นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้ไป ‘เดิน’ งานหนังสือ
สำหรับคนรักหนังสือและสัมผัสบนหน้ากระดาษ คงเป็นเรื่องบีบคั้นใจไม่น้อยหากต้องเลือกซื้อหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์ หรือต่อให้เข้าร้านหนังสือที่กลับมาเปิดบริการตามเวลาปกติ ก็ยังทดแทนความรู้สึกที่มีต่องานหนังสือไม่ได้อยู่ดี (หวังว่าปีหน้าจะได้กลับไปเดินงานหนังสือเสียที)
แม้ Hybrid Book Fair 2021 หรือ มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26 รูปแบบออนไลน์จะเพิ่งจบลงไปเมื่อวาน แต่การหาหนังสือดีๆ มาอ่านสัก คือกิจกรรมที่ไม่มีวันหมดอายุ ด้วยเหตุนี้ becommon จึงคัดสรรหนังสือไทย 10 เล่มมาแนะนำกันอีกครั้ง เผื่อตกหล่นจากลิสต์หนังสือน่าอ่านส่งท้ายปีของใคร เพราะไม่อยากให้พลาดไป
01
วินาทีไร้น้ำหนัก
‘เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร?’ คือคำถามสำคัญที่นวนิยายเล่มนี้ต้องการถามผู้อ่านผ่านเรื่องราวทั้งหนักอึ้งและเบาหวิวในเวลาเดียวกันจากชีวิตกึ่งจริงกึ่งแต่งของบรรดาตัวละครหลายที่มา คล้ายกับว่าทั้งเขาและเธอผู้นั้นต่างก็เป็นคนคุ้นเคยที่รายล้อมอยู่รอบตัว หรืออาจทำให้สะท้อนคิดถึงตัวเองว่ากำลังเผชิญชะตากรรมเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
เมื่อชีวิตต้องประสบกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ในเสี้ยววินาทีนั้นแต่ละคนจะทำความเข้าใจทั้งหมดของชีวิตที่ผ่านมาว่าอย่างไร ผลที่เกิดขึ้นตามมาย่อมกระทบกระทั่งและสั่นสะเทือนถึงกัน หวังนำไปสู่การค้นพบความหมายและคุณค่าบางอย่างของการมีชีวิต บางที นั่นอาจเป็นคำตอบที่ใครหลายคนพยายามแสวงหามาตลอด
นี่คือนวนิยายเรื่องแรกของ วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ นักเขียน นักแปล และอดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารมากฝีมือ ซึ่งใช้เวลาเขียนและปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดมากกว่า 10 ปี
ผู้เขียน: วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
สำนักพิมพ์: มติชน
จำนวนหน้า: 356 หน้า
ราคาปก: 400 บาท (ปกอ่อน)
02
‘ไอโกะ’ แปลว่าความรัก
‘ไอโกะ’ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ‘ความรัก’ และยังเป็นชื่อของเด็กสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เจ้าของบันทึกเกี่ยวกับแม่จากความทรงจำอันกระจัดกระจาย หรืออาจเรียกว่านวนิยายรูปแบบใหม่ก็ได้ ตามแต่ผู้อ่านจะเข้าใจและอยากให้เป็น
ทั้งหมดคือเรื่องราวของแม่คนไทย ตั้งแต่เป็นเด็กหญิงจนเติบโตเป็นสาว และพบรักกับชายคนญี่ปุ่น ก่อนทั้งสองจะตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน กลายเป็นคุณแม่และคุณแม่ของไอโกะ เธอจึงเขียนบันทึกเล่มนี้ด้วยความตั้งใจจริงและปรารถนาดีว่า อยากให้แม่ผู้อ่านหนังสือไม่ค่อยออกเพราะเรียนมาน้อย รับรู้ได้ถึงความงดงามของความทรงจำ แม้คนรักที่สุดของชีวิตได้จากไปแล้ว
