©ulture

จะดีแค่ไหนหากคนกรุงเทพฯ ได้ชมศิลปะของศิลปินระดับโลกในงานเดียว

River City Bangkok และทีม Vision Alive จากรัสเซีย ทำให้ความฝันนี้ของคนรักศิลปะหลายคนเป็นจริงได้โดยนำนิทรรศการ ‘From Monet to Kandinsky’ มาให้ชม

งาน ‘From Monet to Kandinsky’ ใช้เทคโนโลยีและมัลติมีเดียเนรมิตภาพจิตรกรรมมากกว่า 1,500 ชิ้นของ 16 ศิลปินชื่อดังในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตกช่วงยุคศตวรรษที่ 19-20 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกกว่า 20 แห่งพร้อมให้ชมแบบ 360 องศา

From Monet to Kandinsky
(photo: http://visions-alive.com)
From Monet to Kandinsky
(photo: http://visions-alive.com)
From Monet to Kandinsky
(photo: http://visions-alive.com)

ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การชมงานศิลป์แบบใหม่ และได้ชื่อว่าเป็น ‘Revolution in Art’ หรือ ‘การปฏิวัติวงการศิลปะ’

งานนี้ประสบความสำเร็จและได้รับความชื่นชมมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีผู้ชมแวะเวียนมาชมมากกว่า 60,000 คนต่อปี

common ชวนทำความรู้จัก 5 ศิลปินที่เป็นพระเอกของงาน

เพื่อไปชมนิทรรศการ ‘From Monet to Kandinsky’ ของจริงได้อย่างดื่มด่ำและอิ่มเอม

โคลด โมเนต์ (Claude Monet)

From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.claudemonetgallery.org)

“ผมพยายามทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั้นคือ ‘การวาดแสง'”

From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.wikidata.org)
From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.metmuseum.org)

ศิลปินชาวฝรั่งเศสชื่อดังระดับและจิตรกรคนสำคัญของโลกในศตวรรษที่ 19 ถึง 20  ผู้เปรียบเสมือนมาสเตอร์แห่งงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ โดดเด่นด้านการวาดภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์ของแสงได้แบบเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะภาพทิวทัศน์กลางแจ้ง ผลงานของโมเนต์หลายชิ้นสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูรู้สึกเหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในภาพ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากผลงานชื่อดังของเขา อย่าง ‘Water Lilies’ ที่ได้โมเนต์ได้ต้นแบบและแรงบันดาลใจจากสวนดอกไม้หลังบ้านของตัวเอง

เอ็ดการ์ เดอกาส์ (Edgar Degas)

From Monet to Kandinsky
(photo: https://arthive.com)

“สังเกตโดยไม่ต้องวาด และวาดโดยไม่ต้องสังเกต”

From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.tate.org.uk)
From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.metmuseum.org)

จิตรกรและประติมากรแนวอิมเพรสชันนิสม์คนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 ผู้หลงใหลการวาดรูปเกี่ยวกับชีวิตร่วมสมัยและสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันตามสถานที่ต่างๆ เช่น สนามม้า ร้านกาแฟ โรงละคร ร้านขายหมวก นอกจากนี้ เขายังรักและมีความเชี่ยวชาญการวาดภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเดอกาส์ให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดทุกท่วงท่า โดยใช้แนวคิด “สังเกตโดยไม่ต้องวาด และวาดโดยไม่ต้องสังเกต” และมักนำมาถ่ายทอดเป็นศิลปะรูปแบบต่างๆ ทั้งบนผืนผ้าใบและงานปั้น โดยเฉพาะการเต้นบัลเลต์ จนกลายเป็นผลงานชื่อดังของเขาหลายชุด อย่างรูปปั้น ‘Little Dancer of Fourteen Years’ ภาพชุด The Dancing Class, Ballet Rehearsal และ Stage Rehearsal

วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh)

From Monet to Kandinsky
(photo: www.wikipedia.com)

“แทนที่จะให้ความสำคัญกับการจัดนิทรรศการใหญ่ๆ การได้พูดคุยกับคนธรรมดาและการทำงานเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพื่อว่าทุกคนอาจจะมีภาพผลงานไว้ชื่นชมที่บ้านแบบใกล้ชิด”

