life

ใครที่คุ้นเคยกับการสัญจรล่องคลองแสนแสบ ย่อมรู้ดีว่าคลองสายนี้เป็นเส้นทางลับที่ทำให้ได้เห็นหลังบ้านของกรุงเทพมหานครอย่างแท้จริง 

เพราะตลอดสองฝั่งขนานคลองมีคู่ตรงข้ามของเมืองสะท้อนให้เห็นเกือบจะตลอดทาง แต่ช่วงที่แตกต่างอย่างโดดเด่นที่สุดของลำคลอง ต้องยกให้บริเวณสะพานหัวช้างที่ฟากหนึ่งคือแหล่งรวมศูนย์การค้าและโรงแรมหรูในย่านปทุมวัน ส่วนอีกฟากแออัดด้วยบ้านเรือนของชาวชุมชนบ้านครัวเหนือ ที่ตั้งรกรากผลิตผ้าไหมทอมือขึ้นชื่อมานานหลายชั่วอายุคน 

และในตรอกซอกซอยของชุมชนแห่งนี้เอง เป็นที่ตั้งของบ้านไม้หลังย่อมที่หลังจากต่อเติมใหม่ ก็กลายเป็น hidden gem ประจำชุมชนบ้านครัวเหนือไปโดยปริยาย

70YoungTeaw

และนอกจากตัวบ้านจะได้รับการต่อเติมและตกแต่งใหม่ให้สวยน่าอยู่ยิ่งขึ้นแล้ว เจ้าของบ้านที่มักจะเฉิดฉายในชุดที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมองไม่เว้นแต่ละวัน ยังได้อาบแดดรับวิตามินดีเพิ่มมากขึ้น หลังหลบอยู่ในเงามืดของบ้านไม้หลังเก่ามาเป็นเวลานาน 

เรากำลังพูดถึง แม่แต๋ว – อัจฉรา นรินทรกุล  อยุธยา นางแบบมือสมัครเล่นรุ่นใหญ่ที่หลายคนอาจเคยผ่านตาทางอินสตาแกรม 70YoungTeaw ที่ยืนหยัดยืนยันในสโลแกน ‘แก่แล้วไม่หง่อม’ สมกับที่ลูกชายอย่าง นินทร์ นรินทรกุล  อยุธยา ผู้บันทึกภาพ ตั้งใจไว้

70YoungTeaw
นินทร์ นรินทรกุล ณ อยุธยา

ในฐานะช่างภาพฝีมือดีคนหนึ่งตั้งแต่ยุคที่นิตยสารยังเฟื่องฟูบนแผง ทำให้นอกจากลั่นชัตเตอร์เพื่อทำงานในแต่ละวันแล้ว นินทร์ยังเริ่มหันมาบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันของบุคคลที่เขารักที่สุดในโลก โดยเลือกจะเล่าเรื่องผ่านเสื้อผ้าที่แม่ใส่และสถานที่ที่แม่ไปในแต่ละวัน

แต่ละชุดที่จัดจ้านทั้งสีสันและแพตเทิร์นที่เห็นในอินสตาแกรมของแม่แต๋วล้วนมีที่มาจากบ้านหลังนี้ ที่เป็นมากกว่าแหล่งชาร์จพลังชีวิตของทั้งแม่และลูกชาย ผู้ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดระเบียบชีวิตประจำวันให้เข้ารูปเข้ารอย เพื่อเอาชนะโรคอัลไซเมอร์ที่กำลังทำลายความทรงจำระยะสั้นของแม่ในทุกๆ วัน

70YoungTeaw
แม่แต๋ว – อัจฉรา นรินทรกุล ณ อยุธยา ในเดรสลายเก๋ขณะทักทายเพื่อนบ้าน
Photo: https://www.instagram.com/p/CP9sHbRDnOn/

 

