ผิดไหมถ้าตี่จู้จะไม่ใช่สีแดง? ทำความรู้จัก Aviva Spirit ตี่จู้เอี๊ยะดีไซน์โมเดิร์นรายแรกในไทย

เมื่อพูดถึง “ตี่จู้เอี๊ยะ” ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวของหลายๆ คน หนีไม่พ้นศาลเจ้าไม้ทรงจีนสีแดง ประดับอักษรและลวดลายมังกร ด้านหน้ามีกระถางธูปขนาบด้วยเทียนอีกหนึ่งคู่ พร้อมด้วยถาดใส่จอกน้ำชาสำหรับบูชาเจ้าที่

ดังนั้น ภาพของตี่จู้เอี๊ยะ หรือที่บางคนเรียกสั้นๆว่า “ตี่จู้” สีขาวเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา ทั้งจากหน้าตาโครงสร้างสไตล์โมเดิร์น และวัสดุที่ให้ความคงทนอย่างหินอ่อนธรรมชาติที่ผสมกรรมวิธีวิทยาศาสตร์ ทั้งยังลดทอนรายละเอียดอย่างมังกรและลวดลายจีนต่างๆ ออกจนหมด เหลือแค่อักษรจีนความหมายมงคล และกระถางธูปแบบ LED ไร้ควันที่ตั้งเวลาดับเองได้ จึงดูเหมือนจะคัดง้างกับความเชื่อดั้งเดิมที่ว่า ศาลเจ้าที่จีน ต้องทำจากไม้และมีสีแดงเท่านั้น

“คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า ตี่จู้ ต้องเป็นเรือนไม้ แต่จริงๆ แล้วคนในสมัยก่อนใช้แค่ป้ายกระดาษสีแดงเขียนตัวอักษรสีทอง แล้วแปะกับฝาผนัง หรือใช้กระป๋องนมกับลังไม้ไปวางไว้แค่นั้น” 

อาจารย์สุภชัย วิวัฒนะประเสริฐ ซินแสฮวงจุ้ย เจ้าของเพจ Fengshui Balance เล่าให้เห็นภาพลักษณะดั้งเดิมของศาลเจ้าจีนประจำบ้านตั้งแต่สมัยแรกๆ ที่ชาวจีนเริ่มอพยพมาอยู่เมืองไทย และนำประเพณีไหว้เจ้าที่ประจำบ้านติดตัวมาด้วย

“เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะแต่ละบ้านมีเจ้าที่ดูแลอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องทำสัญลักษณ์ เช่น เอากระดาษไปแปะหรือเอากระป๋องไปวาง เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาที่เจ้าของบ้านต้องการไหว้หรือพูดคุยกับเจ้าที่ จะได้รู้ว่าต้องไปไหว้ตรงจุดไหนของบ้าน” ธนพร พิชญาจิตติพงษ์ ภรรยาผู้อยู่เคียงข้างซินแสสุภชัย และศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ยด้วยกันมานานกว่า 20 ปี เสริมถึงหน้าที่ของตี่จู้เอี๊ยะประจำบ้าน

“ต่อมาพอคนที่มีเงินเริ่มทำ ตี่จู้เอี๊ยะ เป็นเรือนไม้สักสวยๆ คนจนอยากได้เป็นเรือนบ้างก็เอาไม้ฉำฉามาทำ แต่ออกมาแล้วไม่ค่อยสวยเลยต้องทาสีแดงทับ จึงเป็นที่มาว่าทำไม ตี่จู้ ถึงต้องเป็นสีแดง ทั้งที่จริงๆ แล้ว ตี่จู้ในบ้านคนมีฐานะจะเป็นเรือนสีไม้สักแทบทั้งนั้น จนเมื่อประมาณปี 2540 ถึงได้มีคนริเริ่มทำศาลเจ้าจากหินอ่อนขึ้น และหลังจากนั้นก็มีการใช้หินอ่อนมาโดยตลอด” อาจารย์สุภชัยเล่าต่อถึงจุดกำเนิดของการนำหินอ่อนมาทำตี่จู้เอี๊ยะ ซึ่งก็เป็นวัสดุที่เขาเลือกใช้เมื่อเริ่มหันมาออกแบบด้วยตัวเอง หลังมีเสียงเรียกร้องจากเจ้าของบ้านที่ซินแสไปดูฮวงจุ้ยให้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ว่า 