From Monet to Kandinsky
(photo: www.wikipedia.com)
From Monet to Kandinsky
(photo: www.wikipedia.com)

จิตรกรชาวดัชต์ผู้มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก เขาสร้างสรรค์งานศิลป์มากกว่า 2,100 ชิ้นในเวลาเพียงสิบปีกว่า มีทั้งภาพวิวทิวทัศน์ ภาพคน ภาพเหมือนตนเอง โดยลักษณะเด่นในผลงานของเขาคือสีสันจัดจ้านและงานพู่กันอันฉวัดเฉวียน เช่นในภาพ ‘ราตรีประดับดาว’ หรือ ‘The Starry Night’ หนึ่งในผลงานที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดของแวน โก๊ะ ชีวิตของเขาไม่ประสบความสำเร็จ ถูกมองเป็นคนล้มเหลวและใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางสายศิลปะอย่างลำบากยากเข็ญ แต่หลังจากเสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ผลงานของเขากลับเริ่มมีชื่อเสียงในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20

เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edvard Munch)

From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.carlosdeviaje.com)

“ความกลัวและอาการป่วยเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต หากปราศจากสองสิ่งนี้ ชีวิตผมก็คงเหมือนเรือไร้หางเสือคอยบังคับทิศทาง”

From Monet to Kandinsky
(photo: www.wikipedia.com)
From Monet to Kandinsky
(photo: www.wikipedia.com)

ศิลปินชื่อดังสัญชาตินอร์วีเจียน ผู้มีชื่อเสียงในการวาดภาพและสร้างสรรค์ภาพพิมพ์แนวเอกซ์เพรสชั่นนิสม์ ผลงานของมุงค์ส่วนใหญ่สะท้อนถึงชีวิตอันเลวร้าย ความวิตกกังวล ความหวาดกลัวของเขา และความทุกข์ระทมของมนุษย์ ซึ่งมุงค์ถ่ายทอดได้อย่างสะเทือนอารมณ์ เช่นในศิลปะชิ้นดังที่ชื่อ ‘The Scream’ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในภาพที่ผู้คนจดจำมากที่สุดในโลก บั้นปลายของชีวิต มุงค์จมอยู่กับความซึมเศร้าและใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในโรงพยาบาล ก่อนสิ้นลมหายใจ เขาทำพินัยกรรมมอบผลงานทั้งหมดให้แก่เมืองออสโล มีภาพวาดสีน้ำมันทั้งหมด 1,008 ภาพ, ผลงานภาพพิมพ์รวม 15,391 ภาพ, ภาพร่างและภาพสีน้ำรวม 4,443 ภาพและงานประติมากรรมของเขาอีก 6 ชิ้น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่ามุงค์เป็นศิลปินผู้ผูกพันกับศิลปะทั้งชีวิต

วาซิลี คันดินสกี (Wassily Kandinsky)

From Monet to Kandinsky
(photo: www.instazu.com)

“ทุกสีสันดำรงอยู่ในความลึกลับ”

From Monet to Kandinsky
(photo: www.guggenheim.com)
From Monet to Kandinsky
(photo: https://www.tate.org.uk)

ศิลปินชาวรัสเซียผู้มีชื่อเสียงในการใช้คู่สีที่ไม่เป็นตามแบบแผน ด้วยความเชื่อว่า ‘ทุกสีสันดำรงอยู่ในความลึกลับ’ เขาหลงใหลและเริ่มฝึกฝนศิลปะภาพวาดแนวอิมเพรสชั่นนิซึมในช่วงวัย 29 ปี หลังจากนั้นลาออกจากการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเพื่อมาศึกษาหาความรู้ด้านศิลปะอย่างจริงจัง และมีโอกาสได้เรียนรู้ศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ผลงานของเขาจึงมีกลิ่นอายการผสมผสานของศิลปะหลายยุคจนมีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านศิลปะแนวแอ็บสแทร็คสมัยใหม่ ซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งรูปวาดและการใช้สี.

From Monet to Kandinsky

นิทรรศการ From Monet to Kandinsky

26 เมษายน – 31 กรกฎาคม 2562

เปิด: 10:00 – 22:00 น.

สถานที่: River City Bangkok

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/events/1158938120935104/


อ้างอิง: