pe©ple

“ถ้าพรุ่งนี้ผมยังลุกขึ้นมาวาดรูปได้ ผมก็จะวาด

“แต่ถ้าวาดไม่ไหวแล้ว ผมก็ยังมีความสุข ที่ได้รู้ว่าที่นี่จะยังอยู่ เพื่อให้ความสุขกับคนอื่น”

หวาง หย่ง-ฟู่ (黃永阜) หรือ คุณตาหวาง ในวัย 96 ปี  กล่าวอย่างยิ้มแย้ม และยังแข็งแรงพอที่จะออกมาทักทายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ของเขา ที่รู้จักกันทั่วโลกในนาม Rainbow Village  

หมู่บ้านสีสันสดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยภาพวาดน่ารักๆ แห่งนี้ อยู่ในเมืองไทจง ประเทศต้หวัน

Photo : commons.wikimedia.org
Photo : commons.wikimedia.org

ผลงานทั้งหมด มาจากปลายพู่กันของคุณตาหวาง อดีตทหารปลดประจำการ ผู้ไม่เคยเรียนศิลปะ

ผลงานศิลปะของคุณตาน่าทึ่งพอๆ กับที่มาของ Rainbow Village

เดิมทีหมู่บ้านนี้เป็นที่พักของเหล่าทหารปลดประจำการพรรคก๊กมินตั๋ง เมื่อก่อนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีครอบครัวทหารอาศัยอยู่กว่า 1,200 ครัวเรือน

เวลาผ่านไปหลายสิบปี หมู่บ้านทรุดโทรมลง ผู้อาศัยก็น้อยลงเรื่อยๆ รัฐบาลไต้หวันเริ่มเห็นว่ารักษาหมู่บ้านไว้ก็ไม่คุ้ม ที่ดินตรงนี้ควรพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คุ้มค่ากว่านี้ได้

ปี 2010 จึงออกหมายถึงผู้อยู่อาศัยที่เหลือเพียง 11 หลัง ว่าจะรื้อถอน โดยให้เงินชดเชยอย่างเหมาะสม ให้ทุกคนไปหาที่อยู่ใหม่

ผู้คนเริ่มทยอยย้ายออก ยกเว้นคุณตาหวาง

“ผมไม่อยากย้าย ที่นี่คือบ้าน เป็นที่แห่งเดียวในไต้หวันที่ผมรู้สึกว่าคือบ้านจริงๆ”

คุณตาหวางจึงตั้งใจว่าจะอยู่จนวันสุดท้ายที่ทางการมารื้อบ้าน

ด้วยความเบื่อและเหงา คุณตาจึงฟื้นวิชาวาดเขียน ที่พ่อเคยสอนตอน 5 ขวบ มาวาดรูปแต่งบ้านตามที่ตัวเองชอบ

Photo : taiwannews.com

“พ่อเคยสอนวาดรูปตั้งแต่ผม 5 ขวบ แต่ผมไม่เคยวาดรูปไหนเสร็จเลย รูปนกในบ้านคือรูปแรกที่ผมวาด”

จากเดิมที่คิดจะวาดแค่เพื่อตกแต่งบ้านตัวเอง ความสุขบางอย่างจากการหวนมาจับพู่กันในรอบ 70 ปี ก็พาคุณตาหวางเผื่อแผ่ผลงานออกไปนอกกำแพงและบ้านอันว่างเปล่าของเพื่อนบ้าน

งานศิลปะของคุณตาไม่มีคอนเซ็ปต์ ไร้กระบวนท่า ทุกอย่างออกมาจากความทรงจำและจินตนาการ

ขบวนพาเหรดหมา แมว เด็กหญิงชาย เครื่องบิน ไปจนถึงดาราที่ชอบ กระจายตัวอยู่ทั่วหมู่บ้านร้าง

Photo : commons.wikimedia.org
Photo : commons.wikimedia.org

และนี่คงจะเป็นแค่รูปวาดแก้เบื่อของคนแก่ ถ้านักศึกษากลุ่มหนึ่งไม่มาพบเข้า

ผลงานที่สะดุดตา บวกกับเรื่องเล่าของคุณตาที่กระทบใจ นักศึกษาเริ่มกระจายภาพของหมู่บ้านและเรื่องราวของคุณตาหวาง เกิดการระดมทุนเพื่อซื้อสีให้คุณตาได้วาดรูป และเรียกร้องให้รัฐบาลเก็บหมู่บ้านที่สวยงามนี้ไว้

แล้วหมู่บ้านแห่งนี้ก็กลายเป็นที่สนใจในระดับชาติทันที

ผ่านไปไม่นาน นายกเทศมนตรีเมืองไทจง ได้รับอีเมลกว่า 80,000 ฉบับจากคนไต้หวัน เรียกร้องให้อนุรักษ์หมู่บ้านแห่งนี้