บันทึกเล่มนี้จึงไม่เพียงแค่อ่านง่าย แต่ยังทำให้สัมผัสได้ถึงมวลความรู้สึกที่สั่นสะเทือนอารมณ์ให้หวั่นไหว ทั้งสุข เศร้า อบอุ่น และคิดถึง เพราะเราต่างมีคนสำคัญในชีวิต ผู้ทำให้รู้จักว่าความรักนั้นเป็นอย่างไร
ผู้เขียน: ไอโกะ ฮามาซากิ
สำนักพิมพ์: ผีเสื้อ
จำนวนหน้า: 176 หน้า
ราคาปก: 239 บาท (ปกอ่อน), 399 บาท (ปกแข็ง)
03
เล่าเรื่องผี
หนังสือขนาดกะทัดรัดเล่มนี้บอกเล่าเรื่องผีได้อย่างครบรส ทั้งตื่นเต้นลุ้นระทึก ตลกขบขัน และบีบหัวใจ กลายเป็นความแตกต่างที่ทำให้แต่ละตอนน่าติดตามอ่านด้วยความสงสัยใคร่รู้ถึงเหตุการณ์ต่อไป เพื่อเข้าใจต้นสายปลายเหตุของทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น
‘ผี’ ใน ‘เล่าเรื่องผี’ จึงเป็นมากกว่าตัวแทนความสยองขวัญหรือสิ่งลึกลับที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่แค่ภาพจำเชยๆ ของผี ที่มักจะโผล่มาจากความมืดแล้วคอยหลอกคนจนจับไข้หัวโกร๋น และไม่ได้ทำให้ขนหัวลุกอย่างเดียวแล้วจากไป เพราะผีทุกตนล้วนข้องเกี่ยวกับชีวิตทุกคนไม่มุมใดก็มุมหนึ่งเสมอ
ด้วยประสบการณ์ ความเชื่อ และสัมผัสพิเศษของผู้เขียน ยิ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังนั่งเล่าให้ฟังอยู่ตรงหน้า เป็นความเพลิดเพลินจนวางหนังสือไม่ลง กว่ารู้ตัวอีกทีก็อ่านจวนจบถึงหน้าสุดท้าย
ผู้เขียน: วดีลดา เพียงศิริ
สำนักพิมพ์: ทะเลจันทร์
จำนวนหน้า: 87 หน้า
ราคาปก: 195 บาท (ปกอ่อน)
04
จุงกิง เซ็กซ์เพรส
หลังจากเห็นชื่อหนังสือก็ชวนให้คิดว่า ผู้เขียนอาจได้แรงบันดาลใจมาจากหนังของหว่องกาไวเรื่อง ‘Chungking Express’
แต่แท้จริงแล้ว นวนิยายเล่มนี้เกิดขึ้นขณะผู้เขียนอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟสายใต้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งกล่าวถึงโรงแรม ‘ยุงกิง’ หรือ ‘จุงกิง’ ที่เปิดบริการให้ทหารชาวญี่ปุ่นเข้ามาดับกำหนัดโดยเฉพาะ
จากเค้าโครงของอดีต สู่เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ก่อเกิดขึ้นระหว่าง เธอ เขา และเขาอีกคน หรือระบุให้ชัดเจนขึ้นได้ว่า หญิงบำเรอ นายพัน และนักฆ่า เมื่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์กลายมาเป็นฉากหลังที่ฉายทับซ้อนกับฉากชีวิตของบรรดาตัวละครผู้มีสิ่งที่ตนปรารถนา จึงเป็นเรื่องชวนติดตามว่า ท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของแต่ละคนจะลงเอยอย่างไร และได้ในสิ่งที่ต้องการหรือไม่
ผู้เขียน: อนุสรณ์ ติปยานนท์
สำนักพิมพ์: Shine Publishing House
จำนวนหน้า: 144 หน้า
ราคาปก: 165 บาท (ปกอ่อน)
05
Be Fairy, Be Real พายุ พระอาทิตย์ อิทธิฤทธิ์ แฮปปี้!
