“ฟิล์มยังไม่ตาย และฟิล์มไม่เคยหายไป”
‘กรึ่กกกกกกก’
เสียงฟิล์มกรอกลับหลังรูปที่ 36 ถูกบันทึกไว้ ไม่อาจแน่ใจว่ารูปที่ได้จะตรงตามที่จินตนาการไว้ในหัวก่อนหน้านั้นหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ต้องลุ้น (สำหรับมือใหม่อย่างเรา) หรือจะเรียกว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของฟิล์มก็ไม่ผิด
แม้การถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มจะเคยถูกทอดทิ้งไปช่วงหนึ่ง เพราะผู้คนหันมาสนใจความสะดวกรวดเร็วของกล้องดิจิทัลกันมากขึ้น แต่ยังมีคนที่หลงรักและใช้ชีวิตผูกติดกับกล้องฟิล์มเรื่อยมา โดยอาจไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งมันจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง
common ชวนพูดคุยกับ 4 เจ้าของร้านล้างและสแกนฟิล์ม ผู้หลงรักความเนิบช้าของโลกภาพถ่ายแบบแอนะล็อก จนตัดสินใจสร้างพื้นที่บรรจุความหลงใหลนี้ขึ้นมา
แต่ละร้านที่เราได้นั่งพูดคุย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่กังวลเลยที่ร้านล้างฟิล์มมีจำนวนมากขึ้น และยินดีกับการเติบโตอีกครั้งของความแอนะล็อกที่เคยเหี่ยวเฉา
ถึงแม้ว่าทุกร้านมีเรื่องเล่าแตกต่างหลากรสเฉพาะตัว แต่สิ่งที่มีเหมือนกัน คือ แพสชั่นล้นเอ่อที่พร้อมส่งต่อให้ทุกคน กับความรักในการบันทึกช่วงเวลาด้วยกล้องฟิล์มตัวโปรด
(อาจฟังดูเลี่ยนไปหน่อย แต่เรารู้สึกได้ถึงความรักจริงๆ นะ)
1. Snap Lab Town in Town
“ผมมองว่าการถ่ายรูปด้วยฟิล์มเป็นเหมือนไทม์แมชชีน”
อ๊อตโต้-ชาญเดช จันทร์จำเริญ มือกลองวง Lomosonic หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านล้างฟิล์ม Snap Lab Town in Town เล่าให้ฟังหลังจากได้ล้างฟิล์มภาพของลูกค้าสมัยเด็กๆ ที่ผู้เป็นพ่อถ่ายและเก็บเอาไว้โดยไม่ล้างนานหลายสิบปี
“มันมีเสน่ห์หลายอย่างเลย หลายครั้งที่เราเจอภาพสนุกๆ แปลกๆ อย่างช่วงก่อนนี้เห็นเลยว่า คนไทยไปเที่ยวโอซาก้าเยอะมาก เพราะตอนล้างฟิล์มออกมาเจอแต่ภาพโอซาก้า (หัวเราะ)”
นี่คือสิ่งที่อ๊อตโต้มองว่าเป็นกำไรจากการเปิดร้านล้างฟิล์มที่เขา รวมทั้งหุ้นส่วน โอ๊ต-ณัฐพร โสดาบรรลุ และบริบูรณ์ วีระวงศ์ (บาบูน) สองช่างภาพมืออาชีพ ตั้งใจให้เป็นคอมมูนิตี้แลกเปลี่ยนเรื่องการถ่ายภาพ
“เราชอบให้คนเข้ามานั่งคุยกัน แนะนำเทคนิคต่างๆ ให้กันและกัน สถานที่เราก็เอื้อให้นั่งคุยกันด้วย ดีกว่าให้เขาเข้ามาส่งฟิล์มแล้วเดินจากไป”
พูดได้ว่าเจ้าของร้านทุกคนหลงใหลการถ่ายรูปเข้าขั้นที่พวกเขานิยามตัวเองว่า ‘บ้า’
“เราอยากทำงานดีๆ ให้ลูกค้าชอบ อยากให้เขาได้ภาพคุณภาพดี ที่ร้านยังให้ไฟล์ใหญ่ถึง 10 เมกกะไบท์ไปเผื่อลูกค้าขยายใหญ่ด้วย ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเด่นของร้านเรา”
