เมื่อโลกเปลี่ยนไป เราทุกคนจึงต้อง ‘ลด เปลี่ยน โลก’
เพราะภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลกระทบย้อนกลับ ทำให้เราใช้ชีวิตยากขึ้น กลายเป็นว่าแต่ละวัน เราต้องคอยระวังตัวจากอันตรายของฝุ่น PM 2.5 และมลพิษในอากาศ นี่คงเป็นสัญญาณเตือนสุดท้ายให้ทุกคนรู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำอะไรสักอย่าง
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ยังไม่มีคำว่าสายเกินแก้ หากทุกคนร่วมมือกันปรับพฤติกรรมและเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรต่อธรรมชาติกว่าที่เคย โดยเฉพาะในบริษัทและองค์กรใหญ่ระดับโลก ต่างหันมาใส่ใจภาวะโลกร้อนและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพราะเป็นหนทางเดียวที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกคนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมทั้งเยียวยาและกอบกู้โลกใบนี้เอาไว้ได้
เหมือนกับความตั้งใจของ ‘โตโยต้า’ ที่มุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เท่ากับศูนย์ภายในปี 2050 ในทุกๆ ขั้นตอน
เริ่มจากต้นน้ำที่เกิดขึ้นภายในโรงงาน โดยโตโยต้าเลือกใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ส่วนทรัพยากรในกระบวนการผลิต ต้องถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดและรีไซเคิลต่อได้ แม้แต่แบตเตอรี่ หลังจากใช้งานแล้วก็นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก ไปจนถึงปลายน้ำอย่างกระบวนการจัดซื้อและจัดจำหน่าย รวมทั้งโชว์รูมประหยัดพลังงานของโตโยต้าทั่วประเทศ ล้วนแต่มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้
ภายในเวลาแค่ 6 ปี เปรียบเทียบระหว่างปี 2015 กับปี 2021 โตโยต้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดกระบวนการผลิตไปได้มากถึง 1 ใน 3
ไม่เพียงเท่านั้น โตโยต้ายังคงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการใช้พลังงานและพัฒนารถยนต์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมต่อไป อย่างเช่น Karakuri กลไกอัจฉริยะสำหรับเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนภายในโรงงาน โดยอาศัยหลักกลศาสตร์และแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างเดียว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเลย
นี่คือตัวอย่างผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นของโตโยต้า ที่ต้องการสร้าง ‘สังคมแห่งความเป็นการทางคาร์บอน’ หรือ Carbon Neutrality Society ให้เริ่มขึ้นตั้งแต่ในโรงงาน ก่อนส่งต่อความตั้งใจออกไปยังสังคมภายนอก
โตโยต้าจึงริเริ่มแนวคิด ‘โตโยต้า เมืองสีเขียว’ ผ่านกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมมากมาย ทั้งปลูกป่าชายเลน 642,800 ต้น เพิ่มพื้นที่ชายฝั่งและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้บางปูร่วม 300 ไร่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 8,400 ตันต่อปี ในรั้วโรงงานเอง โตโยต้าได้ปลูกป่านิเวศและสร้างศูนย์การเรียนรู้ฯ ‘ชีวพนาเวศ’ เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ธรรมชาติและแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตภายในพื้นที่โรงงาน
ปัจจุบัน โตโยต้าได้จัดกิจกรรมการปลูกป่านิเวศไปแล้วกว่า 1,350,000 ต้น มีอัตราการรอดตายของต้นกล้าสูงถึงร้อยละ 90 และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 10,800 ตันต่อปี
ล่าสุด โตโยต้าบูรณะพื้นที่เรือนจำเก่าเป็น ‘โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา’ หรือศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงานโตโยต้าที่ไม่ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลย โดยเปิดให้ทุกคนเข้าไปเรียนรู้เรื่องพื้นที่สีเขียว การอนุรักษ์น้ำ การเดินทางอย่างยั่งยืนด้วย Toyota HAMO หรือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนได้ด้วยไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพราะไม่ก่อมลพิษ และการจัดการขยะ ทั่วพื้นที่โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา จึงเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ โดยเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วนำมาเก็บในแบตเตอรี่ที่ผลิตจากเซลล์แบตเตอรี่ของโรงงานที่ผ่านการใช้งานแล้ว
เพื่อตอกย้ำว่าโตโยต้าตั้งใจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะอยากให้คนไทยทุกคนอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ในปีนี้โตโยต้าจึงจัดกิจกรรมสำคัญอย่าง ‘ลด เปลี่ยน โลก’ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ และส่งต่อความเชื่อที่ว่า ‘WE DO TO BALANCE THE WORLD’ พร้อมจุดประกายให้ทุกคนหันมาดูแลโลกด้วยสองมือของเรา
โตโยต้าชวนคนไทยมาร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคืนความสมดุลให้กับโลก ได้ง่ายๆ แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตประจำวันให้รักษ์โลกกว่าที่เคยด้วย 4 วิธีนี้
เริ่มต้นประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ควรปรับอุณหภูมิมากกว่า 25 องศาเซลเซียส ยิ่งตั้งอุณหภูมิสูง ยิ่งช่วยประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องปรับอากาศจะทำงานน้อยลง
เวลาเดินทาง ให้เลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะ เมื่อใช้รถยนต์ส่วนตัวให้เลือกเติมเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อลดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากไอเสีย เท่ากับช่วยยับยั้งภาวะโลกร้อนได้
ทุกครั้งที่จ่ายตลาดหรือซื้อของในร้านค้า ให้พกถุงผ้าติดตัว ไม่รับถุงพลาสติกเพิ่ม และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือนำกลับมาใช้ซ้ำ ส่วนขยะให้แยกตามประเภท เพื่อจะได้นำไปรีไซเคิลต่อ
สุดท้าย ขณะกดสั่งอาหารเดลิเวอรี ให้เลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติกเพิ่ม เพราะปกติแล้วการสั่งอาหารเดลิเวอรีแต่ละครั้งจะสร้างขยะหลายชิ้น เช่น ถุงร้อน กล่องโฟม และภาชนะพลาสติก วิธีนี้ช่วยลดการสร้างขยะพลาสติกได้มาก
โตโยต้าเชื่อมั่นว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงทางบวกให้เกิดขึ้นกับโลกได้จริง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างสมดุลให้โลก ธรรมชาติ และทุกชีวิตอย่างยั่งยืน
ได้เวลาเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปกับโตโยต้า พร้อมรับของรางวัลและสิทธิพิเศษ เพียงแอดไลน์ @LodPlienLok หรือคลิก https://bit.ly/TMTLPLs2