๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑, โรงเรียน
เรามักคิดว่าครูต้องเก่งกว่านักเรียนเสมอ…
นั่นคือครูต้องใฝ่หาความรู้ให้แตกฉานกว่าศิษย์ เพื่อยามสอน เราจะได้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า
ที่นักเรียนสามารถพึ่งพา ยามพวกเขาต้องการความรู้ได้ทุกเวลา
ครูจึงควรขยันใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ
มิใช่เคยรู้…เคยเก่ง…และคิดว่าตนยังคงเก่งเสมอไป
เช้านี้ผมต้องรบกวนนักเรียนผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านที่ผมไม่ถนัด มาช่วยทำงานการแปลงไฟล์เพลงในโน๊ตบุ๊ก เพื่อนำมาใช้สอนนักเรียน
ปริญญ์ชนัฎฐ์ บุญชัยโย หรือ “มิวสิค” เป็นนักเรียนชั้น ม.6/2 ที่มีความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์
เขาเป็นเด็กเรียนดี มารยาทเยี่ยม และเป็นเด็กชมรมโสตทัศนศึกษาของโรงเรียน
เขาเคยมาช่วยผมในด้านการทำโปรแกรมเรื่องการสอนแล้วครั้งหนึ่ง และช่วยงานโสตฯ ของโรงเรียนเป็นประจำทุกวัน และวาระงานสำคัญๆ ต่างๆ เสมอ
แค่เขาจับโน๊ตบุ๊กไม่ถึงสิบห้านาที เขาก็แปลงไฟล์และแยกหมวดหมู่อัลบั้มเพลงประกอบการเรียนการสอนให้ผมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
(ซึ่งเพื่อนครูในหมวดด้วยกันเองก็ทำกันไม่ได้ 555)
ผมตอบแทนน้ำใจปริญญ์ชนัฎฐ์เล็กๆ น้อยๆ ด้วยของว่างเป็นเมล็ดอัลมอนด์กับอินทผลัมให้เขารองท้องนิดหน่อย แล้วก็นั่งพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนเขาไปเรียนคาบแรก
ตลอดเวลาที่ปริญญ์ชนัฏฐ์ลงมือทำงานให้ผม ผมคิดตลอดเวลาว่านักเรียนคนนี้กำลังเป็นครูให้กับผม…เพราะผมไม่มีความรู้ในด้านนี้
การที่เขามานั่งช่วยงานครูครั้งนี้ ก็เหมือนเขากำลังให้ความรู้ครูคนนี้อยู่ เขาก็เหมือนเป็นครูให้ผมนั่นล่ะ
…เพียงแต่ผมเป็นนักเรียนที่ไม่เก่ง จำที่เขาสอนไม่ได้หรอก
…ดีนะที่เขาไม่ได้ประเมินผมเหมือนที่ผมเคยประเมินผลการเรียนให้เขา
เพราะผมคงตกแน่ๆ 555
ชีวิตของคนเป็นครู หาใช่ว่าจะรอบรู้ไปเสียหมด
วันนี้ขอเป็นนักเรียน แล้วให้นักเรียนมาเป็นครูบ้าง
บางทีมันทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเขา มากกว่าเวลาที่ผ่านมา
บ่อยครั้งที่นักเรียนเป็นครูให้ผมในสถานการณ์ต่างๆ ของชีวิต
พวกเขาได้สอนให้ผมได้รู้ว่า…
เด็กมีความรู้ความสามารถที่บางทีเราคาดไม่ถึง
ขึ้นอยู่กับว่าเราเปิดหู เปิดตา และเปิดใจ มองเห็นสิ่งเหล่านั้นในตัวเขาหรือไม่
ขอบคุณ ปริญญ์ชนัฏฐ์ มากนะครับ.