“มี ตี่จู้ แบบอื่นที่ไม่ดูจีนจ๋าเกินไปไหม”

หลังจากที่อาจารย์สุภชัยตอบคำว่า “ไม่มี” บ่อยเข้า เขาก็รู้สึกว่าต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง และเมื่อประมาณปี 2552 การวางแผนออกแบบจัดสร้างตี่จู้เอี้ยะดีไซน์โมเดิร์นในชื่อแบรนด์ Aviva Spirit – ศาสตร์และศิลป์แห่งศรัทธา ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2555

ในวาระที่ปีนี้เป็นปีที่ 10 ของแบรนด์ ศาลเจ้าที่สไตล์โมเดิร์น ที่จดลิขสิทธิ์เป็นรายแรกในไทย Aviva Spirit มาพร้อมความตั้งใจในการเติบโตเป็นแบรนด์ home decoration ที่นำหลักการของศรัทธาและความเชื่อ มารวมเข้ากับดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อให้คนทุกเจเนอเรชั่นเข้าถึงได้ง่ายและให้การยอมรับจากหัวใจ 

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นสมาชิกหลายสิบชีวิตของครอบครัวใหญ่โดยสารมาในรถตู้หลายคัน เพียงเพื่อจะมาช่วยกันตัดสินใจเลือก ตี่จู้ หนึ่งเรือน เพราะนี่ไม่ใช่แค่ศาลเจ้า หากเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนในบ้านอย่างแท้จริง

กว่าจะมาเป็นตี่จู้เอี๊ยะดีไซน์โมเดิร์นที่ถูกหลักฮวงจุ้ย

ก่อนหน้าที่จะมาเป็นซินแสมืออาชีพ คุณสุภชัยเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับสแตนเลส และไม่เคยสนใจศาสตร์แขนงนี้ จนเมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้อบ้านเป็นของตัวเองในปี 2533 เขาจึงต้องหาทางศึกษาเรื่องของการลงเสาเอก ฤกษ์ยามต่างๆ ไปจนถึงการสร้างบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย และมีคนแนะนำให้ไปเรียนกับ อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยผู้ก่อตั้งชมรมภูมิโหราศาสตร์ 

หลังจากคุณสุภชัยเริ่มศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยมากขึ้น และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยติดตามท่านอาจารย์เกรียงไกรไปดูฮวงจุ้ยตามสถานที่ต่างๆ นานหลายปี ภายหลังเป็นซินแสเต็มเวลา ตั้งแต่ปี 2540 และเป็นที่รู้จักในฐานะอาจารย์สุภชัยจนถึงปัจจุบัน 

ดังนั้น ในการริเริ่มออกแบบ ศาลเจ้าที่จีน ดีไซน์ใหม่จึงอาศัยภูมิความรู้ด้านฮวงจุ้ยที่อาจารย์สุภชัยสั่งสมมาเป็นสิบปี รวมกับประสบการณ์ที่พบเจอจากการพูดคุยของลูกค้าในการแก้โจทย์ต่างๆ อาทิ

• รูปทรงจีนแบบเดิมเข้ากับบ้านสมัยใหม่ได้ยาก
• สีแดงของตัวเรือนก็ดึงดูดความสนใจเกินไป
• รายละเอียดที่เยอะยากแก่การทำความสะอาด
• ระบบไฟแบบเก่าที่ต้องบำรุงรักษาบ่อยก็ก่อความยุ่งยากและภาระให้เจ้าของบ้านมาโดยตลอด

ในการอุดรูรั่วด้านดีไซน์ทั้งหมดที่ว่ามา ต้องอิงตามมิติมงคลฮวงจุ้ยหลู่ปัง ทำให้ดีไซน์โมเดิร์นตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีในการปรับแก้แบบไปมา โดยได้อาจารย์เกรียงไกรเป็นที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด

