การจรดนิ้วบนแป้นคีย์บอร์ดกลายเป็นกิจวัตรของผู้คนสมัยนี้ไปแล้ว นับตั้งแต่สมาร์ทโฟนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
หรือแม้แต่การใช้งานบนคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่กลายเป็นงานง่ายๆ ของผู้คนในยุคนี้
ต่างจากเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ที่การพิมพ์เป็นเรื่องเฉพาะกิจที่ยุ่งยาก และก่อนจะมาถึงมือประชาชนทั่วไป กิจการงานพิมพ์ถือเป็นเรื่องต้องห้ามที่กระทำได้เฉพาะแวดวงทหารเท่านั้น
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_01-4.jpg)
และแม้เครื่องพิมพ์ดีดจะกลายเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่ช่วยให้การบันทึกข้อความดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นทางการขึ้นกว่าการใช้ลายมือเขียน คนที่จะเข้าถึงเครื่องพิมพ์ดีดจริงๆ ก็มีเฉพาะนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ หรือการใช้งานในสำนักงานเท่านั้น
การได้ยินเสียงพิมพ์ดีดดังต๊อกแต๊กเหมือนข้าวตอกแตก เสียงดังกริ๊งเมื่อพิมพ์จบบรรทัด และเสียงการบรรจงใส่กระดาษเข้าเครื่องและรูดออกมา จึงเป็นเหมือนแดนสนธยาของผู้คนในยุคปัจจุบัน
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_02-4.jpg)
คนส่วนใหญ่แทบไม่เคยเห็นเครื่องพิมพ์ดีดของจริงด้วยตาตัวเองเลยสักครั้ง
becommon จึงขอพาคุณไปเที่ยวทั่วโลก ผ่านเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นโบราณมากหน้าหลายตา ที่ทุกเครื่องใช้งานได้จริง และได้รับการพกพาให้ไปทัวร์ใน 72 ประเทศทั่วโลกมาแล้ว
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_03-4.jpg)
ก่อนเครื่องพิมพ์ดีดจะออกเดินทาง
Steve Parry คือชายชาวอังกฤษผู้เป็นเจ้าของเครื่องพิมพ์ดีดโบราณเกือบ 30 เครื่อง โดยทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่ผลิตขึ้นในระหว่างยุค 1920-1960 ที่ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเครื่องพิมพ์ดีด ก่อนจะถูกคอมพิวเตอร์ยึดพื้นที่ไปในที่สุด
จุดเริ่มต้นในการสะสมเครื่องพิมพ์ดีดของสตีฟ เกิดขึ้นที่ความสูง 35,000 ฟุตเหนือพื้นดิน บนสายการบินคาเธย์แปซิฟิค ไฟลท์ฮ่องกง – ซานฟรานซิสโก เมื่อสตีฟเลือกดูภาพยนตร์สารคดีเรื่อง California Typewriter เพื่อฆ่าเวลาหลายชั่วโมงที่ต้องจับเจ่าบนเครื่องบิน
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_04-4.jpg)
เรื่องจริงของเหล่าผู้คนในหลากหลายอาชีพที่ยังคงใช้พิมพ์ดีดในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นคนดังอย่างทอม แฮงส์ หรือจอห์น เมเยอร์ สร้างแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าให้สตีฟออกตามหาพิมพ์ดีดเครื่องแรกในชีวิตมาครอง
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_05-4.jpg)
Love at First Type
เขาพบรักกับพิมพ์ดีด Hermes 3000 รุ่นปี 1968 ที่วางขายอยู่ในกรุงนิวยอร์ค ในตอนที่เขากำลังฆ่าเวลา (อีกแล้ว) ระหว่างการเดินทางไปเมือง Pau ประเทศฝรั่งเศส เขาหลงใหลในพิมพ์ดีดขนาดแคร่ 13 นิ้วสีเขียวมิ้นต์ที่ยังใช้งานได้ดีเครื่องนี้ทันที
