©ulture

หากคุณชอบการท่องเที่ยวแบบแคมปิ้ง เชื่อว่าคุณต้องฝันอยากเป็นเจ้าของรถบ้านสักคัน เพื่อขับไปยังจุดหมายปลายทางในฝัน และพักผ่อนในแบบใกล้ชิดธรรมชาติแต่ยังรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน

หลายๆ คนอาจคิดว่าฝันของการเป็นเจ้าของมอเตอร์โฮมหรืออาร์วี (Recreational Vehicle) สักคัน ดูจะไกลเกินเอื้อม เพราะในเมืองไทยยังไม่มีค่ายรถยนต์เจ้าไหนผลิตมอเตอร์โฮมออกมาขาย อีกทั้งการจะขับรถอาร์วีออกเดินทางบนถนนหลวงจริงๆ จังๆ ยังเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์สารพัด ทั้งการต้องขอใบอนุญาต การหาที่จอดที่เหมาะสมปลอดภัยได้มาตรฐาน ฯลฯ ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

คงจะดีกว่านั้น หากมีรถบ้านขนาดกะทัดรัดที่สามารถแล่นไปบนท้องถนนเหมือนรถกระบะทั่วไปได้ และยังให้ความสะดวกสบายไม่ต่างจากมอเตอร์โฮมคันโต

carry campiness

ดูเหมือนฝันของเหล่าแคมเปอร์จะเป็นจริงเข้าแล้ว เมื่อ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ปิ๊งไอเดียในการสร้างสรรค์กระบะบรรทุกอเนกประสงค์ SUZUKI CARRY (ซูซูกิ แคร์รี่) ให้เป็นรถบ้านคันเก๋ที่จุความสะดวกสบายไว้ครบครัน

รถบ้านที่อาสาบรรทุกฝันของแคมเปอร์ให้เป็นจริงคันนี้มีชื่อว่า SUZUKI CARRY CAMPINESS 

“เมื่อพูดถึงคำว่าปิกอัพ หลายคนมักนึกถึงเรื่องของการบรรทุกในเชิงพาณิชย์ หรือไลฟ์สไตล์การเดินทางลุยๆ แบบออฟโร้ด แต่ ซูซูกิ แคร์รี่ เป็นปิกอัพที่ไม่จำเป็นต้องตอบโจทย์แค่ด้านใดด้านหนึ่ง เพราะกระบะอเนกประสงค์คันนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจ ด้วยคุณสมบัติของการเป็นกระบะพื้นเรียบ เปิดได้สามด้าน จึงสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและ ดัดแปลงฟังก์ชันต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น ทั้งยังมีวงเลี้ยวแคบ ขับขี่คล่องตัว สะดวกในการเดินทาง เป็นเพอร์ฟอแมนซ์ที่ดีในระดับที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ซึ่งที่ผ่านมา ซูซูกิ แคร์รี่ ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติการณ์ใดขึ้นในสังคม รถยนต์เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่แก้ปัญหาได้”

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขยายความถึงนิยามของคำว่าอเนกประสงค์ใน ซูซูกิ แคร์รี่ ที่เคยเป็นมาแล้วทั้งฟู้ดทรัค, กู้ดส์ทรัค (Goods truck) ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนเป็นรถรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้านในปีที่ผ่านมาในโปรเจ็คท์ Carry To Your Home

carry campiness
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม
กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ปรากฏการณ์เปลี่ยนโฉม ซูซูกิ แคร์รี่ ทั้งหมดนี้เป็นการการันตีถึงประสบการณ์ของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการออกแบบได้ตามใจผู้ประกอบการ หรือที่เรียกว่า เทเลอร์ เมด (tailor made) ได้อย่างครบวงจร ทำให้ ซูซูกิ แคร์รี่ แต่ละคันสามารถเสริมฟังก์ชันที่แตกต่างกันไปตามแต่ละธุรกิจได้ บางคันมีระบบไฟฟ้า บางคันมีระบบน้ำ ซึ่งไม่ว่ารูปแบบไหนซูซูกิก็สามารถนำมาดัดแปลงให้อยู่ใน ซูซูกิ แคร์รี่ ทุกคันได้

carry campiness

carry campiness

“ครั้งนี้เราจึงมองไปยังเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงแคมปิ้งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในยุค New Normal ที่ผู้คนอยากท่องเที่ยวแบบเป็นส่วนตัวและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น การขับรถบ้านท่องเที่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่ซูซูกินึกถึง เพราะอยากเห็นรถแคมปิ้งสวยๆ วิ่งอยู่ตามท้องถนนเหมือนอย่างในนิวซีแลนด์หรืออเมริกาบ้าง