แม่ หิวไหม กินข้าวรึยัง ออกไปซื้อน้ำเต้าหู้กัน” เพื่อนบ้านละแวกนั้นย่อมคุ้นเคยกับประโยคที่นินทร์ทักทายแม่แบบนี้ทุกเช้าเป็นอย่างดี หลังจากที่เขากลับจากวิ่งออกกำลังกายแข่งกับพระอาทิตย์จนเหงื่อโซมกาย 

กับอีกหลายๆ ช่วงเวลาเกือบจะตลอดวัน ที่เสียงของชายหนุ่มดังเล็ดลอดให้ได้ยินเสมอ – “แม่ ออกกำลังกายรึยัง” “ออกไปนั่งรับแดดกันไหม” “อย่าให้โจรสลัด (สุนัขกินมากเกินไปนะ” ฯลฯ

ผมพยายามไม่ให้แม่นอนกลางวัน ไม่อย่างนั้นตอนกลางคืนเขาจะนอนไม่หลับ ดังนั้น ไม่ว่าผมจะทำอะไรอยู่ตรงส่วนไหนของบ้านก็จะตะโกนถามแม่ตลอดว่า ทำอะไรอยู่ กี่โมงแล้ว เย็นนี้จะทำอะไร ฯลฯ เพื่อให้เขาไม่ต้องนอนหลับในช่วงกลางวัน ผมคิดว่าต้องทำให้นาฬิกาในตัวเขาเดินอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดก่อน” เขาเล่าถึงแนวทางในการดูแลแม่เบื้องต้น

70YoungTeaw

หรือถ้าผมมีธุระต้องไปต่างจังหวัด ก็จะไหว้วานให้พ่อมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ พ่อก็จะแค่ถามว่ากินข้าวรึยัง แม่ก็จะออกไปซื้อเอง ต้องมีคนกระตุ้นถามตลอด ไม่งั้นเขาจะลืมกินข้าว” นินทร์เล่าถึงเหตุผลของคำทักทายสามัญของคนไทยอย่าง ‘กินข้าวหรือยัง’ ที่กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาอีกต่อไป 

แต่ถึงกระนั้น โรคภัยร้ายกาจที่บั่นทอนสภาพจิตใจกลับแฝงไว้ซึ่งข้อดีอย่างการสามารถเปลี่ยนบ้านหลังนี้ให้เป็นบ้านที่น่าอยู่มากขึ้น จนทำให้ชายหนุ่มที่เคยออกไปตะลอนเที่ยวต่างประเทศติดกัน 5 ปี นานครั้งละเป็นเดือน เกิดความรู้สึกอยากอยู่ติดบ้าน และไม่ต้องการออกเดินทางไปไหนอีกแล้ว

70YoungTeaw
เฉลียงสำหรับเอกเขนกบนระเบียงชั้นสอง

บ้านเสื่อน้ำมัน 

เดิมบ้านนี้เป็นบ้านของท่านขุนซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณตาของผม ส่วนบ้านของเราเป็นอีกหลังที่อยู่ติดกัน ซึ่งเตี้ย ทึบ และซอมซ่อกว่านี้ ตอนแม่กับน้าเป็นเด็กจึงชอบขึ้นมามองวิวบนระเบียงบ้านหลังนี้ ที่สูงโปร่งกว่าบ้านหลังอื่นในละแวกนี้ จนในเวลาต่อมา แม่ก็ขอซื้อบ้านหลังนี้ โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่น้าเป็นเจ้าของ เขาเลยทาบ้านเป็นสีเขียวเพื่อทำบ้านเช่า จนสุดท้าย ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็กลับมาเป็นของเรา”  

นินทร์เริ่มต้นเล่าประวัติย่อของบ้านไม้สีเขียวที่ยังคงความงามเหนือกาลเวลา ด้วยรายละเอียดของเชิงชายและลวดลายฉลุอ่อนช้อยในยุคก่อนที่ยังคงเหลือไว้ให้เห็นในหลายๆ ส่วนของบ้าน