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_06-4.jpg)
สําหรับผู้ที่เกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง หรือประกอบอาชีพที่ต้องใช้พิมพ์ดีด จะทราบดีว่า “แอร์เมส” ไม่ใช่ชื่อกระเป๋า แต่เป็นแบรนด์เครื่องพิมพ์ดีดที่โด่งดังและมีประวัติยาวนาน ผลิตโดย E. Paillard& Company ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเคยทำนาฬิกาและกล่องดนตรีมาตั้งแต่เมื่อ 200 ปีที่แล้ว และหันมาผลิตเครื่องพิมพ์ดีดช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จนครองสถานะผู้ผลิตรายใหญ่ในยุโรป
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_07-4.jpg)
จากการได้ลองใช้งานจริง สตีฟเทคะแนนให้ Hermes 3000 เป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่เหมาะสำหรับนักเขียนเป็นอย่างยิ่ง (แม้เขาจะออกตัวว่าตนไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพก็ตาม) ตัวเครื่องผลิตโดย Paillard บริษัทผลิตเครื่องพิมพ์ดีดชั้นนำที่ใส่ทุกนวัตกรรมที่จำเป็นในเครื่องพิมพ์ดีดยุคนั้นไว้ใน Hermes 3000 แบบครบครัน ทำให้นอกจากจะดีไซน์สวยไม่สร่างแล้ว สัมผัสของการลงน้ำหนักนิ้วบนแป้นพิมพ์แต่ละตัวยังนุ่มนวล ชวนให้การพิมพ์เพลิดเพลิน ไม่มีสะดุด และไม่ต้องออกแรงนิ้วเพื่อกดแป้นพิมพ์มากนัก
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_08-4.jpg)
แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เทอะทะของ Hermes 3000 และน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะพกติดตัวไปด้วยขณะเดินทาง ซึ่งด้วยงานและแพสชั่นส่วนตัวของเขาทำให้ต้องออกเดินทางอยู่บ่อยๆ สตีฟจึงต้องตามหาเครื่องพิมพ์ดีดน้ำหนักเบาและมีฟังก์ชันเหมาะกับการพกพาอีกเครื่อง
ก่อนที่จะตามมาด้วยการสะสมเครื่องพิมพ์ดีดโบราณอีกเป็นพรวน ที่สตีฟคงยังไม่จบที่เครื่องไหนเป็นเครื่องสุดท้ายง่ายๆ
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_09-4.jpg)
9 เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นพกพาที่ดีที่สุด
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_10-4.jpg)
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_11-4.jpg)
จากประสบการณ์พกพาเครื่องพิมพ์ดีดเดินทางไปเยือน 72 ประเทศทั่วโลก สตีฟพบว่า เครื่องพิมพ์ดีด 2 รุ่นที่มีน้ำหนักเบา และเหมาะแก่การเดินทางที่สุด ก็คือ Hermes Baby และ Smith Corona Skyriter ที่มีขนาดและน้ำหนักเท่ากันคือ 3.2 กิโลกรัม (หรือ 3.4 กิโลกรัมเมื่อใส่เคส)
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_12-3.jpg)
โดยเฉพาะ Hermes Baby ที่เป็นรุ่นแรกของพิมพ์ดีดกระเป๋าหิ้ว และมีแป้นอักษรสี่แถว สร้างขึ้นเพื่อเจาะตลาดของพิมพ์ดีดขนาดเล็ก ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักเขียน คนดัง และนักข่าวในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นฟรองซัวส์ ซากาน, โจเซฟ บรอดสกี้, จอห์น สไตน์เบค, เฟรเดอริก ฟอร์ไซต์ และวิลเลียม เอส. โบโรส์ ต่างก็เคยใช้ Hermes Baby กันทั้งนั้น
