species/71298