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพนักงานล้างฟิล์มมือดีอย่างนัท-พงศกร เนตร์อ่อน ที่มีประสบการณ์การทำงานในร้านล้างฟิล์มที่นิวยอร์ก นัทเล่าให้เราฟังถึงประสบการณ์การทำงานที่โน้นว่า ส่วนใหญ่คนที่เอาฟิล์มมาล้างเป็นช่างภาพมืออาชีพ ราคาฟิล์มก็สูงมากด้วย แตกต่างจากที่เมืองไทยที่เขาพบเจอคนหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่เด็กนักเรียนไปจนถึงคนทำงานโปรดักชั่นภาพยนตร์และนักดนตรี ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ Snap Lab Town in Town
“ตอนทำงานล้างฟิล์มที่นิวยอร์ก ผมเจอฟิล์มภาพนู้ดบ่อยมาก ไม่รู้ทำไม (หัวเราะ) หรือไม่ก็พวกงานแนวคอนเซปต์ แต่ภาพในฟิล์มของคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นภาพชีวิตประจำวัน บางคนถ่ายงานจริงจังก็มี”
บางคนอาจมองว่าการถ่ายกล้องฟิล์มในยุคนี้เป็นงานอดิเรกที่ชวนสิ้นเปลืองเงิน โดยเฉพาะเด็กๆ ยุคใหม่
“ถ้าเรากินข้าวหรือกินกาแฟแก้วละ 100 บาทได้ ก็ทำไปเถอะครับ ถ้ามันทำให้เรามีความสุข”
Snap Lab Town in Town
ที่ตั้ง: หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ ซอย 11 ติดร้านกาแฟ NOW ถนนลาดพร้าว
เปิด: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 12:00 – 20:00 น. ปิดวันอาทิตย์
เบอร์โทร: 095-068-4148
https://www.facebook.com/pg/snaplabtownintown
2. Patani Studio
อีกหนึ่งบทสนทนาเกิดขึ้นที่ร้านล้างอัดฟิล์มย่านหัวลำโพงชื่อ Patani Studio ร้านล้างฟิล์มเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านมากกว่า
ด้วยพื้นที่ที่ออกจะแคบเกินไปจนไม่เพียงพอต่อการทำงาน เต้-ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ จึงตัดสินใจย้ายร้านไปที่ Warehouse 30 เร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร้านอยากเข้าหาคนมากขึ้นด้วย หลังจากซ่อนตัวอยู่ในซอยนานา ย่านเมืองเก่ามานานหลายปี
ถึงแม้โลเคชั่นของร้าน Patani Studio อาจเข้าถึงยากสำหรับหลายคน แต่ลูกค้ายังคงวนเวียนแวะไปเสมอ
“เราพยายามยืนด้วยลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะและเสนองานบริการที่หลากหลาย นอกจากงานฟิล์มถ่ายใหม่ที่เข้ามาในแต่ละวัน งานอนุรักษ์ฟิล์มเก่า แสกนภาพถ่ายและฟิล์มเก่าๆ ของครอบครัวที่เริ่มจะเสื่อมสภาพก็เป็นงานที่เราให้คุณค่าซึ่งใช้เวลาและมีรายละเอียดมากกว่าทำงานกับฟิล์มใหม่ รวมถึงงานพรินท์ในห้องมืด”
สัมผัสที่จับต้องได้เป็นเสน่ห์ของกระดาษที่เต้หลงไหลมาตลอด งานพรินท์ภาพแบบแอนะล็อคจึงเป็นจุดเด่นของที่นี่ ทั้งขาวดำและสี ซึ่งมีร้านล้างฟิล์มน้อยรายที่รับทำ
“เวลาทำงานเราก็เรียนจากงานลูกค้าด้วย…งานห้องมืดมันเหมือนเล่นกีต้าร์ คอร์ดมันมีอยู่แค่นี้แหละ แต่ใครจะไปได้ถึงไหน”
เมื่อคุยจบเต้ก็ลุกไปค้นภาพที่เคยถ่ายและอัดมาให้ดู พร้อมกันนั้นไม่ลืมฝากเราประชาสัมพันธ์ ว่าใครที่เคยมาล้างฟิล์มที่นี่แล้วยังไม่ได้เอาฟิล์มเนกาทีฟกลับไป แวะมาเอาได้ตลอด แม้จะผ่านมาสี่ห้าปีเขายังเก็บไว้ให้