“เมื่อเราคิดจะสร้าง prototype ซูซูกิ แคร์รี่ ให้เป็นรถบ้านในราคาหลักแสน โดยออกแบบให้มีฟังก์ชันของที่นอนที่ติดแอร์ มีครัวเล็กๆ ไว้ประกอบอาหารได้ และกระบะท้ายยังสามารถกางออกมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับปิคนิคได้อีกด้วย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนทั้งในเชิง B2B และ B2C เราจึงนึกถึง Jumtla Campiness บูติกรีสอร์ทที่มีแนวคิดในการเลือกสร้างสรรค์ที่พักจากความสุขมาเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้

carry campiness

“ด้วยความที่ จัมทรา แคมปิเนส เองเน้นการออกแบบที่พักทุกแห่งให้เข้าใกล้ธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่งจนเกินไป ซึ่งเป็นแนวทางที่ตรงกับ ซูซูกิ แคร์รี่ ที่เราอยากให้เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวหรือโรงแรม ที่ได้เห็นศักยภาพของ CARRY CAMPINESS คันนี้และนำไปต่อยอดเป็นที่พักแนวใหม่ที่สอดรับกับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับฤดูท่องเที่ยว เพราะ CARRY CAMPINESS สามารถวิ่งเข้าหาธรรมชาติได้ทุกฤดูกาล” คุณวัลลภย้ำถึงความอเนกประสงค์สไตล์รถบ้านของ CARRY CAMPINESS

นอกจากจะเพียบพร้อมด้วยอรรถประโยชน์ในการใช้สอยแล้ว คุณวัลลภยังเสริมถึงจุดแข็งของแบรนด์ซูซูกิในแง่ที่ว่า ‘ใครก็เป็นเจ้าของรถคันนี้ได้’

carry camoiness

“การเป็นเจ้าของได้ง่าย หมายความว่า เรามีสถาบันการเงินที่เป็นพาร์ทเนอร์ซึ่งสามารถตอบโจทย์ให้ทุกคนลืมไปเลยว่าการเป็นเจ้าของรถอเนกประสงค์ที่แปลงโฉมเป็นรถบ้านหนึ่งคันได้นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากถึงเจ็ดหลัก และไม่จำเป็นต้องใช้เงินทั้งก้อนในการช่วยทำให้ฝันในการเป็นเจ้าของรถบ้านเป็นจริง คุณสามารถค่อยๆ ผ่อนความฝันได้เพื่อที่จะมีความสุขได้ตลอดเส้นทาง”

“ผมว่ารถคันนี้นอกจากจะตอบโจทย์เทรนด์ที่คนเริ่มเดินทางแบบแคมปิ้งมากขึ้นแล้ว ยังเป็นพร็อพส์ถ่ายรูปเคลื่อนที่ที่เวิร์คมากในมุมมองของผม” จั้มธัชชัย ถิรรัถยา ผู้บุกเบิก Jumtla Campiness เสริมถึงอีกหนึ่งความโดดเด่นของ CARRY CAMPINESS โดยอาศัยประสบการณ์ของการเป็นอดีตช่างภาพมืออาชีพ และแคมเปอร์ที่ยังคงตระเวนท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมทั่วไทยอยู่เสมอ พร้อมกับเปิดใจว่าตกหลุมรักรถบ้านสีน้ำตาลคันนี้ตั้งแต่แรกเห็น

