ในช่วงที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังคงระบาดจนทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปจากเดิม
ไม่เว้นแม้แต่ พระสงฆ์ ผู้มีชีวิตเรียบง่ายที่สุด ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันหลายอย่างที่ไม่คุ้นเคย
รวมทั้งต้องแต่งกายในแบบที่คนไทยไม่คุ้นตา เรียกได้ว่าอาจเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์
ในช่วงวิกฤตโควิด-19 พระสงฆ์ในกรุงเทพฯ ยังคงออกบิณฑบาตยามเช้า แต่นอกจากบาตรที่เป็นหนึ่งในบริขารหรือเครื่องใช้ไม้สอยคู่กายแล้วแล้ว พระสงฆ์ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันภัยจากเชื้อไวรัส
พระสงฆ์บางรูปใส่ face shield ป้องกันการระบาดของโรคอย่างหนาแน่น
แม้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะกระจายไปทั่วทั้งประเทศ แต่พุทธศาสนิกชนยังคงทำบุญตักบาตรกันตามปกติ ในขณะที่พระสงฆ์ยังคงออกมาบิณบาตพร้อมสวมใส่หน้ากาก แม้ยามให้ศีลให้พร
ไม่เพียงแต่ช่วงบิณฑบาตรยามเช้า แต่เมื่อยามต้องออกไปทำกิจนอกวัด เหล่าพระสงฆ์ต้องใส่หน้ากากอนามัยติดตัวตลอดเวลา
โควิด-19 ไม่สามารถหยุดยั้งความขยันของเหล่าสามเณรได้ ระหว่างชั้นเรียนในวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พระสงฆ์และเณรทุกรูปต้องใส่หน้ากากและปิดทับด้วย face shield อีกชั้น เพื่อสื่อสารกันได้ตามปกติ
ในช่วงเวลาปกติ เหล่าสามเณรจะนั่งเรียนใกล้ชิดติดกัน แต่ในช่วงนี้สามเณรทุกรูป ต้องนั่งห่างกันเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม
ชีวิตสงฆ์ภายในวัดต้องเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง แม้แต่การนำสวดมนต์ให้พรหรือรับอาหารเช้าจากญาติโยม
ทางวัดต้องจัดฉากพลาสติกกั้นระหว่างพระสงฆ์และผู้ที่มาถวายสังฆทาน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19
เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ฉีดสเปรย์ให้ผู้ร่วมสวดมนต์ก่อนเข้าร่วมสวด ‘รัตนสูตร’ บทสวดที่เชื่อกันว่าช่วยขจัดภัยจากโรคระบาด
ช่วงสวดมนต์ทำวัตรเย็น แม้เหล่าพระสงฆ์ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับญาติโยม แต่ยังต้องใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา
ในช่วงที่พระสงฆ์จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันภัยจากโรคโควิด-19 และเพื่อความสุภาพตามธรรมเนียมสงฆ์ หน้ากากส่วนใหญ่จึงทำมาจากผ้าสีเดียวกับจีวร ขณะเดียวกันพระสงฆ์บางรูปมีการเขียนยันต์คาถาปัดเป่าโรคร้ายตามความเชื่อของตัวเอง