life

‘นางาโนะ’ เป็นเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่นที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูง นอกจากจะเป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงามน่าไปเยือนแล้ว ที่นี่ยังได้ชื่อว่ามีประชากรที่อายุยืนที่สุดในโลก 

ผู้หญิงในเมืองนางาโนะมีอายุขัยเฉลี่ย 87.2 ปี ในขณะที่ผู้ชายเฉลี่ย 80.9 ปี ซึ่งเป็นอายุขัยที่สูงที่สุดในโลก 

หญิงชราชาวนางาโนะกำลังจะปั่นจักรยาน

ก่อนหน้านั้น ในปี 1981 ประชากรที่นี่เคยประสบปัญหาโรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดโป่งพองในสมอง จากตัวการร้ายที่ชื่อว่า สึเคโมโนะ (tsukemono) หรือผักดองเค็มซึ่งเป็นอาหารประจำจังหวัดที่ผู้คนนิยมกินในหน้าหนาว 

หลังจากนั้นจึงมีการรณรงค์ให้ชาวเมืองปรับเปลี่ยนวิธีการกินของ ทำให้สุขภาพของประชากรนากาโนะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

ไม่ใช่แค่นางาโนะ แต่ประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศที่ประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยเยอะที่สุดในโลก เห็นได้ว่านอกจากสิ่งแวดล้อมดีๆ วิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าแล้ว ‘อาหาร’ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอายุยืนยาว

ชายชรานั่งเล่นกับสุนัขพันธุ์ชิบะในเมืองนางาโนะ

วิธีการกินแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้นส่งผลให้พวกเขาสุขภาพดีอย่างไม่รู้ตัว เราเรียกสิ่งนี้ว่า ‘1975 diet’ หรือการกินแบบฉบับปี 1975 ซึ่งเป็นวัฒนธรรการกินอาารแบบฉบับคุณตาคุณยาย 

‘1975 diet’

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Little Forest

ในภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Little Forest มีหญิงสาวคนหนึ่ง หนีจากเมืองไปใช้ชีวิตคนเดียวในชนบท สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การทำไร่ทำสวนของเธอคือวัฒนธรรมการกินแบบชนบท ที่เน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เก็บผักสวนครัวสดๆ ปรุงง่ายๆ ในบ้าน อาจเรียกได้ว่าเป็นการกินในแบบฉบับ 1975 ที่เรากำลังพูดถึง ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • แบ่งอาหารเป็นจานเล็กๆ: อาหารจะถูกแบ่งให้อยู่ในจานเล็กๆ หลายจาน เช่น เต้าหู้ ซุป หรือถั่วที่เสิร์ฟมาในปริมาณพอดี 

  • เลือกวิธีปรุง: แต่ละจานจะทำให้สุกด้วยการเคี่ยวและนึ่ง หรือไม่ก็ทานแบบดิบไปเลยเพื่อคงรสชาติของอาหาร เช่นผักหรือผลไม้ นอกจากนี้ยังนิยมต้มและย่าง น้อยครั้งที่จะทอดหรือผัดเพราะจะทำให้สารอาหารบางอย่างสลายไป 

  • ใช้วัตถุดิบชั้นดี: กินถั่วเหลือง พืช ผัก อาหารทะเล หรือวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น และทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป  

  • หมักเครื่องปรุง: ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้เครื่องปรุงจากธรรมชาติ เช่น ซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลือง มิโซะ น้ำส้ม มิรินหรือสาเกที่หมักเองในบ้าน ทั้งยังลดการใช้เกลือและน้ำตาลลงอีกด้วย
หญิงชรากำลังนำหัวไชเท้าไปตากแห้ง

1975 diet ดีกว่าอาหารปีอื่นๆ อย่างไร ?