70YoungTeaw
อีกหนึ่งมุมนั่งเล่นหน้าบ้าน

ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองในย่านราชเทวี ทำให้แม้จะเป็นบ้านที่ทั้งเก่า เล็ก และรก แต่ก็ไม่ทำให้นินทร์คิดจะย้ายไปอยู่ที่อื่น จนกระทั่งหน้าที่การงานในฐานะช่างภาพ ทำให้เขาได้พบกับอัศจรรย์แห่งการตกแต่งพื้นที่ขนาดเล็กให้สวยน่าอยู่ จนเขาตัดสินใจซื้อบ้านใหม่เป็นของตัวเองทันที 

ผมเคยไปถ่ายภาพที่คอนโดของพี่โหน่ง – วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ซึ่งเป็นห้องที่เล็กมาก แต่พี่โหน่งตกแต่งให้สวยน่าอยู่ได้ ทำให้ผมรู้สึกทึ่ง เพราะผมเติบโตมากับบ้านหลังเล็กที่รกไปด้วยข้าวของจนไม่เคยนึกภาพออกว่า พื้นที่เล็กๆ ก็ทำให้สวยได้เหมือนกัน

70YoungTeaw

นินทร์ไม่ได้แค่พูดเร็ว เดินเร็ว (ขณะเดินเข้าซอยบ้านด้วยกัน ถ้าเขาไม่ชะลอฝีเท้า ยากที่จะเดินตามเขาได้ทันแต่เขายังคิดไว ทำไว ชายหนุ่มจึงจัดการทำเรื่องซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังที่เล็กที่สุดในโครงการแห่งหนึ่งแถวศาลายา บ้านน้อยหลังนั้นนับเป็นสถานที่ที่ทำให้เขาหัดแต่งบ้านเป็นครั้งแรกในชีวิต 

แต่ด้วยทำเลที่ห่างไกล ทำให้นินทร์ (ผู้ไม่ขับรถไม่สะดวกในการเดินทางมาทำงานในเมืองทุกวัน จึงมีแค่แม่กับน้องชายที่อยู่บ้านศาลายา ส่วนตัวเขายังคงใช้ชีวิตในบ้านไม้ท้ายซอยกิ่งเพชรตามลำพัง ด้วยความเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย แค่เคลียร์หนึ่งห้องบนชั้นสองให้โล่ง นินทร์ก็พร้อมจะใช้ชีวิตบนพื้นเสื่อน้ำมันได้สบายๆ

70YoungTeaw
โครงไม้เก่าของบ้านยังคงแข็งแรงจนสามารถดัดแปลงเป็นบาร์ออกกำลังกายได้

ตอนแรกที่ผมอยู่บ้านนี้คนเดียว แทบไม่ต้องเสียค่าไฟเลย เพราะใช้แค่พัดลมกับคอมพิวเตอร์ และหม้อหุงข้าวอีกหนึ่งใบที่ใช้ทำทุกอย่าง เช่น เอามาผัดกับข้าวกิน เพื่อนชอบแซวว่า นี่มึงกำลังออกรายการ เกมต้องรอด อยู่เหรอ” เขาเล่าพลางหัวเราะให้กับชีวิตบนเสื่อน้ำมัน 

แม้จะอยู่คนเดียว แต่แม่ก็มาหาเขาเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ เพื่อซักผ้าและจัดการดูแลบ้านให้ลูกชาย ซึ่งที่จริงแล้ว นินทร์แอบกระซิบว่า “เขามาเพราะหวงของ

70YoungTeaw
เสื้อผ้าและของใช้ของแม่ที่คัดไว้ให้เหมาะควรกับชีวิตประจำวัน

ของที่ว่าก็คือสารพันเสื้อผ้าที่แม่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่วัยสาว ด้วยความเป็นแฟชันนิสต้าผู้รักการแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ ประกอบกับหลงใหลผ้าไหมเป็นทุนเดิม ทำให้แม่แต๋วมีเสื้อผ้าอยู่ในความครอบครองมากเสียจนราวกับมีคลังแสงแห่งอาภรณ์เป็นของตัวเอง 

