หากนึกถึงทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่สวยงามและเงียบสงบ
ทะเลในอำเภอชะอำคงเป็นหนึ่งในคำตอบ
เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมง
ชะอำจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งสถานที่หลบภัย หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง
แต่ทุกวันนี้ ชายหาดชะอำบางส่วนกำลังจะหายไป เพราะกระแสลมธรรมชาติเปลี่ยนทิศทาง น้ำทะเลซัดเข้าชายฝั่งในทิศทางใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หาดทรายถูกเซาะและไม่สามารถทนแรงซัดของน้ำทะเล และกำลังจะสูญหายอย่างไม่หวนกลับ
ขณะที่กรมเจ้าท่าประจำเมืองชะอำพยายามเข้ามาฟื้นฟูหาดทรายให้คงอยู่ โดยนำถุงทรายมาวางเป็นแนวกันคลื่น
หาดทรายหลายจุดในชะอำวันนี้ จึงไม่เหมือนเดิมและไม่งดงามเหมือนวันเก่า
ในมุมมองของผม ทะเลและหาดทรายที่ชะอำชวนให้นึกถึงบทเรียนในชีวิตมนุษย์ที่ว่า
ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่สามารถคาดเดาได้
“ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบแล่นอยู่ในทะเล” บทเพลงแห่งท้องทะเลที่คุ้นหูมาตั้งแต่เด็ก ผมมักจะนึกถึงแทบทุกครั้งที่ได้มายืนมองน้ำทะเลจากริมชายฝั่งทะเลชะอำ
ริมหาดบางส่วนของชะอำถูกเปลี่ยนจากหาดทรายขาว เป็นกระสอบทรายกันคลื่นสีหม่นที่วางเรียงรายอยู่หน้าหาด
ถึงริมหาดจะเปลี่ยนแปลง แต่วิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ยังคงเหมือนเดิม โดยเฉพาะบริการจูงม้าชมชายหาด
เช่นเดียวกับเด็กๆ ที่ยังคงชอบมาเล่นทราย
การเดินริมชายหาดบนทรายสีขาวนุ่ม ที่มีกระแสลมคอยพัดพาน้ำทะเลขึ้นลงบนหาดทรายให้โดนเท้าเล็กน้อย ถูกแทนที่ด้วยการเดินบนกระสอบทราย
กระแสลมเปลี่ยนทิศไม่ได้ทำให้หาดสูญเสียพื้นที่ไปจนหมด ยังมีพื้นที่กว้างบางส่วนให้เดินเล่นรับบรรยากาศริมทะเล
ป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการลงไปเล่นน้ำ เนื่องจากบริเวณที่วางกระสอบทรายเป็นทางลาดต่างระดับ
ในอนาคต ชายหาดชะอำอาจจะไม่มีพื้นทรายให้เดินเล่นอีกต่อไป