เมื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างโควิด – 19 แพร่กระจายไปทั่วโลก
หนึ่งในประเทศที่ต้องรับมือกับวิกฤตระดับ Pandemic หรือโรคระบาดครั้งใหญ่นี้ คือ อิตาลี
จากสถิติที่มียอดผู้ติดเชื้อ 24,747 ราย และเสียชีวิต 1,809 ราย (ข้อมูลจาก https://www.worldometers.info/coronavirus ณ วันที่ 16 มีนาคม 2020)
นับเป็นอัตราการตายที่มากกว่าประเทศอื่น
ทางการของอิตาลีจึงประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมมีคำสั่งปิดประเทศ โดยเน้น 3 ด้าน ได้แก่ ปิดการเดินทางเข้าออกประเทศ ยกเลิกการรวมตัวกันเป็นกลุ่มและปิดสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุม และขอให้ประชาชนอาศัยอยู่แต่ในบ้าน หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น
โรงเรียน มหาวิทยาลัย ร้านค้า โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ไนท์คลับ คาสิโน และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งจึงต้องปิดทำการอย่างน้อยถึงต้นเดือนเมษายน
ยกเว้นร้านขายยาและร้านอาหาร ซึ่งทางการอนุญาตให้เปิดได้ตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นเท่านั้นและต้องรักษาระยะห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร
นับเป็นมาตรการปิดเมืองที่เข้มข้นที่สุดในยุโรปในตอนนี้ ที่กระทบชาวอิตาเลียนราว 60 ล้านคนทั่วประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะไปใช้เวลาพักผ่อนที่ดินแดนมักกะโรนี
ตอนนี้อิตาลีจึงกลายเป็นเมืองร้างแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เปียซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) จตุรัสหลักของเมืองมิลานที่มักพลุ่กพล่านด้วยผู้คน วันนี้กลับเงียบเหงาไม่มีใคร
หญิงสาวสวมใส่หน้ากากอนามัย เดินผ่านปีอัซซาเดลโปโปโล (Piazza del Popolo) จัตุรัสขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงโรมที่มักคึกคักไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดนัดพบที่โดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์ตรงกลาง ซึ่งมีความสูงเป็นอันดับสองของกรุงโรม
บันไดสเปน (Spanish Steps หรือ Piazza di Spagna ในภาษาสเปน) หนึ่งในแลนด์มาร์กชื่อดังของกรุงโรมที่มีนักท่องเที่ยวมาเดินขึ้นลงตลอดทั้งวัน เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป แต่ตอนนี้มีแต่ความเงียบเหงาและไร้เงาผู้คน
หญิงสาวคนนี้อาจรู้สึกเหงา เมื่อต้องเซลฟี่โดยลำพัง ไร้เพื่อนนักท่องเที่ยวที่มักยืนแน่นขนัดเพื่อถ่ายรูป คาปิโตลิเน ฮิลล์ (Capitoline Hill) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในกรุงโรม
จัตุรัสเปียซซาเดลลาโรทอนดา (Piazza della Rotonda) ที่อยู่ใจกลางกรุงโรมในโมงยามปกติมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมความงามของมหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) และน้ำพุแสนสวยตลอดทั้งวัน แต่ตอนนี้ทุกมุมกลายเป็นจตุรัสร้างไปเสียแล้ว
จัตุรัสนาโวน่า(Piazza Navona) เป็นอีกหนึ่งจัตุรัสที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรม และเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา มีคาเฟ่ให้ผู้คนได้นั่งชิลล์รอบด้าน แต่หลังจากเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 บรรดาร้านอาหารทั้งหลายต้องเงียบเหงา ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว
ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งพักผ่อนที่เก้าอี้บริเวณจัตุรัสนาโวน่า(Piazza Navona) ในช่วงบ้านเมืองปกติ บริเวณนี้มักหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น และเก้าอี้ตัวนี้คงไม่ว่างเปล่าเช่นนี้
บรรยากาศซานมาร์โค (Piazza San Marco) จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในเวนิส ปกติจัตุรัสแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานประชุมที่สำคัญของเมือง ภาพนี้เปรียบเทียบให้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างระหว่างก่อนและหลังปิดประเทศอย่างชัดเจน
เมื่อทางการอิตาลีสั่งปิดประเทศ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น แต่ร้านอาหารยังคงเปิดได้ตามเวลาที่กำหนด และบริการส่งอาหารหลายเจ้าเป็นที่นิยมมากขึ้น ดังนั้นบนถนนอันแสนว่างเปล่า ยังคงเห็นพนักงานปั่นจักรยานส่งอาหารอยู่บ้าง
พนักงานส่งอาหารใส่หน้ากากเดินผ่านเวียเดลโกร์โซ (Via del Corso) ถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังสุดคึกคักใจกลางกรุงโรมที่ตอนนี้ร้างรานักท่องเที่ยวและนักช้อป และร้านค้าต้องปิดตัวด้วยเช่นกัน
บรรยากาศบริเวณเปียซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) จตุรัสหลักของเมืองมิลานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนเมื่อมาถึงมิลาน ตอนนี้ไร้เงาผู้คน มีเพียงฝูงนกและความเงียบเหงา
ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดอย่างกัลเลรีอา วิตโตรีโย เอมานูเอเล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อยู่ใจกลางเมืองมิลาน ไม่เคยเงียบเหงาหรือไร้นักช้อปแบรนด์เนมเช่นนี้มาก่อน
ในช่วงอิตาลีปิดเมือง มีเพียงคนท้องถิ่นอย่างสาวอิตาเลียนเท่านั้นที่เดินผ่านเวีย คอนดอททิ (Via Condotti) ถนนสายแบรนด์เนมที่อยู่ใจกลางกรุงโรม ซึ่งตอนนี้ปิดตัวลงชั่วคราว โดยปกติบรรยากาศบนถนนสายนี้ตื่นตาไปด้วยแฟชั่นคอนเล็คชั่นใหม่ๆ และเต็มไปด้วยน้กช้อปจากต่างประเทศ
บริเวณน้ำพุ เทรวี่ (Trevi Fountain) ลานน้ำพุและอนุสรณ์สถานที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่อยู่ใจกลางกรุงโรม เต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบเหงาแบบที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
ผิดไปจากช่วงก่อนอิตาลีปิดเมืองที่ผู้คนมักมาเก็บภาพความสวยงามและความโรแมนติกของสถาปัตยกรรมแห่งนี้.