แต่นับวัน คลังของแม่มีแต่จะรกเรื้อขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะหาของชิ้นไหนไม่เจออีกต่อไป ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ที่ไม่มีใครในบ้านทันสังเกต กระทั่งถึงวันที่แม่ผู้เคยกระฉับกระเฉงและเดินทางเองคนเดียวเป็นประจำถึงคราวตกเครื่องบิน เพราะจำวันเวลาในการเดินทางไม่ได้ นินทร์ถึงได้รู้ว่า ความทรงจำของแม่กำลังถูกโรคร้ายเล่นงาน

70YoungTeaw
แม่กับนินทร์บนโซฟาหน้าทีวี

จากเคยเป็นผู้หญิงที่สนุกกับการแต่งตัวสวยไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน แม่แต๋วหันมาใส่แต่เสื้อผ้าสีทึมเทาชุดเดิมๆ เพราะลืมที่จะหยิบเสื้อผ้าดีไซน์สวยมาใส่ แม้จะยังคงซื้อเสื้อผ้ามาสะสมมากมายกว่าเก่า ที่ทำได้แค่แขวนหรือโยนกองทิ้งไว้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้าน 

นอกจากนี้ นินทร์สังเกตว่า ความทรงจำของแม่จะเริ่มช้าลงทุกสองเดือน คลังคำต่างๆ ในหัวหายไปเป็นร้อยคำ เขาจึงต้องรีบลุกมาทำอะไรสักอย่าง อะไรก็ตามที่จะทำให้แม่ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติที่สุด 

เปิดบ้านเพื่อรับแสงสว่าง คือ วิธีเดียวที่เขานึกออก 

ปฏิบัติการทลายคลังแสงเสื้อผ้าของแม่จึงได้เริ่มต้นขึ้น

70YoungTeaw
ตู้เสื้อผ้าของนินทร์กับแม่ในห้องที่อดีตเคยมีตู้เสื้อผ้าอัดแน่นถึง 3 หลัง

แม่มาบ้านนี้ทุกอาทิตย์ เพราะหวงของ เขาจะไม่ให้ใครถือกุญแจห้องนี้ เพราะไม่อยากให้ยุ่งกับของที่ตัวเองเก็บไว้จนสูงถึงเพดาน ห้องนี้จึงเป็นห้องที่ดึงให้เขากลับมาที่นี่อาทิตย์ละครั้ง” เขาเล่าถึงอดีตห้องเก็บของที่ตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานสไตล์ลอฟต์ของเขาไปแล้ว หลังจากที่เขาตัดสินใจ ‘หักดิบ’ โกยข้าวของที่ใช้งานไม่ได้ทิ้งทั้งหมด 

ถ้าชีวิตเราคิดทางไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะต่างคนต่างก็อ้างเหตุผลของตัวเอง งั้นก็ไม่ต้องยึดหลักของใครแล้ว ยึดหลักธรรมชาติไปเลยว่าจะอยู่กับธรรมชาติ จะต้องไม่สะสมสมบัติบ้า คิดได้แบบนี้ปุ๊บ ผมโทรเรียกช่างเลย

70YoungTeaw

นินทร์จัดการโทรเรียกคนขนของกับช่างให้มาถอดประตูออก แล้วจ้างคนทิ้งของอยู่ 7 วัน โดยเขาช่วยคัดของด้วยตัวเอง เลือกทิ้งเฉพาะผ้าที่ปลวกกัด ส่วนผ้าไหมที่ยังสภาพดีก็แยกเก็บเอาไว้ 

ระหว่างนั้นผมก็ให้น้องชายช่วยถ่วงเวลาไม่ให้แม่มาที่บ้านนี้ ขณะที่ในใจผมก็คิดอยู่ตลอดว่า จะทำยังไงไม่ให้แม่ตกใจ กลัวหัวใจวาย” นินทร์เล่าถึงขั้นตอนที่ยากที่สุดในการต่อเติมบ้าน

