“เพราะร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน
จึงจำไว้เสมอว่าการออกกำลังกายแบบบาลานซ์และถูกต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
ก้อย – วรัญญา พุกผาสุข
ช่างทำผมและนักออกแบบทรงผม Roof Hair Salon
“ปีที่ผ่านมาออกกำลังกายเองที่ห้อง แล้วมันพลาดเกิดการอักเสบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่คิด ไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง”
“เราช็อคมากเพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตอนเด็กๆ สมัยที่เป็นผู้ช่วยทำผมใหม่ๆ ตอนนั้นทุกคนจะบ่นว่าปวดหลังแต่เราไม่เคยปวดเลย แต่พอเราเป็นก็ดันเป็นหนัก ตอนนั้นต้องไปหาหมอกายภาพ ไปเทรนนิ่ง เข้าฟิตเนสสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น”
“เราจริงจังกับการออกกำลังกายมาประมาณ 4 ปีกว่าๆ ตอนที่อายุเข้า 30 ปีแรกยังงงๆ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ก็ออกกำลังกายตามคลิปบ้าง ให้ครูโยคะมาสอนที่ห้องบ้าง ฝึกไปเรื่อยๆ จนเลเวลเพิ่มขึ้น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ครูก็มาไม่ได้ เราก็ออกกำลังกายตามคลิปหมดเลย เพราะเราว่าง ไม่ได้ออกไปไหนและไม่อยากปล่อยให้ตัวเองอ้วนฉุอยู่ในห้อง”
“วันนั้นทำท่าโยคะ บิดไป บิดมา นึกว่าเป็นท่าสบายๆ ออกกำลังกายเสร็จก็ไปอาบน้ำแล้วมานั่งกินข้าว อยู่ดีๆ รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่หลังจนนั่งไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาชันเข่าและยืดตัว นั่งชักโครกไม่ได้ นั่งขัดสมาธิก็ไม่ได้ ต้องหาหมอนมาอิงตรงก้นเวลานั่งเพราะเรานั่งลงตรงๆ ไม่ได้”
“ตอนนั้นเรากลัวไปหมด กลัวว่าจะเป็นหมอนรองกระดูก เรายังรักงานที่ทำอยู่ ถ้าเราพิการหรือทำงานไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไง ในหัวคือคิดไปไกล ตอนแรกมันปวดตรงก้นด้านซ้ายแต่พอเวลาผ่านไปความเจ็บปวดมันลดลงและชัดเจนว่าจริงๆ แล้วมันเกิดขึ้นตรงกระดูกสันหลังช่วงล่าง ตอนนั้นหลอนไปพักใหญ่ รีบทักไปหาพี่เทรนเนอร์ที่มาตัดผมกับเรา เขาเลยแนะนำให้ไปหาหมอกายภาพ”
“พอได้ปรึกษาหมอกายภาพก็ค้นพบว่าบางอย่างมันต้องบาลานซ์ เราต้องศึกษาการออกกำลังกายให้มากกว่านี้ คือไม่ใช่แค่ออกกำลังกายตามคลิปอย่างเดียว บางทีเราเห็นภาพจากสื่อว่าคนในคลิปเขาสวย เขาทำสม่ำเสมอจนดูดี เราก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่พอทำเองจริงๆ ก็พบว่าร่างกายของคนเรามันไม่เหมือนกัน”
“เราไม่อยากโทษคลิปโยคะคลิปนั้นอย่างเดียว เพราะเวลาเราออกกำลังกาย เราไม่ค่อยยืด บางทีมันสะสมมาเรื่อยๆ และบางครั้งพฤติกรรมในการทำงาน การยืน การนั่งของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำร้ายตัวเอง การเจ็บป่วยเหล่านี้มันเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่ง สมมุตินั่งทำงานนานๆ แล้วปวดคอ บ่า ไหล่เราต้องรีบยืด นี่คือสิ่งที่หมอกายภาพบอกมา ทุกวันนี้ก่อนนอนก็ต้องยืดกล้ามเนื้อตลอด”
“เราอาจคิดว่าเราดูแลตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว แต่จริงๆ มันยังไม่สุด เป็นอุทาหรณ์สอนตัวเองด้วยเหมือนกันว่าเราต้องดูแลตัวเองให้ถูกทาง ไม่ใช่คิดเองเออเอง สิ่งที่เราจำไว้เสมอคือที่ทำอยู่นั้นทำดีแล้ว แต่เราต้องทำให้บาลานซ์ ร่างกายของคนเรามันไม่เหมือนกัน การออกกำลังกายแบบบาลานซ์และถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ต้องเคร่งกับตัวเองว่าต้องกินอาหารสุขภาพเท่านั้น เวลาไปเจอเพื่อนเราก็เต็มที่ได้เหมือนกัน”
“ทุกวันนี้เราชอบออกกำลังกายตอนเช้า เพราะทำให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีน เราทำงานตั้งแต่ 11 โมงถึง 1 ทุ่ม วิ่งขึ้น วิ่งลงในร้านแล้วใช้พลังงานเยอะมาก การที่สุขภาพเราแข็งแรง ช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งด้วยเหมือนกัน เวลาตัดผมจะต้องมีภาพอยู่ในหัว มีขั้นตอนต่างๆ เป็นลำดับ เราเลยต้องมีสติมากๆ”
“การที่ร่างกายเราเดี้ยงมันทำให้เราไม่มีสมาธิในการทำงาน เลยรู้สึกว่าสุขภาพนี่แหละคือสิ่งสำคัญที่เราต้องรักษาไว้”