รวมเรื่องสั้นอ่านจบในตอนของบรรดาตัวละครสายมูผู้เปี่ยมด้วยความศรัทธาต่อไสยศาสตร์ เวทมนตร์ และจิตวิญญาณ แต่กำลังตกทุกข์ได้ยาก หรือไม่ก็เผชิญหน้ากับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต จนต้องรวมกำลังกายเข้ากับพลังใจ เพื่อใช้ต่อสู้ทุกอุปสรรคขวากหนามให้ผ่านพ้นไป
ความเชื่อพร้อมความหวังอันแรงกล้าในตัวของแต่ละคน จึงกลายเป็นมนตราและพรวิเศษที่จะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาเติบโตต่อไปได้ หากใครเคยบอบช้ำและต้องทนทุกข์อยู่กับบาดแผลทางใจ สิ่งเดียวกันนี้ยังจะช่วยเยียวยารักษาและปลอบประโลมให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดทั้งปวง
ขอเพียงสู้สุดตัว เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ผู้เขียน: ปัฐน์
สำนักพิมพ์: P.S.
จำนวนหน้า: 128 หน้า
ราคาปก: 185 บาท (ปกอ่อน)
06
HAVE A GOOD DIE วันนี้คือวันตายของเจ้า!
ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า ช่วงเวลาแสนสั้นหรือวินาทีสุดท้ายของชีวิตก่อนตาย มีหน้าตาเป็นอย่างไร (และคงไม่มีใครอยากรู้) แต่ด้วยความช่างสงสัยของนักวาดการ์ตูน เจ้าของเพจ PPONG 4KOMA Everyday จึงทดลองจินตนาการถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับความตายหลายรูปแบบ แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นการ์ตูน 4 ช่องที่สื่อความรู้สึกทั้งระทึกและหฤหรรษ์
ไม่ว่าตัวการ์ตูนจะตายเพราะสาเหตุใด เรียบง่ายแสนธรรมดาหรือแปลกพิสดารเกินคาด ทุกความตายและการสูญเสีย ล้วนย้ำเตือนให้นึกถึงจุดจบหรือวันสุดท้ายของชีวิตตัวเองอยู่ดี
ผู้เขียน: PPONG (พี่โป้ง)
สำนักพิมพ์: แซลมอน
จำนวนหน้า: 176 หน้า
ราคาปก: 215 บาท (ปกอ่อน)
07
เรื่องของหมา
ตำแหน่งสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุด คงไม่พ้น ‘หมา’ จนเกิดเป็นคำกล่าวทำนองว่า ‘หมาคือเพื่อนแท้สี่ขาของมนุษย์’ และต่อให้ไม่ได้เลี้ยงหรือมีเจ้าหมาอยู่ในความดูแล แต่เชื่อเถอะว่าส่วนหนึ่งของชีวิตเราย่อมมีหมาเข้ามาข้องเกี่ยวหรือทำให้รู้สึกผูกพัน เพราะความน่ารักน่าเอ็นดูและแสนรู้ของมัน
หนังสือเล่มนี้รวบรวมเรื่องราวของหมาทั้งในประวัติศาสตร์ คติธรรม ตำนาน ความเชื่อ และสิ่งละอันพันละน้อย จากห้วงคำนึงและการสืบค้นของ ส. พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของสองเผ่าพันธุ์ระหว่างมนุษย์และหมาให้ลึกและกว้างกว่าเดิม
ผู้เขียน: ส. พลายน้อย
สำนักพิมพ์: ยิปซี
จำนวนหน้า: 160 หน้า
ราคาปก: 170 บาท (ปกอ่อน)
08
สิบเจ็ด สิบแปด สิบเก้า