“บางคนได้ไฟล์รูปแล้วก็ไปเลย…แต่เราทิ้งไม่ลง เราทำงานกับฟิล์ม” เต้พูดพลางดันกล่องใส่ฟิล์มจำนวนมากเก็บเข้าที่เดิม
Patani Studio
ที่ตั้ง: 59 ซอยนานา แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
เปิด: ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา: 10:00-18:00 น.
เบอร์โทร: 081-985-9691
https://www.facebook.com/patanistudio/
3. Xanap FilmLab
หลายคนอาจคุ้นหูคุ้นตา กับ Xanap FilmLab หนึ่งในแล็บล้างสแกนขวัญใจวัยรุ่นใจกลางเมือง ที่เพิ่งย้ายจากสามย่านมาอยู่ลิโด้เมื่อไม่นานมานี้
แล็บเล็กๆ ที่อบอุ่นแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ หลิน-รินรดา, ปุ๊-จักรพงษ์ และธันวา-ลุจินตานนท์ สามเพื่อนรักที่หลงใหลการถ่ายรูปมาเนิ่นนาน พวกเขาช่วยกันคิดโปรเจกต์ร้านล้างฟิล์มขึ้นมา และพัฒนาจนมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และตามมาด้วย หนึ่ง-นพอนนต์ และ อาย-อคัมย์สิริ ทำให้ปัจจุบันร้าน Xanap FilmLab คับคั่งด้วยหุ้นส่วนถึง 5 คน
“ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะล้างสแกนฟิล์ม สมัยเรียนเราเป็นคนกลุ่มน้อยที่ถ่ายฟิล์ม แล้วมีเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องมาปรึกษาหรือคำแนะนำมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็มีไอเดียอยากสร้างที่ที่หนึ่งให้เป็นที่นั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องกล้องฟิล์ม ก็ออกมาเป็นร้านล้างฟิล์ม เพราะทุกคนที่ถ่ายฟิล์มก็ต้องล้างฟิล์ม”
พวกเขาไม่ต่างจากคนรุ่นใหม่หลายคนที่มีกำแพงกั้นระหว่างตัวเองกับร้านล้างฟิล์ม บางครั้งช่างภาพรุ่นใหม่อาจเจอคนรุ่นใหญ่ยืนอยู่เต็มร้าน ก็ได้แต่เกร็งๆ กลัวๆ จนสุดท้ายรีบล้าง รีบกลับ โดยที่ไม่ได้สนทนาอะไร
แก๊ง Xanap FilmLab หยิบประสบการณ์ตรงนี้มาบวกกับโลเคชั่นใกล้โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ทำให้ที่นี่ได้รับการแนะนำปากต่อปากว่าเปิดกว้างและพร้อมต้อนรับมือใหม่ทุกคน
“ด้วยความที่เราเรียนนิเทศฯ กันมา เราพยายามใช้สกิลการสื่อสารของเราให้มากที่สุด จริงๆ กล้องฟิล์มเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์มากๆ ส่วนการถ่ายรูปเป็นศิลปะ เราต้องทำให้คนที่สนใจศิลปะ เข้าใจในเครื่องมือนี้ก่อน ถ้าเราทำให้เขาเข้าใจได้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง เขาก็อาจจะสนุกกับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มมากขึ้น”
ถือได้ว่า Xanap FilmLab เป็นร้านน้องใหม่ที่น่าเอ็นดู แถมรุ่นพี่ในวงการฟิล์มก็เกื้อหนุนเป็นอย่างดี คนรุ่นใหญ่พร้อมให้คำแนะนำพวกเขา เหมือนกับที่พวกเขาพร้อมให้คำแนะนำลูกค้าต่อๆ ไป
Xanap FilmLab
ที่ตั้ง: ลิโด้ ชั้น 2 (สยามสแควร์)
เปิด: ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 11:30-21:00 น.