“หลังจากผมทดลองออกแบบเบื้องต้นก็ไปขอคำปรึกษาจากอาจารย์เกรียงไกร ท่านก็ย้ำกลับมาว่า ตี่จู้ ต้องมีเก้าอี้นั่งเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเรา เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีใครทำหน้าตาแบบนี้มาก่อน เช่น อักษรจีนตรงกลางตัวเรือนคำว่า ตี่ซิ้ง แปลว่า เจ้าปฐพี (เจ้าที่แห่งดิน) ซึ่งท่านอาจารย์ได้ให้เกียรติเขียนลายมือพู่กันจีน และตัวป้ายภาษาจีนในสมัยก่อนจะมีคำจีน 4 คำบนเสาแต่ละต้น เราไม่อยากซ้ำใคร เลยเขียนอักษรจีน 5 คำ เป็นการเพิ่มเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างให้กับแบรนด์”

เมื่อทุกรายละเอียดของดีไซน์เริ่มลงตัว อาจารย์สุภชัยเลือกหินอ่อนสังเคราะห์เป็นวัสดุหลักในการผลิต โดยเป็นส่วนผสมของหินอ่อนนำเข้า 95% และเรซิน 5% เพื่อให้ได้คุณสมบัติของเนื้อหินที่ทนทานต่อการใช้งานยิ่งขึ้น แตกยากกว่า และป้องกันการซึมน้ำได้ดีกว่า

นอกจากนี้ ยังมีการคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีเวลา ดังนั้น การจะจุดธูปไหว้เจ้าที่แล้วรอให้ธูปหมดก่อนค่อยออกจากบ้านจึงแทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น นอกจากจะติดตั้งระบบไฟ LED ในตัวเรือนที่ตั้งเวลาดับเองได้ใน 8 ชั่วโมงแล้ว ยังมีกระถางธูปไฟฟ้าที่ดับเองภายในเวลา 18 นาทีเป็นหนึ่งในออปชันที่ซื้อใจคนรุ่นใหม่ได้ทันที โดยเหตุผลที่ทางแบรนด์กำหนดให้กระถางธูปไฟฟ้าดับในนาทีที่ 18 เพราะถือเคล็ดเลข 8 เป็นเลขมงคล และ 1+8 = 9 ก็เป็นเลขมงคลเช่นกัน และถ้าอิงตามหลักความเป็นจริง ธูปหนึ่งก้านจะใช้เวลา 15 -20 นาทีถึงหมดดอกนั่นเอง

ศิลปะในการต่อยอดธุรกิจบนพื้นฐานของความศรัทธา

ในเมื่อตี่จู้เอี๊ยะสไตล์โมเดิร์นแบรนด์ Aviva Spirit ถือกำเนิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้งาน ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่ามีตลาดรองรับมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว – เราตั้งข้อสังเกต

“ช่วงแรกๆ ไม่ได้ทำการตลาด เพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นธุรกิจที่เป็นรูปเป็นร่างขนาดนี้ อย่างที่บอกว่าตี่จู้ สไตล์โมเดิร์นเกิดจากแรงบันดาลใจของลูกค้าและลูกศิษย์ของอาจารย์ อาจารย์เหมือนทำขึ้นสนุกๆ เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกศิษย์ และได้ท้าทายความคิดตัวเอง ช่วงแรกจึงขายแค่ในกลุ่มลูกค้าและลูกศิษย์ที่รู้จักกันไม่กี่คน 

“แต่หลังจากนั้นก็มีญาติและเพื่อนของลูกค้าที่ได้เห็นแล้วถูกใจ เลยมีฟีดแบ็กกลับมาเยอะมาก และมีลูกค้าแนะนำต่อเนื่องมาตลอด เราเลยรู้สึกว่าคนรอคอยดีไซน์แบบนี้มานาน แต่ไม่มีใครกล้าฉีกแนวความคิดมาทำแบบนี้ เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อความศรัทธา ถ้าคนไม่มีความรู้ก็เกรงว่าทำออกมาแล้วไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ก็จะกลายเป็นไม่เวิร์ค หรือไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้า” คุณธนพรเล่าถึงกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด

และที่เกินคาดมากไปกว่านั้น คือ ดีไซน์เรียบหรูและเข้าได้กับทุกสไตล์การตกแต่งของ Aviva Spirit ที่ฉีกกฎเดิมๆ ของการตกแต่งโชว์รูมรถยนต์สัญชาติยุโรปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