‘Zine’ หรือ ‘หนังสือทำมือ’ เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศไทยไม่กี่ปีให้หลัง หนึ่งในคนสำคัญที่ปลุกกระแสให้ผู้คนสนใจรูปแบบสิ่งพิมพ์กึ่งงานศิลปะซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ ‘วิว’ เจ้าของ Spacebar Design Studio และ Spacebar Zine สตูดิโอออกแบบและผลิตสิ่งพิมพ์อิสระ
ด้วยประสบการณ์ทำงานและความทรงจำตลอดหลายปีที่เธอมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับซีนมาตลอด ทั้งเดินทางไปร่วมงานเทศกาลหนังสือศิลปะในต่างประเทศ แวะตามรอยภาพยนตร์ที่เธอรัก และสถานที่ที่น่าสนใจ จึงเกิดเป็นหนังสือกึ่งซีนในแบบที่เธอชอบเล่มนี้ โดยเล่าเรื่องผ่านภาพถ่ายพร้อมความเรียงไม่ยาวไม่สั้น แต่อธิบายเหตุการณ์และบรรยายความรู้สึกได้ครบความ คล้ายกับได้ออกเดินทางไปกับเธอ
ผู้เขียน: วิมลพร รัชตกนก
สำนักพิมพ์: Spacebar Design Studio
จำนวนหน้า: 192 หน้า
ราคาปก: 390 บาท (ปกอ่อน)
09
สุขก็เล่า เศร้าก็ฟ้อง
หลายเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเจอเอง แค่เรียนรู้จากบทเรียนชีวิตคนอื่นก็เพียงพอแล้ว หรือถึงคราวที่ต้องเจอเข้ากับตัวจริงๆ ก็ถือว่ามีภูมิต้านทานทางใจอยู่บ้าง น่าจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาลงได้
เรื่องราวและคำบอกเล่าในเล่มนี้เหมือนภาพสะท้อนประสบการณ์หลากหลาย ที่มาพร้อมข้อคิดสะกิดเตือนราวกับมีเพื่อนนั่งอยู่ข้างๆ คอยตบบ่า กอด ปลอบใจให้ชีวิตไปต่อได้ เพราะเหตุที่เราเศร้าอาจเกิดขึ้นจากความโดดเดี่ยว รู้สึกว่าไม่มีใครรอบตัวพร้อมรับฟังเรื่องอัดอั้นตันใจหรือให้เราปรับทุกข์
ก็อย่างที่พี่อ้อยบอก “ความสุข ยิ่งแบ่งยิ่งสุข ความทุกข์ ยิ่งแบ่งยิ่งเบา”
ผู้เขียน: ดีเจพี่อ้อย
สำนักพิมพ์: อะไรเอ่ย
จำนวนหน้า: 216 หน้า
ราคาปก: 255 บาท (ปกอ่อน)
10
ความจริงไม่ได้มีหนึ่งเดียว
ความจริงคืออะไรกันแน่ แล้วเหตุใดอคติในใจจึงมักชักนำให้เราตัดสินทุกอย่างในชีวิตเป็นสองฝั่งสองขั้วเสมอ ไม่ถูกก็ผิด ไม่ดีก็ชั่ว
หนังสือเล่มนี้เสมอมุมมองหลากหลายเพื่อขยายความเข้าใจให้ผู้อ่านมองเห็นความจริงว่าไม่ได้มีหนึ่งเดียวอย่างที่เราเลือกเชื่อหรือเลือกไม่เชื่อ โดยอธิบายไล่ระดับตั้งแต่สิ่งที่อยู่ภายในตัว อย่างดีเอ็นเอ ความคิด สัญชาตญาณ ไปจนถึงสิ่งที่อยู่ไกลออกไปภายนอกที่เรียกว่าสังคมและสภาพแวดล้อม
ทุกหน้ากระดาษที่อ่านจบจึงชวนให้ทบทวนที่มาของความจริง ว่าอะไรทำให้เรายึดถือความจริงแตกต่างกัน แล้วเราจะอยู่ร่วมกันท่ามกลางความจริงที่หลากหลายได้อย่างไร ไม่ให้อคติในใจและความเกลียดชังผู้อื่นที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบมาบดบัง empathy เพียงเพราะเราต่างก็คิดและเชื่อไม่เหมือนกัน
ผู้เขียน: นิ้วกลม
สำนักพิมพ์: KOOB
จำนวนหน้า: 464 หน้า
ราคาปก: 395 บาท (ปกอ่อน), 495 บาท (ปกแข็ง)