©ulture

พูดว่ารักตัวเองนั้นง่าย แต่จะให้ทำจริงๆ กลับยาก

เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เป็นเรื่องยากที่จะเคารพและยอมรับตัวเองได้จากก้นบึ้งของหัวใจเพราะเรามักจะมองเห็นข้อบกพร่องของตัวเองได้ชัดเจนมากที่สุด จนเผลอเชื่อว่าเราเองไม่สมควรได้รับความรักจากใครด้วยเช่นกัน

becommon ขอชวนมาเดทกับตัวเอง นั่งดูซีรีส์ที่จะทำให้มองเห็นคุณค่าของตัวเรามากกว่าที่เคย และคุณอาจพบว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่กำลังเผชิญกับความแหว่งวิ่นและเจ็บปวดกับตัวตนที่ดูจะไม่มีวันสมบูรณ์ พวกเขาในซีรีส์แต่ละเรื่องก็กำลังเรียนรู้ที่รักตัวเองไม่ต่างกัน

Ann with an E 

เพราะเชื่อมั่นในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

จึงมอบความรักให้คนรอบข้างได้ทั้งหัวใจ

แอนน์ เป็นเด็กหญิงช่างพูดและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากถือกำเนิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจนทำให้แอนน์ต้องอาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของแมทธิวและมาริลลาสองพี่น้องตระกูลคัตเบิร์ตแห่งกรีนเกเบิลส์โดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่ว่าใครที่พบกับแอนน์เป็นครั้งแรกต่างก็สัมผัสได้ว่าเธอช่างดูโดดเด่นกว่าเด็กหญิงคนอื่นๆ แอนน์สดใส ร่าเริง และช่างพูด เธอมักจะพูดถึงบทกวีจากในหนังสือที่ได้อ่านอยู่เป็นนิจ เธอเป็นตัวของตัวเองสูงจนบางครั้งอาจทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจเมื่อพบกันเป็นครั้งแรก

เมื่อเข้ามาอยู่ที่กรีนเกเบิลส์แอนน์ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มีเพื่อนสนิทที่จริงใจกับเธอ และได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก นั่นทำให้แอนน์พัฒนาตัวเองและเรียนรู้วิธีรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันแอนน์เป็นคนที่ชอบตั้งคำถามกับปรากฏการณ์ต่างๆ นั่นจึงทำให้คนที่อยู่รายล้อมแอนน์ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ไปด้วยเช่นกัน

ซีรีส์เรื่องนี้ยังชวนเราเปิดใจมองเห็นความหลากหลายของมนุษย์ ทั้งประเด็นเรื่องเพศ เชื้อชาติ ศาสนา การเมือง การเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ยังพาให้เราเป็นอิสระจากธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมและมั่นใจกับการเป็นตัวของตัวเองได้เช่นเดียวกับแอนน์

เกี่ยวกับเรื่องนี้

-Anne with an E เป็นซีรีส์สัญชาติแคนาดาที่ดัดแปลงมาจากผลงานวรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง Anne of Green Gablaes (1980) ที่เขียนโดย Lucy Maud Montgomery

-ได้รับรางวัล Canadian Screen Award สาขาซีรีส์ยอดเยี่ยมในปี 2017 และ 2018

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

 

Queer Eye

เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

เควียร์อายเป็นรายการเมคโอเวอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านส่งเรื่องราวของตัวเองเข้ามา โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้ทีม ‘Fab Five’ ไปเมคโอเวอร์ให้ถึงที่บ้าน

ทีม Fab Five ประกอบด้วย Antoni Porowski ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารและไวน์, Tan France เจ้าพ่อแฟชั่น, Karamo Brown ผู้ดูแลเรื่องหัวใจและความรู้สึก, Bobby Berk ดีไซน์เนอร์ผู้เนรมิตรห้องหับให้เหมือนบ้านหลังใหม่ และ Jonathan Van Ness นักออกแบบทรงผม