แล้วมันก็ได้ผล รัฐบาลไต้หวันตัดสินใจยุติการรื้อถอน

ปัจจุบัน Rainbow Village กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลักของไต้หวัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 1.25 ล้านคน

ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชม Rainbow Village พูดคุย และถ่ายรูปกับคุณตาหวาง จนเขาได้รับฉายาว่า Rainbow Grandpa หรือคุณตาสายรุ้ง  

Photo : insearchofumami.com
Photo : commons.wikimedia.org

สำหรับคนที่ได้ฟังเรื่องราวและเห็นสิ่งที่คุณตาทำ ต่างมองว่านี่มันเป็นเรื่องมหัจรรย์

แต่สำหรับคุณตาหวาง สิ่งที่เขาทำ ก็แค่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่าเขารักบ้านหลังนี้เท่านั้นเอง

“รัฐบาลสัญญากับผมว่า พวกเค้าจะรักษาหมู่บ้านไว้ แค่นี้ผมมีความสุขแล้ว และรู้สึกขอบคุณมากๆ”

ทุกวัน คุณตาหวางจะออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยตัวเอง พร้อมกับผลงานล่าสุด ที่เพิ่งวาดเมื่อเช้าติดมือออกมาด้วยเสมอ

Photo : nationmultimedia.com

ในวัย 96 คุณตาหวางไม่แข็งแรงเหมือนก่อน หลายอย่างที่เคยทำได้ ตอนนี้ก็เริ่มทำไม่ไหว แต่มีหนึ่งอย่างที่คุณตาบอกว่ายังไงก็ไหว นั่นคือ การวาดรูป

“การวาดรูปมันทำให้ผมสุขภาพดีนะ ดูสิ เติมสีลงไปนิดๆ หน่อยๆ จากของเก่า ก็กลายเป็นของสวยงามได้เลยนะ ยิ่งพอเห็นคนมากมายเดินทางมาที่หมู่บ้าน เพื่อมาดูรูปที่ผมวาด นี่คือความสุขอย่างที่สุดของผมแล้ว”

ทุกคนที่มาชมภาพวาดของคุณตาหวาง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่มันคืองานที่น่าทึ่งและทรงพลัง ไม่แพ้เรื่องราวของคุณตาเลย ทั้งลายเส้น การใช้สี และการเล่าเรื่องมีสไตล์เฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกับศิลปินสตรีทอาร์ตคนไหน

Photo : commons.wikimedia.org
Photo : kathmanduandbeyond.com
Photo : commons.wikimedia.org

บางคนก็อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับผลงานของ Joan Miró ศิลปินชาวสเปน หรือ Hayao Miyazaki ผู้กำกับภาพยนตร์เอนิเมชั่นชื่อดังชาวญี่ปุ่น แต่งานของคุณตาเกิดจากความคิดที่เรียบง่ายกว่าศิลปินคนอื่นมาก เพราะแค่วาดสิ่งที่รู้สึกและความทรงจำในวัยเยาว์ของตัวเองเท่านั้น

ผลงานของ Hayao Miyazaki (Photo : comicbook.com)
ผลงานของ Joan Miró (Photo : hlloret.com)

ตลอดสิบปีที่ผ่านมา คุณตาหวางจะใช้เงินในกล่องบริจาคที่วางไว้หน้าหมู่บ้าน เพื่อซื้อสีและอุปกรณ์วาดภาพ เมื่อนักท่องเที่ยวมากขึ้น เงินบริจาคก็มากเกินจำนวนสีที่ต้องซื้อ คุณตาหวางจะบริจาคให้กับองค์กรการกุศลในท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุคนอื่นๆ

ไม่แปลกใจเลย ที่เรื่องราวของคุณตาหวางจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
นี่คือการกอบกู้สิ่งที่ตัวเอง ‘รัก’ ด้วย ‘ความรัก’

ไม่มีความรุนแรง ไม่ประท้วง ไม่เรียกร้อง ไม่ขอความช่วยเหลือ แต่เลือกจะแต่งแต้มสีสันให้บ้านที่กำลังจะถูกรื้อด้วยใจรักเพื่อเป็นสิ่งสุดท้ายอย่างลำพัง แต่พลังแห่งความรักนั้นกลับส่งต่อไปไกลถึงใครหลายๆ คน

“ผมชอบที่ได้พูดคุยกับคนอื่น ทุกคนจะบอกว่าภาพวาดของผมสวย มันมีความหมายกับผมมาก ที่สำคัญทุกคนทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป”

Photo : ndtv.com

 

อ้างอิง: