life

การเล่นนั้นเป็นธรรมชาติที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่กำเนิด

เมื่อทารกลืมตาดูโลก ทุกสิ่งล้วนแปลกใหม่ การเล่นและทำความรู้จักกับสิ่งต่างๆ จึงเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้สำคัญของมนุษย์

แต่พอโตขึ้น คนส่วนใหญ่กลับมองการเล่นสนุกในเชิงลบ และเปล่าประโยชน์ ทั้งๆ ที่การเล่นคือกระบวนการสำคัญที่จุดประกายให้มนุษย์สร้างสรรค์งานที่ยิ่งใหญ่ และทำให้ชีวิต ‘โปรดักทีฟ’ หรือทำงานใดๆ ให้สำเร็จลุล่วง

เพียงแค่ยอมปล่อยให้ตัวเองกลับมาเล่นสนุกกับงานตรงหน้าเหมือนเด็กๆ อีกครั้ง 

ข้อดีของการทำ (งาน) ไป เล่นไป

การทำงานที่ได้รับมอบหมายหรืองานอดิเรกโดยยึดหลักการเล่นสนุก จะทำให้เกิด ‘แรงผลักดัน’ หรือ ‘แพสชั่น’ ในการทำสิ่งนั้นอย่างแรงกล้า

แม้ฟังดูย้อนแย้ง แต่การทำสิ่งต่างๆ แบบไม่คาดหวังกับผลลัพธ์ เป็นส่วนช่วยให้งานออกมาดี เนื่องจากเมื่อไร้ซึ่งความคาดหวัง จะทำให้เราทำงานได้อย่างอิสระ และมีเวลามากพอสำหรับการสำรวจ เรียนรู้ และทดลอง

Amos Tversky นักจิตวิทยาชาวอิสราเอล กล่าวว่า “ความลับของการทำงานวิจัยที่ดีคือการทำงานแบบไม่เต็มวัน แม้คุณจะใช้เวลาหลายปีในการศึกษา แต่ช่วงเวลาว่างนั้นไม่เคยสูญเปล่าเลย”

นั่นหมายความว่า เวลาว่างหลังการทำวิจัย เป็นช่วงเวลาอันมีค่าที่เปิดโอกาสให้เราได้คิดทบทวนเรื่องนั้นอย่างอิสระ และหาคำตอบด้วยตัวเองแบบค่อยเป็นค่อยไป  

ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็เหมือนกับเหล่าแฟนคลับศิลปินที่มีฝีมือกาถ่ายภาพไม่แพ้ช่างภาพมืออาชีพ แม้บางคนจะเพิ่งเคยจับกล้องถ่ายรูป แต่ด้วยใจรักที่จะติดตามถ่ายภาพศิลปินที่ตนชื่นชอบ ทำให้พวกเขามีโอกาสได้ลองฝึกปรือฝีมือเรื่อยมา อย่างไม่ต้องกดดันตัวเอง 

การทำงานแบบไร้เป้าหมาย ไม่มีใครคอยตัดสินและเป็นอิสระจากเดดไลน์ จึงทำให้เราไม่ต้องคอยพะวงความผิดพลาดที่จะตามมา ไม่มีสิ่งใดที่ถูกและผิด แต่ทุกอย่างคือการเรียนรู้และทำความเข้าใจ 

และเป็นโอกาสให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อีกด้วย

เล่นสนุกกับ ‘งานอดิเรกและความคลั่งไคล้’

ความสนใจหรือคลั่งไคล้ในบางสิ่ง อาจทำให้เราก้าวเข้าสู่เส้นทางใหม่ๆ ที่ไม่คาดคิดมาก่อน

ครั้งหนึ่ง สตีฟ จ็อบส์ เล่าถึงช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยว่า หนึ่งในวิชาโปรดของเขาคือ calligraphy หรือการคัดอักษรวิจิตร เขาตั้งใจและใช้เวลากับการเขียนสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษ และนั่นก็ทำให้เขาได้แรงบันดาลใจในการออกแบบฟอนต์คอมพิวเตอร์Macintosh แสนคลาสสิก

ยิ่งไปกว่านั้นงานอดิเรกยังช่วยเพิ่มพูนความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เนื่องจากภาระในชีวิตประจำวันของเรามักเต็มไปด้วยแรงกดดัน จนอาจทำให้เกิดความผิดพลาดและสูญเสียความมั่นใจการทำงานอดิเรกได้ดีจึงช่วยปลอบประโลม และทำให้คนเรากลับมาเชื่อมั่นในตัวเองได้อีกครั้ง 

นอกจากนี้ หากได้บอกเล่าและแบ่งปันความสนใจให้กับคนรอบข้างหรือเพื่อนที่ทำงาน ก็จะช่วยให้ทำงานเป็นทีมกันได้ดียิ่งขึ้น เพราะมนุษย์เรามักจะรู้สึกสนิทใจกับคนที่เรารู้จัก และสนใจเรื่องเดียวกันอยู่เสมอ

หากตอนนี้คุณกำลังรู้สึกเบื่อ ลองหางานอดิเรกที่ชื่นชอบ หรือทำงานด้วยความรู้สึกทำไปเล่นไป แล้วใช้เวลาเล่นสนุกกับสิ่งนั้นไปเรื่อยๆ 

ไม่แน่ คุณอาจได้พบประตูที่จะนำเราไปสู่การสร้างสรรค์ครั้งใหม่ก็เป็นได้

อ้างอิง