70YoungTeaw
หนังสือและนิตยสารเก่าที่กลายสถานะเป็นของสะสม

โมเมนต์ที่แม่เปิดประตูบ้านเข้ามา แล้วรู้สึกถึงแสงสว่างที่จ้าเข้าตา ไม่มีอะไรลำบากใจเท่าตอนนั้นอีกแล้ว” เขาย้อนเล่าถึงนาทีระทึก เมื่อแม่ถึงกับอึ้งก่อนจะเอ่ยปากถามเขาว่า “ข้าวของฉันหายไปไหน”  

ผมก็ตอบว่า คัดไว้แล้วอยู่บนบ้าน แม่ก็โวยต่อว่า ทำไมถึงทำกับของของฉันแบบนี้ มันมีเยอะมากไม่ใช่เหรอ ผมเลยให้เงินก้อนนึงกับเขาไว้ใช้จ่าย พร้อมบอกว่าถือเป็นค่าที่เข้ามายุ่งกับของส่วนตัวแล้วกัน แม่ก็รับเงินไป จบง่ายๆ แบบนั้น” เขายิ้มร่าเมื่อยกภูเขาออกจากอกได้ง่ายเกินคาด 

วันนั้นผมมองว่าตัวเองเจ๋งที่สุด เพราะหลังจากนั้น บ้านก็เป็นบ้านเสียที” 

70YoungTeaw
ห้องทำงานของนินทร์ที่เกิดจากการทลายคลังแสงแห่งอาภรณ์ของแม่จนราบเป็นหน้ากลอง

บ้านแดดส่อง 

ผมชอบแดดที่ส่องมาตรงนี้ในตอนเช้า กว่าจะเปิดบ้านให้โล่งได้เท่านี้ต้องรอถึงสองปีเต็มๆ” นินทร์เล่าถึงพื้นที่ขนาดไม่กี่เสื่อบริเวณนอกชานหน้าบ้าน ที่นอกจากจะเป็นมุมโปรดของตัวเองแล้ว เขามักคะยั้นคะยอให้แม่มานั่งรับแดดเช้าตรงนี้ทุกวัน 

พอแม่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ผมเริ่มนึกถึงสวน เลยค่อยๆ ปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ ทำไปเรื่อย พอต้นไม้เริ่มโต เริ่มมีร่มเงา ทำให้จากที่ตอนแรกเฉลียงตรงนี้มีฝาไม้ตีปิดทึบไว้ ก็สามารถรื้อแผ่นไม้ออก เพื่อเปิดรับแสงแดดได้ เพราะมีร่มไม้ช่วยกรองแสงอีกชั้นนึง ผมรู้สึกว่าบ้านที่มีแสงส่องทำให้ผมไม่เครียด” เขามักยิ้มปิดท้ายแต่ละประโยคเสมอ ก่อนเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของแม่แต๋ว

70YoungTeaw
พื้นที่นั่งเล่นสำหรับรับแดดเช้า

ปกติแม่จะชอบนั่งฟังเพลงในบ้าน จะมีแค่ตอนเช้าที่เขาออกมาเล่นจานทวิสต์หมุนตัวเพื่อออกกำลังกายตรงนี้ ก่อนจะย้ายไปนั่งบนเก้าอี้โครงเหล็กตัวนั้น” ว่าพลางตะโกนเรียกแม่ที่กำลังเอกเขนกบนโซฟาในบ้านให้ออกมานั่งเล่นที่เฉลียงด้วยกัน พร้อมกับให้แม่ทำแบบฝึกหัดง่ายๆ เช่น ตอบคำถามจากเนื้อเรื่องในหนังสือที่เขาอ่านให้ฟัง หรือเล่นต่อชื่อนามสกุลของดาราให้ถูกต้อง 

นินทร์ยังหยิบสมุดบันทึกประจำวันของแม่มาให้เราดู พร้อมกับภาพดาราที่ถูกตัดออกจากนิตยสารเก่า ซึ่งเป็นแบบฝึกหัดใหม่ที่เขาเตรียมให้แม่ประดิษฐ์ภาพตัดแปะคอลลาจ เพื่อฝึกความจำ