“มีลูกค้ารายนึงเป็นเจ้าของโชว์รูมรถยนต์หรูสัญชาติยุโรป ซึ่งมีกฎเกณฑ์ตายตัวอยู่แล้วว่า ไม่ว่าคุณจะตั้งอะไรในโชว์รูม ต้องได้รับการอนุมัติก่อน ที่สำคัญคือ อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะไม่อนุญาตให้ตั้งโชว์ เพราะขัดต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ 

“คราวนี้เจ้าของโชว์รูมซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนก็ไม่สบายใจถ้าจะไม่ตั้งตี่จู้เอี้ยะ แต่พอเขามาเห็นเรือนตี่จู้เอี๊ยะของเรา แล้วถ่ายรูปส่งไปให้นายฝรั่งดู ปรากฏว่านายอนุมัติให้ตั้งได้ เขาบอกว่าดีใจมาก แสดงว่าสินค้าของเราดูโมเดิร์นจริงๆ ถึงขนาดที่นายฝรั่งยอมอนุมัติ ทุกวันนี้เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้ารายนี้จะเปิดโชว์รูมใหม่ เขายังคงอุดหนุนเราอย่างต่อเนื่อง” คุณธนพรเล่าด้วยรอยยิ้ม พร้อมเผยถึงสถิติว่าเคยมีลูกค้ารายเดิมกลับมาซื้อซ้ำ นับรวม 7 หลังด้วยกัน และย้ำถึงความสำคัญของการเลือกซื้อศาลเจ้าซึ่งหลายครอบครัวให้ความสำคัญมาก

“การเลือกศาลเจ้าที่เป็นการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัว บางทีคนถึงสามเจเนอเรชั่นต้องนั่งรถตู้มาด้วยกัน เพื่อช่วยกันเลือกหลังที่ลงตัวกับบ้านมากที่สุด”

“สำหรับตอนนี้ ลูกค้าที่อยู่ในช่วงอายุ 35-45 ปีจะมีเยอะที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างครอบครัว โดยไม่ทิ้งความเชื่อดั้งเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นอากงอาม่าและพ่อแม่ ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องการศาลเจ้าที่ทันสมัยเข้ากับตัวบ้าน จึงเป็นกลุ่มลูกค้าที่ตอบโจทย์พอดีทั้งด้านศรัทธาและดีไซน์” แมค – ณัฐพงศ์ วิวัฒนะประเสริฐ ลูกชายของอาจารย์สุภชัยและคุณธนพร เล่าถึงกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ หลังจากที่เขาเริ่มเข้ามาเสริมทัพให้กับ Aviva Spirit ได้เกือบสองปี โดยรับผิดชอบด้านการพัฒนาแบรนด์ให้ร่วมสมัยและเข้าไปอยู่ในใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น

“ธุรกิจเรื่องความเชื่อต้องอาศัยความเข้าใจในเชิงลึก เพราะไม่ได้เป็นการขายแค่สินค้า แต่ต้องให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดีด้วย เราจึงต้องตอบทุกคำถามของลูกค้าให้ได้ เช่น ทำไมศาลเจ้าต้องเป็นหินอ่อน ความหมายของตัวอักษรบนเสากลางเรือนแปลว่าอะไร ติดตั้งตี่จู้ตรงจุดนี้ดีไหม ฯลฯ 

“หลังช่วยงานมาได้สักระยะ ทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดที่มีต่อแบรนด์ จากตอนแรกผมมองว่า Aviva Spirit เป็นแบรนด์ศาลเจ้า แต่ตอนนี้มองว่าไปได้ไกลกว่านั้น เราสามารถเป็นแบรนด์ home decoration ที่นำหลักการของศรัทธาความเชื่อ มารวมเข้ากับดีไซน์ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนทุกวัยได้ จึงเป็นที่มาของการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้หลากหลายมากขึ้น และทดลองทำการตลาดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางในการเติบโตให้กับแบรนด์”