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีอาหารที่เรียกว่า ‘โยโชคุ’ หรือเมนูแบบตะวันตกที่ประยุกต์ให้เข้ากับอาหารญี่ปุ่น เช่น ทงคัตสึ-ข้าวหน้าหมูทอด เกี๊ยวซ่า แฮมเบิร์ก หรือเทมปุระ อาหารเหล่านี้เน้นการทอดและมีเครื่องปรุงที่ซับซ้อนกว่าอาหารแบบดั้งเดิม มีส่วนทำให้วิถีการกินของผู้คนเปลี่ยนไป นำพามาซึ่งโรคยอดฮิตต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในหลอดเลือด ฯลฯ

สตรีทฟู้ดในเมืองโอซาก้า

หลังจากที่ผู้คนเริ่มเจ็บป่วยจากอาหาร จึงมีการทดลองให้แน่ใจว่าการกินแบบดั้งเดิมจะช่วยให้สุขภาพของคนเราดีกว่าอาหารแบบสมัยนิยมได้จริง 

ด้วยเหตุนี้จึงมีการทดลองกับหนู โดยการให้หนูกินอาหารของปี 1960, 1975, 1990 และ 2005 เป็นเวลา 8 เดือน ผลปรากฏว่า หนูที่กินอาหารของปี 1975 และ 1990 มีแนวโน้มที่จะมีไขมันในร่างกายและเป็นโรคอ้วนน้อยกว่าหนูที่กินอาหารสมัยใหม่ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานและไขมันพอกตับน้อยกว่าปีอื่นๆ 

คัตสึด้ง (Katsudon) หรือข้าวหน้าหมูทอด เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก

นอกจากนี้ยังมีการวัดค่าของความชรา พบว่าหนูที่กินอาหารของปี 1975 และ 1990 มีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่า ทั้งยังมีความจำและการรับรู้ที่เป็นเลิศอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม การทดลองในหนูนั้นก็ยังไม่บอกได้แน่ชัดว่าอาหารแบบปี 1975 จะส่งผลดีกับร่างกายมนุษย์ด้วย ดังนั้นมหาวิทยาลัย Tohoku ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ตัดสินใจทำการทดลองกับคน 

อาหารแบบสมัยนิยม

นักวิจัยคัดเลือกคนที่มีรูปร่างอวบอายุระหว่าง 20-70 ปี มาทดลองเป็นเวลา 28 วัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่กินอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่พบได้ในปัจจุบันและกลุ่มที่กินอาหารแบบปี 1975 ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่ากลุ่มที่กินอาหาร 1975 diet นั้นมีรอบเอวลดลง และมีไขมันดีในร่างกายเพิ่มขึ้น 

นัตโตะ (Natto) หรือถั่วหมัก คนญี่ปุ่นนิยมทานก่อนมื้ออาหารเพื่อกระตุ้นให้ระบบย่อยทำงานได้ดี

นอกจากนี้ เมื่อทดลองกับกลุ่มผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ การกินแบบ 1975 diet ยังทำให้ความเครียดลดลง และมีส่วนเพิ่มจุลินทรีย์ชั้นดีในลำไส้อีกด้วย

เมนูแบบ 1975

เอาล่ะ ลองมาดูกันว่า ตัวอย่างอาหารแบบ 1975 diet มีเมนูอะไรบ้าง เช่น…

  • ข้าวแซลมอนย่างเกลือ นัตโตะ มิโซะซุปพร้อมผักกาดขาว และถั่วงอก 
  • ข้าวและซาชิมิ ซัทสึมะอาเงะ (เนื้อปลาขูดและปรุงรส) เคี่ยวกับผักกาดขาว สลัดเต้าหู้
  • ข้าวและผัดมะเขือม่วงใส่ไก่ และซุปสาหร่ายฮิจิกิ
  • ขนมปัง ไข่ต้ม สลัดทูน่าและบร็อคโคลี ผลไม้และนม

การกินแบบ 1975 นั้นส่งผลดีต่อร่างกายมากมาย จนทำให้หายสงสัยว่าทำไมชาวญี่ปุ่นที่เติบโตมาในยุคนั้นถึงมีอายุยืนยาว แต่การอยู่บนโลกได้นานๆ อาจยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการกินอาหารที่มีประโยชน์

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน จิตใจที่สดใสเบิกบาน และเดินเหินได้อย่างแข็งแรง แม้ในวันที่อายุมากแล้วก็ตาม

อ้างอิง