70YoungTeaw

ทั้งหมดนี้เป็นแบบฝึกหัดที่เขาคิดและทดลองขึ้นเอง เพื่อเยียวอาการสมองเสื่อมของแม่ให้ทรุดลงช้าที่สุด ทำให้เราสังเกตว่า แม้ตลอดการพูดคุยกับเรา นินทร์จะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม แต่เชื่อเถอะว่าชีวิตในแต่ละวันของเขาไม่สนุกเสมอไป 

อย่างอาทิตย์ที่แล้ว แม่ลืมใส่หน้ากากอนามัยออกไปข้างนอกทั้งๆ ที่ผมย้ำเขาตลอดว่า ก่อนออกจากบ้านต้องมีของ 3 อย่าง ดังนี้ หนึ่งกุญแจบ้าน สองกระเป๋าสตางค์ สามหน้ากาก แล้วเขาก็จำไม่ได้ จำหนึ่งลืมสาม จำสามลืมหนึ่ง ทำให้ผมเครียดมาก แค่สามข้อยังจำไม่ได้” เขาเล่าถึงการต่อสู้กับอารมณ์ของตัวเอง

70YoungTeaw

ความคิดของผมเริ่มต่อสู้กันอยู่ในใจ จะให้ใจเย็นเหรอ ไม่ได้หรอก สุดท้ายผมเลือกที่จะไม่เก็บ เพราะผมเก็บทุกอย่างไว้แบบนี้ไม่ได้ ผมต้องระบาย ก็เลยปาชามข้าวแมวทิ้ง แม่ก็ถามว่า ทำไมต้องทำลายข้าวของ ผมก็เลยขอโทษเขา แล้วบอกว่าผมต้องทำ เพราะห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้ว ให้ท่องแค่ 3 ข้อเอง ไม่ใช่ 30 ข้อเพื่อที่จะแกล้งกัน แล้วหลังจากนั้นเขาก็จำได้” รอยยิ้มพลันหายไปจากใบหน้าของเขา 

ผมไม่ได้โลกสวย และไม่คาดหวังให้ใครต้องเพอร์เฟกต์ ตัวเราเองยังไม่เพอร์เฟคต์ ยังทำลายข้าวของเลย แต่ผมก็มีลิมิตว่า อาทิตย์นี้จะเบาๆ ขอไม่จู้จี้กับแม่มากเกินไป เราจะต้องทำให้ทุกอย่างซอฟท์ลง ไม่งั้นเราจะร้ายเกินไป ผมบอกตัวเองว่าจะไม่ร้ายอย่างนั้นบ่อยๆ” แล้วเขาก็กลับมายิ้มอีกครั้ง

70YoungTeaw
ห้องนอนของนินทร์

อาการป่วยไข้ของแม่ ไม่ได้ทำให้แค่เฉลียงหน้าบ้านสว่างขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนทุกห้องในบ้านให้มีฟังก์ชันที่พร้อมจะเยียวยาหัวใจไปในตัว 

ไล่มาตั้งแต่ห้องนอนของนินทร์และแม่บนชั้นสอง ที่จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนอกจากที่นอนกับมุ้ง เพราะพื้นที่ชั้นบนของบ้านถูกสงวนไว้สำหรับการนอนหลับพักผ่อนเท่านั้น

70YoungTeaw
เฉลียงนั่งเล่นบนชั้นสอง

แม้บ้านหลังนี้ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ด้วยเหตุผลของสภาพบ้านไม้เก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทำให้มีร่องมีรูมากมาย จึงไม่เหมาะแก่การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะลมที่พัดถ่ายเทในตอนกลางคืนไม่ทำให้บ้านนี้ร้อน เปิดแค่พัดลมก็นอนหลับสบายแล้ว 

หรือถึงฝนจะตกหนักจนน่าวิตกสำหรับบ้านไม้เก่า สำหรับที่นี่กลับถือเป็นโมเมนต์แห่งความสุขและสนุกไปในตัว