เบอร์โทร: 02-001-4636
https://www.facebook.com/xanap.filmlab
4. AIRLAB
หลังจากคลุกคลีทำงานในวงการช่างภาพและผู้กำกับโฆษณามานาน สิ่งที่แอ๊ะ หรือ ชาติฉกาจ ไวกวี ต้องการ คือ พื้นที่ทำงานเพื่อค้นหาตัวเองให้ลึกลงไปอีก หลังจากได้รับตำแหน่ง 1 ใน 35 ช่างภาพที่น่าสนใจที่สุดในโลก โดย Thames & Hudson มาครอง
AIRLAB คือหนึ่งในพื้นที่ที่ว่า เขาสร้างขึ้นมาเป็นแล็บล้างและสแกนฟิล์มที่มีจุดเด่น คือ พนักงานที่จบสาขาการถ่ายภาพโดยตรง ผู้ชอบชวนเปิดประสบการณ์ด้วยความรู้ทั้งหมดที่มี พร้อมดึงความสนใจและศักยภาพของคนเล่นกล้องออกมาให้มากที่สุด จึงไม่แปลกที่หลายคนตั้งใจมาล้างสแกน แต่จบที่ได้ลองอัดภาพ ลงเรียนพื้นฐานการถ่ายภาพฟิล์ม จนเข้าใจและหลงใหลความเป็นแอนะล็อกการมากขึ้นไปอีกขั้นที่ ‘AIR ACADEMY’
“อยากให้ Air Academy เป็นอาชีวะด้านการถ่ายภาพ คือทำยังไงให้คนไม่ต้องเรียนนิเทศฯ ก็ถ่ายภาพได้
“เราอยากเป็นร้านที่ทำมากกว่าล้างและสแกน ผมถ่ายฟิล์มมาตลอดชีวิตแล้วก็อยากทำโรงเรียนขนาดย่อมเพื่อให้คนที่สนใจการใช้กล้องฟิล์มรู้ว่า กระบวนการไม่ได้จบที่การล้างและสแกน มันอัดได้ ขยายต่อได้ มีการทำงานในห้องมืดเต็มรูปแบบ รู้จักการใช้เครื่องอัดรูป”
แอ๊ะเน้นย้ำความตั้งใจเสมอว่า “แอร์แล็บไม่ใช่ร้านแล็บ” แต่เป็นที่ที่ทำให้ได้มาเจอเพื่อนใหม่ที่มีความคลั่งไคล้มากกว่าการถ่ายภาพฟิล์ม หนึ่งในนั้น คือ งานถ่าย บูรณะและอัดขยายภาพงานโบราณคดีด้วย
ด้วยความหลากหลายที่รายล้อม เราเลยต้องขอคำนิยามอย่างเป็นทางการจากปากเจ้าของร้าน แอ๊ะบอกว่า “ที่นี่คือแล็บของของไอ้แอ๊ะ ที่ไอ้แอ๊ะมันกำลังทดลองชีวิตของมันอยู่”
AIRLAB
ที่ตั้ง: 95 ซอยสุขุมวิท 81 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10260
เปิด: ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10:00-19:00 น.
เบอร์โทร: 099-464-6535