carry campiness
จั้ม – ธัชชัย ถิรรัถยา
เจ้าของบูติกรีสอร์ท Jumtla Campiness

“ตอนได้เห็น SUZUKI CARRY CAMPINESS ครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ฯ ผมก็ชอบเลย ดีไซน์ทั้งเท่และน่ารัก ผมถูกใจตรงการเลือกใช้สีโทนน้ำตาลมาตกแต่งรอบคันรถ เพราะเวลาไปจอดรถตามพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติจะทำให้ยิ่งถ่ายรูปสวยและขึ้นกล้องมากขึ้น

carry campiness

“ผมคิดว่าเสน่ห์ของการท่องเที่ยวด้วยรถบ้านต่างจากการไปตั้งแคมป์หรือเช็คอินตามโรงแรมหรือรีสอร์ท การนอนเต็นท์หรือนอนในโรงแรมไม่สามารถทำให้ตัวเราได้ไปอยู่ในทุกที่ที่อยากนอนได้ แต่รถบ้านจะให้อีกประสบการณ์ในการพาตัวเราออกไปอยู่ตรงไหนก็ได้ นึกอยากจะจอดนอนชมวิวตรงไหนก็สามารถทำได้ เพราะทั้งสะดวกและปลอดภัย” คุณธัชชัยผู้สันทัดในการท่องเที่ยวทุกรูปแบบย้ำในความพิเศษของการเดินทางด้วยรถบ้าน

carry campiness
จัมทรา แคมปิเนส พิษณุโลก
carry campiness
จัมทรา แคมปิเนส กาญจนบุรี

“นอกจากนี้ การขับรถบ้านไปเที่ยวยังตรงกับคอนเซ็ปต์ของ จัมทรา แคมปิเนส นั่นคือ การที่เรายอมให้ธรรมชาติเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา เช่น ในเคบินหรือกระโจมทุกหลังของเราจะปลูกต้นไม้ไว้ในห้องนอน ห้องน้ำ ปล่อยให้มีสายลม แสงแดด สายฝน สาดเข้ามายังบริเวณที่พัก นั่นคือการเอาตัวเราเข้าไปหาธรรมชาติ ในขณะที่ก็ยังสามารถพักผ่อนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ CARRY CAMPINESS เองก็ทำได้เช่นกันในการพาผู้ขับขี่เดินทางไปจอดยังจุดหมายที่ต้องการ

carry campiness
ทิวทัศน์ที่ จัมทรา แคมปิเนส เชียงใหม่
carry campiness
ทิวทัศน์ที่ จัมทรา แคมปิเนส พิษณุโลก

“CARRY CAMPINESS จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปลุกกระแสให้คนหันมาสนใจการท่องเที่ยวด้วยรถบ้านกันมากขึ้น เพราะเดิมในบ้านเรายังไม่เคยมีการเปิดตัวรถอาร์วีอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ ไม่ใช่ค่ายรถยนต์อย่างซูซูกิที่มีมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ซึ่งผมเชื่อว่าคนที่ได้เห็น CARRY CAMPINESS คันนี้ต้องอยากเป็นเจ้าของและวางแผนทริปในฝันทันที” คุณธัชชัยย้ำด้วยความมั่นใจว่าการออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยด้วยรถบ้านจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่คนไทยจะให้ความนิยมในไม่ช้า

carry campiness

“ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว ความสุขที่จีรังและหาได้ง่ายที่สุดของมนุษย์ คือ การได้ใกล้ชิดธรรมชาติ แค่ได้นั่งในที่ที่มีสายลมพัดเย็นสบาย ได้ยินเสียงนกร้องและใบไม้เสียดสีกัน นั่นคือความสุขอย่างยั่งยืนที่หาได้จากสิ่งรอบตัว ยิ่งถ้ามีรถคันเก่งที่สามารถพาเราเดินทางไปที่ไหนก็ได้ที่อยากจะไปและได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายในแบบที่ต้องการ ผมว่าแค่นั้นก็พอแล้ว” แคมเปอร์เจ้าของบูติกรีสอร์ทแห่งความสุขปิดท้ายด้วยนิยามแห่งความสุขในแบบฉบับของ Jumtla Campiness ที่แมทช์กับ CARRY CAMPINESS อย่างลงตัว