70YoungTeaw
ครัวและโต๊ะกินข้าวบริเวณนอกชาน

เพื่อนที่อยู่คอนโดเคยมาบ้านผมตอนฝนตกแล้วชอบมาก เขาบอกว่า ที่นี่ฝนตกแล้วสนุกดี มีอะไรทำ เดี๋ยวฝนสาดเข้าทางซ้าย เดี๋ยวสาดทางขวา แล้วก็ต้องถูพื้น อยู่คอนโดแล้วเหงา แค่ปิดกระจกก็จบแล้ว” นินทร์หัวเราะเมื่อเล่าถึงบ้านยามฝนสาด “ถึงฝนจะสาด แต่ก็ไม่ได้มีของที่เปียกแล้วพัง อย่างถ้าโต๊ะกินข้าวเปียกฝน เดี๋ยวก็แห้ง

70YoungTeaw
ห้องน้ำเปิดรับแสงธรรมชาติ

ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องสำคัญที่นินทร์ตั้งใจทำให้โปร่งที่สุด ซึ่งเขาผู้ออกตัวว่าไม่ได้หลงใหลเรื่องการแต่งบ้านเท่าไรนัก จึงไม่จู้จี้ด้านดีไซน์ ขอแค่มีหน้าต่างบานใหญ่ที่สุด และมีต้นไม้มาลง เท่านั้นพอ 

เพราะเรื่องที่เขาต้องใส่ใจมีมากกว่าแค่การเลือกว่าจะปูกระเบื้องหรือผนังปูนเปลือย

70YoungTeaw

แม้แต่การอาบน้ำก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมต้องสู้กับความจำของแม่ เพราะเวลาอาบน้ำเสร็จ เขามักจะใส่ชุดเก่าออกมา ต้องค่อยๆ บอกทุกวันให้แยกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงตะกร้า แล้วใส่ชุดใหม่ออกมา” เขาเล่าถึงกิจวัตรที่ต้องเอาใจใส่

70YoungTeaw
มุมชงกาแฟที่เตรียมรีโนเวทเพิ่มเติมในอนาคต

และเพื่อให้การอาบน้ำแต่งตัวจบตั้งแต่บริเวณชั้นล่าง ตู้เสื้อผ้าที่ถูกลดจำนวนจาก ตู้ เหลือเพียงตู้เดียว เก็บทั้งเสื้อผ้าของแม่ นินทร์ และเสื้อผ้าบางส่วนของพ่อไว้ในที่เดียว จึงอยู่ในห้องอเนกประสงค์ติดกับห้องรับแขก ซึ่งเป็นทั้งห้องแต่งตัว ห้องเก็บของที่รวบรวมทั้งหนังสือและพร็อพในการถ่ายภาพของนินทร์ไว้ที่นี่ ทั้งยังเป็นบาร์ชงกาแฟเล็กๆ อีกด้วย

70YoungTeaw
ไกด์บุ๊กที่เคยผ่านการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน

ข้าวของส่วนตัวของผมจะมีเยอะก็แค่พร็อพถ่ายรูป ส่วนเสื้อผ้าจะมีเท่าปริมาณไม้แขวนเสื้อ ถ้าแขวนไม่พอแล้วก็จะสุดไว้แค่นั้น ไม่ไปแขวนที่อื่น ยังต้องยึดหลักธรรมชาติ คือ ห้ามสะสม” เขายิ้มด้วยนัยน์ตา 

ผมเพิ่งกินกาแฟเป็นตอนไปเที่ยวมองโกเลีย ที่โน่นหนาวจัด และเครื่องดื่มที่ผมต้องกินทุกวันคือ กาแฟร้อน ทำให้หลังกลับจากทริปนั้น ผมกลายเป็นคนชอบดื่มกาแฟ เลยหาซื้อเมล็ดกาแฟกับเครื่องชงแบบชงด้วยมือติดบ้านไว้” การบดเมล็ดกาแฟด้วยมือเป็นอีกหนึ่งแบบฝึกหัดที่เขาให้แม่ทำเป็นประจำ และยังมีแผนการคร่าวๆ วางไว้เผื่อสำหรับอนาคต