ในฐานะเจเนอเรชั่นสองของแบรนด์ศาลเจ้าร่วมสมัย คุณณัฐพงศ์ขยายความต่อถึงผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันของ Aviva Spirit ว่านอกจากจะมีตี่จู้เอี๊ยะ 5 ขนาด ที่มีรายละเอียดในตัวเรือนแตกต่างกันเล็กน้อย (แต่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าในระดับมหาศาล) ยังมีศาลพระภูมิและศาลตายายทำจากหินอ่อนในสไตล์โมเดิร์นเช่นกัน โดยศาลแบบไทยออกแบบเป็นทรงพีระมิดตามอัตราส่วนทองคำที่อิงจาก The Great Pyramid of Giza ในประเทศอียิปต์ ซึ่งสอดคล้องตามคติไทยพราหมณ์แบบหมดกังวล

ตู้หินอ่อนครอบตี่จู้เป็นอีกหนึ่งส่วนเสริมที่ทำให้ตี่จู้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้านบนสามารถวางรูปปั้นพระหรือเทพเจ้าได้ ตามหลักฮวงจุ้ยที่ว่า หากพื้นที่ในการตั้งตี่จู้ยิ่งเด่น บารมีเจ้าบ้านย่อมโดดเด่นตาม

นอกจากนี้ ยังมีชุดเครื่องไหว้สแตนเลสชุบไทเทเนียม อาทิ แจกัน กระถางธูป ถาดน้ำชา ถาดของไหว้ทรงเงินจีน ฯลฯ ที่มีคุณสมบัติไม่หมอง ไม่ลอก และเงางามอยู่เสมอ

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นออปชันเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของตี่จู้เรือนพิเศษกว่าใคร ได้แก่ หินไหมมงคล ที่คุณธนพรคัดสรรและใส่ใจเป็นพิเศษ

“หินไหมเป็นมวลสารธรรมชาติ โดยเชื่อกันว่าเส้นไหมในหินเป็นสายแร่ที่มีพลังส่งเสริมโชคลาภ บารมี และสุขภาพ ซึ่งหินไหมของเราไม่ได้อาศัยพลังงานธรรมชาติของหินเท่านั้น พอเราคัดหินไหมเนื้อใส กระทบแสงแล้วเป็นประกายแวววาวสวยได้แล้ว เราจะนำขึ้นนมัสการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยตุง พระธาตุหริภุญชัย พระพุทธบาทสี่รอย และพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ หลังจากนั้นจะนำหินไหมมาแช่ในน้ำมนต์จากหลายๆ ที่ผสมกัน บูชาไว้บนหิ้งพระ แล้วสวดมนต์ให้หินฟังทุกวัน เพื่อประจุพลังให้หินจนกว่าจะถึงวันที่ใกล้จะจัดส่งตี่จู้ให้ลูกค้า จึงค่อยนำหินไหมมายึดไว้กับหัวเสาเพื่อเป็นจุดเสริมพลังให้กับเจ้าที่” คุณธนพรย้ำในความเชื่อและความศรัทธาเฉพาะบุคคลที่ลูกค้าสามารถเลือกเสริมพลังได้ตามความสมัครใจ

“ซินแสบางคนใช้วิธีทำให้ทุกอย่างน่ากลัว เพื่อให้คนต้องมองหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่สำหรับผมจะไม่เน้นเรื่องงมงาย เช่น ถ้าเราดูดวงให้เขาแล้วเขามีโอกาสต้องเกิดอุบัติเหตุ แทนที่จะบอกให้ซื้อยันต์หรือเครื่องราง ผมจะแนะนำให้เขาระมัดระวังตัว ตรวจตรารถราให้ดีก่อนขับ หากต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญมากๆ ควรหาคนช่วยตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น หรืออย่างมากก็แนะให้เขาไปทำบุญเพิ่ม” อาจารย์สุภชัยกล่าวโดยสรุปถึงแนวทางที่ตนยึดถือมาโดยตลอด และถ่ายทอดไปยังดีเอ็นเอของแบรนด์ Aviva Spirit

“ในส่วนของเรื่องฮวงจุ้ยก็เช่นกัน หน้าที่ของเรา คือ ทำยังไงก็ได้ให้เจ้าบ้านอยู่บ้านแล้วมีความสุขมากที่สุด”

 

Aviva Spirit

Website: https://www.avivaspirit.com/

Facebook: https://www.facebook.com/Avivaspirit

LINE Official: @avivaspirit