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_13-3.jpg)
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_14-3.jpg)
แต่สำหรับทริปไหนที่เขานึกครึ้มอกครึ้มใจพอที่จะยอมแบกน้ำหนักมากขึ้นมาอีกนิด เพื่อขนเครื่องพิมพ์ดีดที่แข็งแรง สมบุกสมบันติดตัวไปด้วย หลายครั้งที่เขาเลือก Gossen Tippa ที่มาพร้อมกระเป๋าหนังแท้ดีไซน์เฉพาะตัว สะดวกแก่การพกพามากยิ่งขึ้น
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_15.jpg)
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_16-1.jpg)
หลายครั้งอีกเช่นกันที่สตีฟยอมแบกน้ำหนักมากขึ้นอีก 1 กิโลกรัม เพื่อยอมแลกกับการพกเครื่องพิมพ์ดีดสุดแข็งแกร่ง สะเทินน้ำสะเทินบกอย่าง Olympia 66 และ Olympia 99 ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์กว่า เพราะถูกผลิตมาเพื่อการใช้งานบนโต๊ะทำงานโดยเฉพาะ
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_17.jpg)
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_18.jpg)
รวมถึง Brother De Luxe และ Olivetti Lettera 32 ที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ และให้ความรู้สึกที่พิเศษมากขณะพิมพ์ โดยเฉพาะ Lettera 32 ที่ได้ชื่อว่าเป็นแล็ปท็อปรุ่นโบราณ หรือ Ancient Laptop เพราะมีด้านล่างที่ปิดทึบ ทำให้วางบนตักได้ นับเป็นพิมพ์ดีดกระเป๋าหิ้วที่แข็งแรงทนทานมาก
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_19.jpg)
แม้ Corona 3 จะไม่ใช่พิมพ์ดีดที่เหมาะแก่การพกพา เพราะข้อเสียคือ ตัวเครื่องต้องเก็บในเคสเฉพาะตัวที่รูปร่างเทอะทะจนไม่สามารถแพ็คใส่กระเป๋าเป้ขนาดทั่วไปได้ และต้องถืออย่างระมัดระวัง แต่สตีฟก็ยังเลือกพกไปด้วยเป็นอันดับต้นๆ เพราะให้ความรู้สึกที่พิเศษสุดขณะพิมพ์
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_20.jpg)
Underwood Standard Portable เป็นอีกรุ่นที่พกพายาก แต่สตีฟก็ยอมลำบากที่พาไปด้วยในหลายๆ ที่บนโลกใบนี้ ด้วยศักดิ์ศรีของแบรนด์เครื่องพิมพ์ดีดเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับให้ใช้งานในระหว่างสงครามโลก คือ เครื่องหมายการันตีถึงความสมบุกสมบันที่พร้อมจะเดินทางไปกับสตีฟทุกพื้นที่บนโลกนั่นเอง
![typewriter traveler](https://becommon.co/wp-content/uploads/2020/06/body_21.jpg)
ยังมีเครื่องพิมพ์ดีดวินเทจอีกหลากยี่ห้อ หลายดีไซน์ ที่สตีฟช่วยคืนชีวิตให้อดีตเครื่องพิมพ์ของมนุษยชาติ ด้วยการพกพาเครื่องพิมพ์ดีดติดตัวไปทัวร์ทั่วโลกกับเขา พร้อมทั้งใช้งานจริงทุกเครื่อง อย่างน้อยก็เพื่ออนุรักษ์ให้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดั้งเดิมยังพอมีลมหายใจต่อไป
ติดตามการเดินทางของเครื่องพิมพ์ดีดโบราณกันต่อได้ทางอินสตาแกรม instagram.com/typewritertraveler/
หรือใครอยากเป็นเจ้าของเครื่องพิมพ์ดีดโบราณสักเครื่อง ศึกษาวิธีเลือกซื้อที่สตีฟแชร์ทิปส์สู่กันฟังแบบไม่หวงเครื่องได้ที่ www.typewritertraveler.com/