70YoungTeaw
อุปกรณ์ชงกาแฟทำมือ

ผมว่าจะรีโนเวทห้องนี้ใหม่ แล้วเปิดเป็นบาร์กาแฟในวันอาทิตย์ เพื่อให้แม่ทำกาแฟขาย โดยผมทำหน้าที่คัดเมล็ดกาแฟดีๆ แต่ก็ต้องรอดูว่าแม่จะทำได้ไหม ตอนนี้เขาบดเมล็ดกาแฟและเทน้ำร้อนได้ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องกะเวลาแค่ไหนในการชงให้กาแฟมีรสชาติดี” นินทร์เล่าถึงว่าที่บาริสต้ากับบาร์กาแฟของเธอในอนาคต 

บ้านแห่งความทรงจำ 

ไม่เหนื่อยขนาดนั้นครับ” เขาตอบถึงกิจวัตรที่นอกจากจะต้องทำงานของตัวเองแล้ว ยังพ่วงหน้าที่ดูแลแม่อย่างใกล้ชิดไปด้วย

70YoungTeaw

เพราะแม่ยังแข็งแรงและทำอะไรได้เอง ซึ่งเมื่อถึงวัยนึงคนเราก็ต้องเจอความเสื่อมบางอย่าง ไม่เสื่อมตรงนี้ก็เสื่อมตรงนั่น สำหรับแม่ก็คือเสื่อมที่ความจำ แต่ผมยังพาเขาไปไหนมาไหนได้ ตอนกลางคืนแม่ก็นอนหลับสบาย ไม่มีปัญหา 

เขาจะดูทีวีจนถึงบ่ายสามโมง แล้วพัก โดยผมจะเลือกเปิดรายการสารคดี ทอล์คโชว์ หรืออะไรที่ตลกๆ ให้เขาดู แม่จะดูทีวีอีกครั้งตอนหกโมงเย็นถึงสามทุ่มครึ่งค่อยขึ้นไปนอน พอหกโมงเช้า เราก็ตื่นพร้อมกัน ผมจะรู้ว่าแม่ตื่นตอนได้ยินเสียงเทอาหารแมว” ช่างภาพหนุ่มยิ้มร่าเริง

70YoungTeaw

ผมว่าการลืมก็ดีไปอีกแบบ ตรงที่ไม่ทำให้ยึดติดกับอะไร ใครไม่มาเยี่ยมหาก็ไม่เสียใจ ไม่ต้องคิดถึง อยู่แค่กับปัจจุบันตรงหน้า” เขาแสดงมุมมองต่อภาวะสูญเสียความทรงจำ

70YoungTeaw

70YoungTeaw

ทุกวันนี้แม่ยังบอกอยู่เลยว่าอยากไปอีเกีย (IKEA) เพราะได้เห็นตุ๊กตาสวยๆ เยอะแยะ ทั้งๆ ที่แม่เคยท้องเสียแล้วอั้นไม่ได้ จนถึงปล่อยกลางห้างนั้นมาแล้ว แต่เขาจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย จำได้แต่การได้เดินเที่ยวในห้างสวยๆ เหมือนกับว่าร่างกายเลือกให้จดจำแต่งสิ่งที่ดีๆ แล้วทิ้งเรื่องไม่ดีไปให้หมด 

อยู่กับปัจจุบัน จดจำแค่ตอนนี้ อดีตทิ้งมันไป – นินทร์ถอดรหัสที่อัลไซเมอร์ส่งสาส์นมาถึงเขาได้คร่าวๆ ประมาณนี้

ชีวิตที่มีอยู่ 100% ตอนนี้ ผมหารครึ่งให้แม่กับงาน เอาไปเลย” ช่างภาพร่างเล็กยิ้มกว้างครั้งที่นับไม่ถ้วน 

70YoungTeaw