©ulture

‘เกาะ’ ในความความทรงจำของแต่ละคนเป็นอย่างไร ?

หากไม่ใช่คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หลายคนคงจำภาพของเกาะได้จากจากภาพยนตร์บางเรื่องที่บอกเราว่า เกาะมีแต่ต้นมะพร้าวและความเดียวดาย หรือในเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเกาะช่างเป็นสถานที่ที่แสนอ้างว้าง

เพราะผืนดินบนเกาะไม่ได้เชื่อมกับเมือง 

เพราะต้องข้ามทะเลผืนกว้างเข้าไปหา 

เหล่านี้ชวนให้สงสัยว่า ผู้คนที่นั่นจะมีชีวิตแบบไหน? การไปเยือนเกาะครั้งนี้ common จึงตื่นเต้นไม่น้อย 

เรือเร็วแล่นออกจากท่าเรือภูเก็ต ราวครึ่งชั่วโมงก็พาพวกเรามาถึงยังที่หมาย นั่นคือ ‘เกาะยาวใหญ่’ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา

รอบๆ เกาะแห่งนี้เป็นทะเลฝั่งอันดามัน ที่มีชายหาดสีขาวทอดยาว น้ำทะเลสีฟ้าสะท้อนแสงแดด หาดทรายเต็มไปรูเล็กๆ นับพันที่ขุดโดยปูลม แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและธรรมชาติที่ยังไม่ถูกพรากไป

อากาศของหน้าฝนไม่ร้อนมากนัก สองข้างทางบนถนนที่เรากำลังมุ่งหน้าไปยังชุมชนเกาะยาวใหญ่ มีต้นไม้เขียวชุ่มให้ความร่มรื่น

รถแล่นมาเรื่อยๆ จนทำให้เริ่มเห็นบ้านเรือนแทรกตัวอยู่ตามแมกไม้ เป็นจุดสังเกตว่าเราเข้ามาสู่เขต ‘ชุมชนเกาะยาวใหญ่’ แล้ว

สำรวจชุมชน ‘เกาะยาวใหญ่’

เกาะยาวใหญ่เป็นชุมชนมุสลิมที่ยังคงวิถีชีวิตแบบชาวประมงดั้งเดิม ทำให้มีเน่ห์อันน่าหลงใหล บ้านแต่ละหลังออกแบบและก่อสร้างอย่างเรียบง่ายอยู่พื้นที่ละแวกเดียวกัน และไม่มีรั้วรอบขอบชิดใดๆ

คนในชุมชนเล่าว่าพวกเขาอยู่กันแบบพี่น้อง ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ เป็นวิถีชีวิตที่แทบไม่ได้พบเห็นในเมืองใหญ่ ทั้งสงบและเรียบง่ายแบบที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะได้มาสัมผัสสักครั้ง 

สมัยก่อนที่ยังไม่มีเรือ รถ หรือแม้แต่ไฟฟ้า ชาวเกาะยาวใหญ่ต้องพึ่งพาตนเองทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล ความเป็นอยู่ และอาหารการกิน 

โชคดีที่เกาะแห่งนี้มีป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ น้ำจืดจากภูเขาจึงไหลมาหล่อเลี้ยงทุกชีวิตด้านล่าง ทำให้ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพทำประมงควบคู่กับทำการเกษตรได้ ไม่ว่าจะเป็นปลูกยางพารา มะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว และทำนาข้าว ในไร่ขนาดเล็กที่พอจะดูแลไหว 

“เรามีปูม้าธรรมชาติ พอได้มาก็เอามาพักในกระชัง ไม่ต้องเอาแช่เย็น วันไหนอยากกินก็ไปเอาในกระชัง ทุกวันจะมีปลามาติดรอก เราก็เอาไปเป็นอาหารของปู ของกุ้งมังกร เป็นการอยู่แบบยั่งยืน วันไหนใครจับได้เยอะก็แบ่งให้คนที่ได้น้อยบังยา-ดุสิทธิ์ ทองเกิด ปราชญ์ชาวบ้านเล่าให้เราฟัง 

ปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านี้ยังคงสืบทอดมารุ่นสู่รุ่น ในหมู่บ้านยังมีหมอตำแย มียาสมุนไพรพื้นบ้านที่คิดค้นขึ้นมาเอง มีงานหัตกรรมที่เป็นภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ ที่แสดงให้เห็นถึงหลักฐานของการพึ่งพาตนเองฉบับชาวเกาะยาวใหญ่

การมาเยือนของ ‘ความสะดวกสบาย’

17 ปีให้หลัง ไฟฟ้าที่เดินทางผ่านสายเคเบิลใต้ทะเลนำพาเอาสิ่งอำนวยความสะดวกมายังเกาะแห่งนี้ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ชุมชนต้องเผชิญ รวมถึงผลพวงของคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2547 ที่กวาดเกาะรอบด้านจนราบเป็นหน้ากลอง ทำให้เกาะที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ อย่างที่นี่กลายเป็นจุดมุ่งหมายใหม่ของเหล่านักลงทุน

เราอาจนับจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงของเก่าแห่งนี้ ตั้งแต่มีเรือสปีดโบ๊ทจากภูเก็ตและกระบี่มาถึงเกาะยาวใหญ่ คนที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นที่บางส่วนถูกขายให้กับนายทุน การประมงเชิงพาณิชย์เข้ามาเยือน นั่นเป็นความน่ายินดีที่อาบด้วยความกังวลใจ เพราะหลังจากนี้วิถีชีวิตของพวกเขาอาจไม่เหมือนเดิม และทรัพยากรอันจำกัดบนเกาะก็เริ่มจะถูกใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือย

การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเกาะยาวใหญ่ในช่วงไม่กี่ปี ทำให้คนในหมู่บ้านเริ่มตระหนักถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือนในอนาคตอันใกล้ ชุมชนและหลายภาคส่วนจึงเริ่มให้ความรู้แก่ชาวบ้าน

หลังจากนั้นจึงมีการจัดสรรพื้นที่การทำประมงแบบพาณิชย์ให้เป็นสัดส่วน ช่วยให้ชาวบ้านของเกาะยาวใหญ่กลับมาทำประมงแบบเพาะเลี้ยงซึ่งสร้างความยั่งยืนในพื้นที่ของตัวเองอีกครั้ง ทั้งเก็บนาผืนเก่าเอาไว้และปลูกข้าวกินกันในชุมชน รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้น

อยู่กับโลกใหม่ให้ยั่งยืน

เราเดินลัดเลาะจนมาพบกับร้านขายของชำร้านใหญ่ในหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ละแวกเดียวกับเซเว่นอีเลฟเว่นที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน

 เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของร้านใจดี เธอเล่าว่าร้านสะดวกซื้อร้านใหญ่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับกิจการของเธอมากนัก ทั้งยังเสริมว่าเป็นเหมือนสีสันของหมู่บ้าน เป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของเด็กๆ อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังคงเข้ามาอุดหนุนกิจการของเธออย่างไม่ขาดสาย เพราะที่นี่มีทั้งผักสดที่ปลูกเองในท้องถิ่นและปลาสดๆ จากทะเลที่หาไม่ได้ในร้านสะดวกซื้อ

วิถีชีวิตในเกาะยาวใหญ่วันนี้ อาจเรียกได้ว่าไม่ใช่การต้านกระแสของยุคสมัย แต่เป็นการปรับตัวให้อยู่คู่กับโลกได้อย่างยั่งยืน โดยที่ชาวบ้านก็ยังไม่ละทิ้งวิถีชีวิตของตัวเอง

ทะเลในอ่าวอันดามันอาจมีความสวยงามที่ไม่ต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน คือความอบอุ่นของชุมชนมุสลิม อันเป็นเสน่ห์ของ ‘เกาะยาวใหญ่’ ที่ยังไม่มีใครพรากไปได้