หลายคนที่ส่งจดหมายเข้ามาล้วนเผชิญกับการติดแหงกอยู่ในเซฟโซน อาจเพราะต้องดูแลคนอื่นมากเกินไปจนละเลยตนเอง อาจเพราะยังไม่เชื่อมั่น มีปมในใจที่ยังสะสางไม่ได้ หากเปรียบเป็นสมาร์ทโฟนก็คงเป็นเครื่องที่ไม่อยากอัพเดทระบบ หมดไฟที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว

Fab Five จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการเมคโอเวอร์เปลี่ยนคนเหล่านั้นที่กำลังเฉื่อยชาให้กลับมาสดใสและสนุกกับชีวิตอีกครั้ง ด้วยการดูแลในทุกๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่ผมทรงใหม่ที่รับกับใบหน้า หาเสื้อผ้าที่เหมาะกับพวกเขา จัดบ้านให้เป็นสถานที่ที่น่าอยู่ ดูแลเรื่องอาหารการกิน และพูดคุยเรื่องหัวใจให้ข้ามผ่านเรื่องราวที่คั่งค้างอยู่ได้

แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ส่วนสำคัญสำหรับซีรีส์เรื่องนี้อาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนเหล่านั้นตระหนักรู้ว่าพวกเขายังสามารถเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิมได้ พร้อมที่จะยอมรับตัวเองได้ทั้งจากภายนอกและภายใน

เกี่ยวกับเรื่องนี้

-รีเมคจากรายการ Queer Eye for the Straight Guy ในปี 2003

 

My Mad Fat Diary 

ให้คนทั้งโลกมารักก็ไม่มีความหมายเท่าเรารักตัวเอง

ถึง ไดอารี่…” เรเริ่มเขียนเรื่องราวลงในไดอารีของเธอ และซีรีส์เรื่องนี้คือเรื่องราวทั้งหมดในนั้น เรเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช มักจะทำร้ายตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เธอหายหน้าไปจากชั้นเรียน เพื่อไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 4 เดือน เธอปิดเรื่องดังกล่าวเป็นความลับ ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งโคลอี้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ

แม้จะจบคอร์สการรักษาแล้ว แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าหลังจากนั้นคือการกลับมาใช้ชีวิตในสังคมเดิมที่เธอจากมา เรพบว่าหลายสิ่งเปลี่ยนไป โคลอี้มีกลุ่มเพื่อนและรู้จักคนใหม่ๆ นั่นทำให้เธอรู้สึกอ้างว้าง และรู้สึกเกลียดตัวเองอีกครั้ง

เธอเริ่มสานสัมพันธ์กับเพื่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอกำลังจะมีคนรัก เรเป็นคนชอบฟังเพลงและมีความรู้เรื่องเพลงแน่นเอี้ยด อีกทั้งยังเป็นคนที่มีไหวพริบดีและจริงใจ ทุกคนมองเห็น ประทับใจและรักในสิ่งที่เธอเป็น อุปสรรคเพียงอย่างเดียวที่ทำให้การเปิดรับสังคมใหม่ๆ สำหรับเรคือเธอไม่เชื่อมั่นใจตัวเองและมักคิดว่าเธอไม่สมควรที่จะถูกรัก

เรค่อยๆ พาตัวเองออกจากจุดนั้นและท้ายที่สุดซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้บอกเราว่าการยอมรับจากคนรอบข้างอย่างสุดหัวใจนั้นยังไม่สำคัญว่าเราจะยอมรับตัวเองได้มากแค่ไหน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ 

-เป็นซีรีส์สัญชาติอังกฤษสร้างมาจากนิยายเรื่อง My Fat, Mad Teenage Diary โดย Rae Earl

Switched

เราคือผู้กำหนดคุณค่าของตัวเอง

อายูมิ เป็นเด็กสาวที่น่ารัก สดใส และมีฐานะเพรียบพร้อม อีกทั้งยังเป็นที่รักของคนรอบข้าง ชีวิตมัธยมปลายของเธอกำลังไปได้สวย ทว่าเรื่องราวกลับพลิกจากหน้ามือในวันที่มีพระจันทร์สีเลือด

อายูมิสลับตัวกับ ‘อุมิเนะ’ เพื่อนสาวในห้องเดียวกัน ซึ่งนั่นเป็นไปตามแผนการที่อุมิเนะวางไว้ ชีวิตของอุมิเนะเรียกได้ว่าแทบจะตรงข้ามกับอายูมิทุกอย่าง เธอเป็นเด็กสาวร่างอวบที่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว มีภาวะซึมเศร้า ไม่เป็นมิตรกับคนรอบข้างจนทำให้เพื่อนในห้องเองก็พาลเกลียดและกลั่นแกล้งอุมิเนะด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ทั้งคู่สลับร่างกัน อายูมิได้เรียนรู้ว่าการเป็นอุมิเนะนั้นรู้สึกสิ้นหวังเช่นไร แต่เธออายูมิกลับไม่โอนอ่อนต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เธอยังเป็นตัวของตัวเอง จนท้ายที่สุดเธอก็เอาชนะใจและกลับมาเป็นที่รักของเพื่อนๆ ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผิดกับอุมิเนะที่แม้จะอยู่ในร่างของอายูมิแต่มวลพลังลบของเธอกลับค่อยๆ ทำลายทุกสิ่งรอบตัวไปช้าๆ

ซีรีส์เรื่องนี้พาเราเติบโตไปพร้อมกับอายูมิและอุมิเนะ ชวนให้เราก้าวข้ามเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและให้ความสำคัญกับตัวตนที่อยู่ข้างใน ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาลักษณะภายนอกเราจะเป็นแบบไหน แต่สิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับการเป็นมนุษย์คือตัวตนจริงๆ เราจะมีค่าหรือไร้ค่าจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครนอกจากตัวเราเอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้

สร้างจากมังงะเรื่อง Sora wo Kakeru Yodaka โดย ชิกิ คาวาบาตะ ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

 

My ID is Gangnam Beauty

ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดสังคมจะแปะป้ายนิยามเราอยู่ดี

คังมีแร ถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างหน้าตามาตั้งแต่เด็ก นั่นทำให้เธอตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งหน้าเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยในฐานสาวสวยสะพรั่ง เรื่องราวเกือบเป็นไปอย่างที่เธอฝันไว้ จนกระทั่งเธอได้พบกับโดคยองซอก เพื่อนชายที่เคยอยู่โรงเรียนมัธยมปลายเดียวกัน เธอจึงกลัวว่าตัวตนของเธอในอดีตอาจถูกเปิดเผย

หลังจากศัลยกรรมเรื่องก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้สักเท่าไหร่นักเพราะเธอกลับได้รับฉายา ‘นางงามกังนัม’ ซึ่งเป็นคำใช้เรียกผู้หญิงที่ศัลยกรรมออกมาดูหน้าคล้ายกันไปเสียหมด เธอเริ่มเข้าใจว่าไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วสังคมก็จะหาป้ายมาแปะคำนิยามให้กับเธออยู่วันยังค่ำ

คังมีแรค่อยๆ เชื่อมั่นในตัวเองจากข้างใจ จากตัวตนของเธออย่างแท้จริง และหวั่นไหวกับแรงผลักที่สังคมบอกว่าเธอควรเป็นอย่างไร เธอค่อยๆ เข้าใจว่าการจะได้การยอมรับจากใครสักคนอย่างแท้จริงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอกแต่อย่างใดจากการที่ได้รู้จักกับโดคยองซอก

นอกจากเรื่องการต่อสู้กับตัวตนของคังมีแรแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังสะท้อนภาพสังคมเกาหลีที่ใต้ออกมาได้อย่างชัดเจนทั้งเรื่องสังคมที่พยายามขีดเส้นว่าผู้หญิงควรจะเป็นอย่างไร และมาตรฐานความงามของที่ส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติและกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง

เกี่ยวกับเรื่องนี้

-สร้างจากเรื่อง My ID is Gangnam Beauty ที่เผยแพร่ใน WEBTOON

สามารถรับชมได้ทาง Netflix